ยังคงเป็นประเด็นที่หลายคนพูดถึงอยู่อย่างมากมายสำหรับเรื่องราวของสาวสวย โอปอล สุชาตา ช่วงศรี กับการสร้างประวัติศาสตร์ สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มงแรกแห่งประวัติศาสตร์มาให้คนไทยได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็น 72 ปีที่คอยสำหรับประเทศไทยในการคว้ามงกุฎดังกล่าว งานนี้ทำเอาคนไทยทั้งประเทศมีความสุขมากๆ และพูดถึงเธอผ่านโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
‘โอปอล’ เล่าที่มาชุดราตรีประวัติศาสตร์ สง่างามมากความหมายสมมง Miss World
72 ปีที่รอคอย ‘โอปอล-สุชาตา’ สร้างประวัติศาสตร์ คว้า ‘มิสเวิลด์’ มงแรกไทย
งานนี้ “เดลินิวส์ออนไลน์” จะพาทุกคนไปไขคำตอบการตอบคำถามของสาวโอปอลทั้งรอบ 8 คนสุดท้ายและ 4 คนสุดท้ายทำไมถึงสามาถพิชิตด่านหินคว้ามงฟ้ามาครองได้สำเร็จ

สำหรับคำถามในรอบ 8 คนจะต้องมาวัดกันที่คำถามที่ว่า คุณคิดว่าคุณควรได้เป็นมิสเวิลด์ ตัวแทนจากเอเชียและโอเชียเนียหรือไม่? ซึ่งคำตอบของโอปอลคือ
“สำหรับคำถามนี้ โอปอลมองว่ามันเหมือนกับการดูแลสวนดอกไม้ค่ะ ใคร ๆ ก็สามารถรดน้ำต้นไม้ได้ แต่ถ้าจะทำให้สวนงดงามและยั่งยืนจริง ๆ ต้องมีใครสักคนที่อยู่ดูแลมันอย่างต่อเนื่อง และสิ่งนี้ก็เหมือนกับบทบาทของ Miss Asia & Oceania ไม่ใช่แค่การแนะนำตัวเองพร้อมตำแหน่งที่ได้รับ แต่คือการทำให้ผู้คนรู้สึกได้ว่า โอปอลอยู่ตรงนี้เพื่อพวกเขา ยืนหยัดเคียงข้างพวกเขาจริง ๆ ผ่านโครงการ Beauty with a Purpose โอปอลได้เรียนรู้ว่า การใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าคือการมอบชีวิตและความฝันกลับคืนให้กับผู้ที่เคยสูญเสียมันไป และนั่นคือเหตุผลที่โอปอลยืนอยู่ตรงนี้ในวันนี้ เพื่อเป็นแสงแห่งความหวัง เป็นพลังแห่งความเข้มแข็ง และเพื่อทิ้งไว้ซึ่งร่องรอยของความหมายจนถึงลมหายใจสุดท้ายของชีวิต”
โดยคำตอบดังกล่าว สร้างความประทับใจให้กับกรรมการและแฟนๆนางงามทั่วโลกอย่างมากมาย เพราะโอปอลได้แสดงออกถึงการเป็นผู้หญิงยุคใหม่ที่มีความอ่อนหวานและเข้มแข็ง โดยไม่ย่อท้อต่อสิ่งต่างๆ และสามารถใช้ชีวิตของตนเองได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งเติบโตมาเป็นแรงบันดาลใจ และเป็นพลัง รวมถึงมอบความหวังให้กับคนที่ย่อท้อ ให้เขาได้มีกำลังใจและลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อความฝันของตนเองอีกครั้ง โดยการตอบคำถามดังกล่าว ทำให้หลายคนเห็นถึงความชาญฉลาดของเธออย่างมาก

ตามด้วยรอบ 4 คนสุดท้ายที่มีคำถามว่า “การเดินทางครั้งนี้สอนคุณอย่างไรเกี่ยวกับความจริง และความรับผิดชอบส่วนบุคคลในการกำหนดเรื่องราวที่ถูกเล่าขาน?”
โอปอล ตอบว่า “ขอบคุณมากสำหรับคำถามนี้ค่ะ และการได้มายืนอยู่ตรงนี้ ถือเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของโอปอลเลยค่ะสิ่งหนึ่งที่โอปอลได้เรียนรู้จากการอยู่บนเวที Miss World คือ ความรับผิดชอบต่อการที่ความจริงจะถูกถ่ายทอดออกไปอย่างไร และสิ่งที่สำคัญที่สุดที่โอปอล รวมถึงผู้เข้าประกวดทุกคน รวมถึงทุกคนในห้องนี้สามารถทำได้ ก็คือ การเป็นบุคคลต้นแบบที่คนรอบตัวสามารถยึดถือเป็นแบบอย่างได้โอปอลเชื่อมาเสมอว่า ไม่ว่าเราจะเป็นใคร จะอายุเท่าไหร่ หรือจะมีบทบาทหรือหน้าที่ใดในชีวิต ยังไงก็ต้องมีใครสักคนหนึ่งที่มองขึ้นมาหาเรา อาจเป็นเด็กเล็ก คนรอบตัว หรือแม้แต่พ่อแม่ของเราเองและวิธีที่ดีที่สุดในการนำทางคนเหล่านั้น ก็คือ การเป็นผู้นำผ่านความอ่อนโยนและการกระทำของเราเองเพราะการกระทำของเรานั้น เสียงดังกว่าคำพูดเสมอ นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เราสามารถมอบให้กับคนรอบข้าง และกับโลกใบนี้ขอบคุณมากค่ะ ขอให้ทุกคนโชคดี และอย่าลืมว่า จงมั่นคง และใช้การกระทำเป็นเสียงที่ดังกว่าคำพูด”
โดยคำตอบนี้ โอปอลได้ฉายภาพการเป็นบุคคลแบบอย่างให้กับใครสักคนหนึ่งบนโลกนี้ให้เราเห็นอย่างชัดเจน เพราะไม่ว่าเราจะเป็นใครก็ตามบนโลกใบนี้ เราทุกคนล้วนแล้วแต่มีผู้คนรอบข้างมองตรงมายังเราเสมอ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ซึ่งสิ่งที่จะสะท้อนเรื่องราวของคนเราออกไปให้คนเห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือ “การกระทำ” ซึ่งวันนี้โอปอลก็ได้ทำให้คนไทยทั้งประเทศเห็นแล้วว่า “ความพยายาม ไม่เคยทรยศใคร” โดยเธอเองก็ถือเป็นอีกหนึ่งบุคคลสำคัญที่ทำให้สาวๆหลายคนลุกขึ้นมาตามฝันของตัวเองในการอยากเป็นนางงาม และอยากพยายามให้ได้แบบเธอสักครั้ง ซึ่งเธอได้ตอบให้เราเห็นภาพและทำให้เราเห็นผ่านการกระทำแล้วจริงๆ

