เมื่อเวลา 12.15 น. วันที่ 13 มิ.ย. ที่โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกัมพูชา ปิดด้านชายแดนฝั่งกัมพูชา บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ว่า เป็นเรื่องที่สมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ออกมาพูดเรื่องจะไม่รับสินค้าไทยใช่หรือไม่ เพราะตอนแรกกัมพูชาได้ยินว่าประเทศไทยจะตัดน้ำตัดไฟบริเวณชายแดน ซึ่งเป็นมาตรการที่ต้องผ่านสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ก่อน เรายังไม่ได้ประกาศอย่างนั้นออกไป เป็นเพียงมาตรการเตรียมความพร้อม แต่เรายังไม่ได้ดำเนินการ อาจมีการเข้าใจผิดกันเกิดขึ้น ตนก็ได้สอบถาม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะอาจมีความเข้าใจผิดว่ารัฐบาลได้ออกแถลงการณ์ว่าจะตัดน้ำและตัดไฟ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการพูดคุยกัน และได้ตกลงกันเรียบร้อยว่าทั้ง 2 ฝ่าย มีการปรับกำลัง และไม่มีอะไรเกิดขึ้นหลังจากนั้น และรอการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม ไทย-กัมพูชา (เจบีซี) ในวันที่ 14 มิ.ย. นี้ จึงต้องฝากสื่อสารว่าเรื่องตัดน้ำและตัดไฟ รัฐบาลยังไม่มีแถลงการณ์ออกไป
เมื่อถามว่าต้องประสานโดยตรงไปยังผู้นำกัมพูชาหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เดี๋ยวจะให้กระทรวงการต่างประเทศประสานดูว่าข้อมูลนั้นมาอย่างไร และเป็นกระบวนการอย่างไร แน่นอนว่าทุกสถานการณ์ต้องมีการเตรียมความพร้อม เมื่อผ่าน สมช. แล้วถึงจะเกิดขึ้นได้ แต่เรื่องนี้ยังไม่ผ่าน สมช. แต่เป็นกระบวนการที่เตรียมไว้ล่วงหน้า ซึ่งไม่รู้ว่าข้อมูลหลุดไปอย่างไร จนทำให้เกิดความเข้าใจผิด
เมื่อถามต่อว่าประเด็นที่เกิดขึ้นจะกระทบกับการประชุมเจบีซี ที่จะเกิดขึ้นหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า วันที่ 14 มิ.ย. ในการประชุมจะพูดคุยรายละเอียดกันมากขึ้นว่าจะทำอะไรกันบ้าง เพราะเวลาคุยกันเป็นเรื่องๆ มันไม่ใช่ภาพรวมทั้งหมด และหลังการประชุมจะมีแถลงความคืบหน้าว่าเป็นอย่างไรบ้าง
เมื่อถามอีกว่าเพราะเหตุใดเมื่อเราตกลงกันได้ พอผ่านไปวันสองวันทางกัมพูชาก็เปลี่ยนไป นายกฯ กล่าวว่า มันมีข้อมูลเพิ่มเติมที่ไม่ใช่ข้อมูลทางการ ซึ่งก็ต้องอธิบาย.