เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ที่ห้องประชุมพลอยจันท์ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดจันทบุรี ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ประชุมหารือกับ นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี, กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.), กรมป่าไม้, สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.), ตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินการพื้นที่รอบอ่างเก็บน้ำคิรีธาร ที่มีการบุกรุกพื้นที่เพื่อทำการเกษตรและปลูกพืชเศรษฐกิจ โดยพื้นที่บางส่วนอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และบางส่วนเป็นพื้นที่ของ ส.ป.ก. ที่ต้องตรวจสอบสิทธิ

ซึ่งที่ผ่านมา กรมพัฒนาพลังงานทดแทนฯ ได้แจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีกับผู้บุกรุกพื้นที่เกาะกลางอ่างเก็บน้ำ (เกาะร้อยไร่) 262 ไร่ และพื้นที่โดยรอบโครงการฯ อีก 17 ราย 21 แปลง แต่เนื่องจากพื้นที่บางส่วนมีประกาศเขตทับซ้อนระหว่างกรมพัฒนาพลังงานทดแทนฯ และ ส.ป.ก. ทำให้ชาวบ้านหลายรายเข้าใจคลาดเคลื่อนและเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าวตลอดระยะเวลาหลายสิบปี ซึ่งที่ผ่านมาได้ให้โอกาสและเวลาแล้ว ขณะนี้ถึงเวลาต้องเดินหน้า ผู้ที่ยังฝ่าฝืนจะถูกดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

ด้านนายนันทนิษฎ์ วงศ์วัฒนา รองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เปิดเผยว่า ยังมีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนบนเกาะต่าง ๆ จำนวน 5 เกาะ รวมพื้นที่กว่า 112 ไร่ ขณะนี้ได้แจ้งความที่ สภ.ตกพรม แล้ว ส่วนบริเวณพื้นที่ป่าสงวนรอบอ่างเก็บน้ำกว่า 224 ไร่ ได้แจ้งความที่ สภ.ตกพรมแล้ว จำนวน 82 แปลง ทั้งนี้อยู่ระหว่างแจ้งให้กรมป่าไม้ ดำเนินการตามระเบียบต่อไป

กรณีพื้นที่ทับซ้อนกับเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) จำนวน 48 ไร่ 31 ตารางวา รวม 57 แปลง ส.ป.ก. ได้ดำเนินการรังวัดกันเขตใหม่แล้ว 44 แปลง และอยู่ระหว่างการยกเลิก/เพิกถอนสิทธิ 10 แปลง และปรับพื้นที่ 44 แปลง

สำหรับกรณีการบุกรุกในพื้นที่บริเวณสำนักงานและโรงไฟฟ้า (ป่าปัถวี) พบการบุกรุกจำนวน 27 แปลง พื้นที่กว่า 131 ไร่ ได้ดำเนินการรื้อถอนแล้ว 2 แปลง และที่เหลืออีก 25 แปลง ได้แจ้งความที่ สภ.มะขาม แล้ว โดย 3 แปลงที่มีสิ่งปลูกสร้างอย่างชัดเจน อยู่ระหว่างออกหนังสือแจ้งให้กรมป่าไม้ดำเนินการตามระเบียบ

นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการออกแบบภูมิทัศน์บริเวณพลับพลาที่ประทับ พร้อมขอจัดสรรงบประมาณปี 2570 เพื่อจัดทำรั้วรอบเขื่อน เสริมคันดิน และถนนภายในพื้นที่โครงการ ระยะปี 2571-2574

ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนเองเห็นใจผู้ที่เดือดร้อน แต่ขอให้ผู้บุกรุกยอมรับความจริงและออกนอกพื้นที่ โดยขอให้ทางอำเภอ และทาง พ.ต.อ.ธราเทพ ตูพานิช รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ไปเจรจาให้ชาวบ้านลงชื่อยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษร และหากยังมีผู้ฝ่าฝืน ขอให้กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดทันที เพื่อปกป้องผลประโยชน์ส่วนรวมของประเทศและประชาชนจังหวัดจันทบุรี.