สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 ม.ค. 68 พนักงานบัญชีของบริษัทเอกชนที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการจัดการแร่แห่งหนึ่ง ได้ร่วมกันลักทรัพย์บริษัท โดยการปลอมเอกสารใบแจ้งหนี้ (INVOICE) และสัญญาซื้อขาย แล้วนำไปยื่นต่อธนาคารเพื่อทำการโอนเงิน 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 103 ล้านบาท จากบริษัทผู้เสียหาย ไปยังบัญชีบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งคนร้ายได้จัดเตรียมไว้เพื่อก่อเหตุ ก่อนจะถอนเงินสดทั้งหมดที่หน้าเคาร์เตอร์ธนาคาร แล้วหลบหนีไปพร้อมทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิด ต่อมาบริษัทผู้เสียหายทราบจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีราชา จนนำไปสู่การออกหมายจับผู้ร่วมก่อเหตุ คือ น.ส.อรสา (สงวนนามสกุล) และ น.ส. รวิวรรณ (สงวนนามสกุล)

ในระหว่างหลบหนี เมื่อวันที่ 23 ม.ค. 68 น.ส.อรสา หนึ่งในผู้ก่อเหตุลักทรัพย์บริษัท ถูกคนร้ายใช้อาวุธมีดแทงตามร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส ภายในห้องพักของรีสอร์ทแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เมืองฉะเชิงเทรา จากการสืบสวนทราบว่า มีผู้ร่วมก่อเหตุ 3 คน คือ นายจีระสิทธิ์ (สงวนนามสกุล), นายอธิวัฒน์ (สงวนนามสกุล) และ น.ส.รวิวรรณ หนึ่งในผู้ก่อเหตุลักทรัพย์บริษัท โดยเชื่อว่า มีมูลเหตุจูงใจมาจากเรื่องทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดและหวังฆ่าเพื่อปิดปาก หลังก่อเหตุ น.ส.รวิวรรณ ได้เดินทางหลบหนีออกไปนอกประเทศทันที ก่อนที่ผู้ก่อเหตุทั้งสามจะถูกออกหมายจับ

ต่อมา เจ้าหน้าที่สืบสวน บก.สส.ภ.2 ได้ทำการสืบสวนมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุ และติดตามทรัพย์สินที่ถูกประทุษร้าย จนกระทั่งล่าสุด เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการนำหมายค้น เข้าทำการตรวจค้น บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ศรีราชา และคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในย่านลาดกระบัง ซึ่งอยู่ในความครอบครองของ นายนัทตพล (สงวนนามสกุล) สามีของ น.ส.รวิวรรณ ผลการตรวจค้นพบ เงินสด จำนวน 39,947,480 บาท ซุกซ่อนอยู่ นายนัทตพล แจ้งว่าเงินดังกล่าวตนได้รับมาจาก น.ส.รวิวรรณ และเป็นเงินที่ได้มาจากการลักทรัพย์บริษัทผู้เสียหาย ตนจึงได้นำมาเก็บรักษาไว้ที่คอนโด เจ้าหน้าที่สืบสวนจึงได้ทำการตรวจยึดเงินสดนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย และคืนให้ผู้เสียหายต่อไป

ทั้งนี้ การติดตามเงินคืนให้ผู้เสียหายได้ แม้จะเป็นเงินบางส่วนก็ถือเป็นการเยียวยาบรรเทาความเดือดร้อน ความเสียหายที่เกิดขึ้น และกรณีนายนัทตพล ผู้ที่ครอบครองดูแลเงินที่ลักมานั้นเข้าข่ายรับของโจร ซึ่งจะได้ดำเนินคดีต่อไป.