เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. กล่าวระหว่างลงพื้นที่กิจกรรม “ผู้ว่าฯ สัญจร (รอบ 2)” ครั้งที่ 18 ณ เขตสะพานสูง เพื่อรับฟังปัญหา ติดตามการดำเนินงานและแก้ไขอุปสรรคในชุมชนอย่างใกล้ชิดว่า เขตสะพานสูงเป็นพื้นที่ที่มีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีหมู่บ้านหนาแน่น ระบบขนส่งมวลชน เช่น รถไฟฟ้าสายสีส้ม และโครงการขยายถนนรามคำแหง รวมถึงท่าเรือคลองแสนแสบ เข้ามาเชื่อมต่อพื้นที่ ซึ่งสร้างโอกาสแต่ก็เกิดปัญหาความเดือดร้อนด้านจราจร โดยเฉพาะจุดกลับรถต่าง ๆ เช่น บริเวณหมู่บ้านสรรพากร ที่ทำให้เกิดการติดขัดอย่างหนักบนถนนรามคำแหง

นอกจากนี้ การขยายถนนรามคำแหงเป็นสี่เลนตั้งแต่บริเวณแยกบ้านม้า ยังส่งผลให้ประชาชนข้ามถนนได้ลำบาก และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ผู้ว่าฯ ระบุว่าจำเป็นต้องเร่งดำเนินการเรื่องสะพานลอยคนข้ามเพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยโดยเร็ว ขณะเดียวกันยังเน้นย้ำเรื่องการวางระบบระบายน้ำอย่างมีประสิทธิภาพควบคู่กับการก่อสร้างถนน เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ส่วนอีกหนึ่งประเด็นที่ให้ความสำคัญ คือ ถนนในหมู่บ้านเก่าที่ชุมชนเคหะธานี ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นถนนสาธารณะ ทำให้ไม่สามารถใช้งบประมาณในการดูแลปรับปรุงได้ ซึ่งต้องพิจารณาหาทางออกให้ชัดเจน เพื่อให้สามารถนำพื้นที่มาใช้ประโยชน์ร่วมกัน พร้อมส่งเสริมให้มีพื้นที่ออกกำลังกายที่ปลอดภัยและเพียงพอสำหรับประชาชน ตามแนวทางการพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็งและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

นายชัชชาติ ยังกล่าวถึงกรณีปัญหาการขโมยสายไฟและสายสื่อสารในพื้นที่กรุงเทพฯว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา กทม. สูญเสียสายไฟจากการถูกขโมยรวมระยะทางกว่า 28 กิโลเมตร มูลค่าความเสียหายกว่า 40 ล้านบาท แม้ขณะนี้จะมีการจับกุมผู้กระทำผิดได้เพิ่มมากขึ้น รวมถึงสามารถขยายผลไปถึงผู้รับซื้อของโจร แต่กทม.จะต้องดำเนินมาตรการอย่างจริงจัง โดยร่วมมือกับกรมการปกครองในการควบคุมร้านรับซื้อของเก่า พร้อมเตือนว่าหากมีผู้รับซื้อสายทองแดงโดยไม่สามารถระบุต้นทางได้ชัดเจน จะมีความผิดตามกฎหมาย รวมถึงทรัพย์สินอื่นของหน่วยงานราชการ เช่น ฝาท่อระบายน้ำ ,มิเตอร์น้ำ เป็นต้น
ขณะนี้ กทม. อยู่ระหว่างการพิจารณาติดตั้งสัญลักษณ์บนสายไฟและอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้ชัดเจนว่าเป็นทรัพย์สินของทางราชการ เพื่อป้องกันการโจรกรรม ซึ่งการขโมยสายไฟไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายด้านงบประมาณ แต่ยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบสาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้าดับ การจราจรติดขัด ระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) ใช้งานไม่ได้ และกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนโดยรวม

ทั้งนี้ กิจกรรม “ผู้ว่าฯ สัญจร” ถือเป็นการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนกับภาครัฐ และวางแนวทางพัฒนาเมืองให้สอดคล้องกับปัญหาและความต้องการของชุมชนอย่างแท้จริง.

