ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุม สถานีตำรวจภูธรเมืองอุตรดิตถ์ พ.ต.อ.ลิขิตพงศ์ ศรีนาราง รองผบก.ภ.จว.อุตรดิตถ์ พร้อมด้วยหน่วยงานและภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุตรดิตถ์ แขวงทางหลวงอุตรดิตถ์ที่ 1 เทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ โรงเรียนอุตรดิตถ์ โรงเรียนอุตรดิตถ์ดรุณี บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยฯ และสื่อมวลชน อินฟลูเอนเซอร์ ร่วมประชุมลงนาม MOU โครงการ “ถนนปลอดภัย : สวมหมวกนิรภัยเทิดไท้องค์ราชัน ราชินี เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีในการสร้างสังคมที่ปลอดภัย สุขกายสุขใจกันทุกคน”

เนื่องด้วยสถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นในปัจจุบัน อันเป็นปัจจัยสำคัญต่อการได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตของประชาชนในพื้นที่ สถานีตำรวจภูธรเมืองอุตรดิตถ์ โดยงานจราจร รับผิดชอบงานจราจรในภาพรวมของพื้นที่ อ.เมืองอุตรดิตถ์, เทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ ได้มีการขับเคลื่อนงานจราจรทุกมิติ การวิเคราะห์หาสาเหตุของอุบัติเหตุทางถนน ซึ่งส่วนใหญ่พบว่า ปัจจัยหลักเกิดจากการขับรถด้วยความเร็วสูง รวมไปถึงพฤติกรรมการขับขี่ด้วยความประมาท เช่น การตัดสินใจเปลี่ยนช่องทางการเดินรถ การเลี้ยวรถ หรือการกลับรถกะทันหัน ทำให้เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกันบ่อยครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลสำคัญ เช่น เทศกาลปีใหม่ – สงกรานต์ ของทุกปี ซึ่งจะมีปริมาณรถเพิ่มมากขึ้นในพื้นที่เป็นพิเศษ สาเหตุรองลงมา คือ การขับรถในขณะเมาสุรา และไม่สวมหมวกนิรภัย โดยในส่วนที่กล่าวมาแล้วข้างต้น สถานีตำรวจภูธรเมืองอุตรดิตถ์ได้มีการเพิ่มความเข้มงวดกวดขันและบังคับใช้กฎหมาย เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุมาอย่างต่อเนื่อง

สถานีตำรวจภูธรเมืองอุตรดิตถ์ เป็นหน่วยงานหนึ่งซึ่งมีภารกิจและหน้าที่ ในการป้องกันและลดการเกิดอุบัติเหตุทางถนน จึงได้จัดทำโครงการ “ถนนปลอดภัย : สวมหมวกนิรภัยเทิดไท้องค์ราชัน ราชินี เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีในการสร้างสังคมที่ปลอดภัย สุขกายสุขใจกันทุกคน” เพื่อลดความรุนแรงและความสูญเสียจากอุบัติเหตุจราจรทางถนนของประชาชน ปลูกจิตสำนึกและเสริมสร้างพฤติกรรมการรักษาวินัยจราจรด้านการสวมใส่หมวกนิรภัยในขณะขับขี่และนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ซึ่งการจัดทำโครงการดังกล่าว มุ่งหวังให้ประชาชนได้รับความปลอดภัยในชีวิตและร่างกายมากขึ้น จากการลดความรุนแรงและการสูญเสียจากอุบัติเหตุจราจรทางถนน อีกทั้งให้ประชาชนมีจิตสำนึกและมีพฤติกรรมในการรักษาวินัยจราจร ด้านการสวมใส่หมวกนิรภัย ทั้งผู้ขับขี่และนั่งช้อนท้ายรถจักรยานยนต์