จากกรณีเกิดเหตุสลด นางสาวอนุสรา หรือ “ครูมัท” ครูสาววัย 39 ปี โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ใช้เชือกผูกคอตัวเองเสียชีวิตภายในบ้านพัก อ.ลำปลายมาศ โดยทิ้งจดหมายลาตายถึง 5 หน้ากระดาษ ซึ่งหน้าสุดท้ายแฉถึงปัญหาการทำงานที่ตึงเครียดจนนำไปสู่การตัดสินใจครั้งนี้ นั้น

ศธ.ขยับแก้ภาระครูล้น ดึง อปท. ร่วม-จ้างธุรการ หวังเคส ‘ครูมัท’ กรณีสุดท้าย

เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 68 ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ขอแสดงความเสียใจแก่ครอบครัวของ ครูมัท ซึ่งการลดภาระงานครู สพฐ. ไม่ได้นิ่งนอนใจ และรับทราบปัญหาดังกล่าวมาตลอด แต่โรงเรียนสังกัด สพฐ. ที่มีอยู่กว่า 30,000 แห่งนั้น หากจะต้องมีการจ้างเจ้าหน้าที่ด้านพัสดุการเงินโดยตรง ถือเป็นความจำเป็นด้านภาระงบประมาณจำนวนมาก ซึ่งในส่วนของกรณี ครูมัท เป็นครูอยู่ในกลุ่มโรงเรียนขนาดเล็ก และเท่าที่ตนรับรายงานการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าโรงเรียนแห่งนี้ น่าจะมีการบริหารจัดการงบประมาณที่ไม่ปกติเกิดขึ้น จึงเป็นเหตุให้ครูมัท ที่ต้องรับผิดชอบงานพัสดุมีความอึดอัดและลำบากใจ ดังนั้นตนได้สั่งการให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) บุรีรัมย์ เขต 1 ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงถึงการบริหารงานภายในโรงเรียนของครูมัทแล้ว โดยจะไล่สอบตั้งแต่ผู้อำนวยการโรงเรียน และบุคลากรในโรงเรียนทุกคน ว่า สาเหตุใดโรงเรียนแห่งนี้ถึงบริหารจัดการด้านการเงินและพัสดุจนเกิดปัญหา และจะต้องดำเนินการสอบสวนให้เสร็จสิ้นภายใน 7 วัน

เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ มีความห่วงใยเรื่องดังกล่าวอย่างมาก และจะไม่ปล่อยผ่านให้เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นซ้ำรอยเหมือน ครูมัท อีกต่อไป โดย สพฐ. จะมีการทบทวนคู่มือระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งที่ผ่านมา กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างจะต้องยึดตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 โดยจะต้องทำแผนการดำเนินงานขออนุมัติจากผู้อำนวยการโรงเรียน และการมีกรรมการจัดซื้อจัดจ้าง กรรมการตรวจรับพัสดุ แต่กรณีของโรงเรียน ครูมัท นั้น จะต้องตรวจสอบว่ามีการดำเนินการตามระเบียบดังกล่าวหรือไม่

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา สพฐ. เคยทำหนังสือแจ้งโรงเรียนขนาดเล็กที่มีนักเรียน 60 คนลงมา ให้โรงเรียนมอบการจัดซื้อจัดจ้างให้เขตพื้นที่ทำหน้าที่บริหารจัดการแทน ซึ่งที่ผ่านมา สพฐ. คิดวิธีการลดภาระงานครูด้านดังกล่าวหลากหลายรูปแบบ แต่ก็มีโรงเรียนหลายแห่งยังสามารถบริหารจัดการเรื่องการเงินและพัสดุเองได้

“ส่วนประเด็นที่ครูชักชวนแต่งกายชุดดำผ่านโซเชียลนั้น ผมมองว่าก็เป็นสิทธิที่ครูทุกคนแสดงความคิดเห็นออกมาในรูปแบบต่างๆ ซึ่งผมเข้าใจครูทุกคนที่อยากจะเป็นสื่อกลางสะท้อนมาถึง สพฐ. ให้ช่วยเร่งแก้ปัญหาเรื่องภาระงานครู โดยผมยืนยันว่าเราจะแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ เพราะกว่าจะได้เป็นครูหนึ่งคนได้ไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้น สพฐ. จะต้องทำอย่างสุดความสามารถในการรักษาครู เพื่อทำหน้าที่สอนเด็กไว้ให้ดีที่สุด” ว่าที่ร้อยตรีธนุ กล่าว.