เรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวที่ถูกพูดถึงทุกปี สำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของสถานีโทรทัศน์หลายแห่ง โดยนักแสดงเบอร์ต้นๆของวงการบันเทิงไทย ไม่ว่าจะเป็นของช่อง 3 หรือ 7 หรือช่องวัน ต่างพากันโบกมือลาต้นสังกัด ขอออกมาหาประสบการณ์ใหม่ด้วยการผันตัวเป็นนักแสดงอิสระ เพื่อเปิดโอกาสให้ตัวเองรับบทใหม่ๆ ได้หลากหลายมากขึ้น

ซึ่งหนึ่งในนักแสดงที่ถูกจับตามองอยู่เสมอนั่นก็คือ อั้ม พัชราภา นางเอกเบอร์ต้นของวงการและขึ้นชื่อว่าเป็นตัวท็อปของช่อง7 ที่มักถูกถามเรื่องสัญญากับช่องในทุกปี เช่นเดียวกันในปีนี้หลังช่อง7เปิดลิสต์ดาราในสังกัดมาแล้วไม่พบหน้าสาวอั้ม ก็ทำเอาแฟนๆพากันฮือฮาหนักอีกครั้ง

ล่าสุด อั้ม พัชราภา ได้มาร่วมงาน เปิดตัวสองผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด จากแบรนด์ PANANCHITA “PERBERRY BUK FIBER PLUS BLOOD ORANGE และPERBERRY PLUS FIBER” หลังจากจบงาน จึงได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงประเด็นสัญญากับทางช่องเจ็ด และเคลียร์ปมที่หลายคนสงสัยว่าทำไมและเคลียร์ปมที่หลายคนสงสัยว่าทำไมถึงเข้าพบทนายแก้วหรือมีเรื่องให้ขึ้นโรงขึ่นศาล โดยอั้มเผยว่า

“อั้มไม่มีสัญญามานานมาก จำไม่ได้ว่าหมดไปกี่ปีแล้ว น่าจะประมาณ10กว่าปีแล้ว ถามว่าตกใจไหมที่เห็นข่าวลือเรื่องหมดสัญญา อั้มเห็นข่าวนี้มาทุกปี ก็ไม่ได้สนใจอะไรเท่าไหร่ ก็เป็นสัญญาใจกัน อั้มอยู่ที่นี่แล้วนึกถึงสิ่งดีๆแล้วก็ขอบคุณที่ผ่านมา (อั้มเหมือนเป็นโลโก้ช่อง7ไปแล้ว) อาจจะเพราะว่าอั้มอยู่ที่นี่มานานที่สุดในตอนนี้ แต่ก็ยังมีหลายๆคนที่เป็นภาพจำ สำหรับเรื่องที่จะไปร่วมงานที่อื่น ตอนนี้อั้มก็ว่างมีที่อื่นติดต่อมาบ้างแล้วค่ะ ตอนนี้อั้มก็เริ่มออกจากบ้านมากขึ้น ทำอะไรมากขึ้น ยังไม่ได้กลับมารับงานเพราะสภาพจิตใจเรายังไม่ดี แต่คิดว่าเร็วเร็วนี้ซักประมาณสองสามเดือนน่าจะกลับมาได้แล้ว“

ถามว่าจะได้เห็นอั้มในหน้าจอช่องอื่นไหมก็มีความเป็นไปได้  มันมีความเป็นไปได้ทุกอย่างแต่ตอนนี้ยังไม่ได้คิด อั้มไม่อยากพูด เป็นไปไม่ได้แล้ววันนึงอั้มไปโผล่อยู่ที่อื่น มันเว้นได้ทุกอย่างเพียงแต่ว่าอั้มยังไม่ได้คิดจะไปไหน  สำหรับเรื่องกับทนายแก้วจริงๆแล้วอั้มไม่ได้ฟ้องใครเพียงแต่ว่าบ้านอั้มสร้างมาสองปีแล้วไม่เสร็จสักที เสร็จไปแค่ห้องเดียวเหลืออีกสามห้อง มันมีปัญหาหลายอย่างมากจนเราต้องร่างสัญญาขึ้นมาเพราะเราต้องทำหลังบ้านอีกสี่ห้องแล้วต้องถูกลงเสาเข็มใหม่เราก็เลยต้องเซ็นสัญญาให้รัดกุมว่าจะเสร็จภายใน 30 ธันวาคมให้ทุกคนเป็นพยานให้อั้มด้วยว่าอั้มจะต้องสร้างบ้านเสร็จภายใน 30 ธันวาคม มันมีปัญหาหลายอย่างทั้งแบบบ้านและผู้รับเหมาด้วยซึ่งจริงๆแล้วกับผู้รับเหมาเรารู้จักกันอาจจะมีความล่าช้าบ้างแต่เราก็เลยเซ็นสัญญาไว้เพื่อความสบายใจ“