สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ว่า นายอาเจย์ บังกา ประธานเวิลด์แบงก์ กล่าวในอีเมลถึงพนักงานว่า ธนาคารโลกจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการให้คำแนะนำเกี่ยวกับมาตรการป้องกันการแพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ และกรอบการทำงานด้านการกำกับดูแล

บังการะบุในบันทึกว่า การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ความต้องการไฟฟ้าในประเทศกำลังพัฒนา มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า ภายในปี 2578 ซึ่งการตอบสนองความต้องการข้างต้น การลงทุนประจำปีในการผลิตพลังงาน โครงข่ายไฟฟ้า และระบบจัดเก็บ จะต้องเพิ่มขึ้นจาก 280,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบัน (ราว 9.1 ล้านล้านบาท) เป็นประมาณ 630,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 20.5 ล้านล้านบาท)

“เราจะสนับสนุนความพยายามในการยืดอายุการใช้งานของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่มีอยู่ในประเทศต่าง ๆ และช่วยสนับสนุนการอัปเกรดโครงข่ายไฟฟ้า รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง” บังกา กล่าวเพิ่มเติม

ทั้งนี้ บังกาผลักดันการเปลี่ยนแปลงนโยบายพลังงานของเวิลด์แบงก์ โดยเป้าหมายคือ การช่วยเหลือประเทศต่าง ๆ ส่งมอบพลังงานที่ประชาชนต้องการ ควบคู่กับการให้ความยืดหยุ่นในการเลือกเส้นทางที่เหมาะสมที่สุดกับความทะเยอทะยานด้านการพัฒนาของประเทศเหล่านั้น

นอกจากการให้ความสำคัญกับการปรับปรุงประสิทธิภาพของโครงข่ายไฟฟ้า บังกายังกล่าวว่า ธนาคารโลกจะจัดหาเงินทุนในการปลดระวาง หรือการเปลี่ยนการใช้งานโรงไฟฟ้าถ่านหินต่อไป ตลอดจนสนับสนุนการดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ สำหรับอุตสาหกรรมและการผลิตพลังงาน.

เครดิตภาพ : AFP