อาจารย์ปรานอมวัน สมสกุล คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการบริการสถานพยาบาล มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี และผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลมิตรประชา กล่าวถึง “ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ” หรือ “บัตรทอง” ว่า ในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่งส่วนตัวรู้สึกยอมรับ เชื่อมั่นและไว้วางใจการบริหารจัดการระบบบัตรทองของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ซึ่งเป็นองค์กรหลักที่ช่วยดูแลประชากรถึง 46 ล้านคน โดยเฉพาะผู้มีฐานะปานกลางและยากจน ไม่ว่าจะเป็นระบบการบริหารจัดการ และการเบิกจ่าย ซึ่งมีความโปร่งใส รวดเร็ว และเป็นที่น่าเชื่อถือ เป็นที่ไว้วางใจของประชาชน
ทั้งนี้ ตนเองก็ทำงานร่วมกับ สปสช. มาอย่างยาวนานเท่ากับอายุของระบบบัตรทอง โดยชื่นชมระบบบัตรทองให้ผู้อื่นฟังมาโดยตลอด ซึ่งก็รู้สึกว่าหากมีประเด็นใดที่สามารถช่วยเหลือก็ยินดีช่วย สำหรับสิ่งที่อยากแนะนำเพิ่มเติมคืออยากให้เผยแพร่และสื่อสารในเรื่องสิทธิให้มากขึ้น เช่น การสื่อสารในโรงเรียนเพื่อให้มีพื้นฐานตั้งแต่เด็ก ๆ และสามารถบอกผู้ปกครองได้ว่าใช้สิทธิอย่างไร หรือแม้แต่การมีวิชาสอนเรื่องสิทธิบัตรทองในโรงเรียนเพื่อสร้างพื้นฐานที่มั่นคงในระยะยาว รวมทั้งการสื่อสารให้กลุ่มพนักงานในโรงพยาบาลเข้าใจเรื่องสิทธิ เพราะบางครั้งบุคลากรก็อาจจะยังไม่เข้าใจและไม่สามารถอธิบายให้คนไข้ฟังได้ ซึ่งผลที่ตามมาอาจทำให้เกิดความขัดแย้ง เกิดการร้องเรียนได้ ซึ่งถ้าพนักงานโรงพยาบาลเข้าใจสิทธิจะสามารถสื่อสารให้ผู้มาใช้บริการเข้าใจตรงกันได้ และหากพนักงานโรงพยาบาลทำงานได้อย่างถูกต้อง โปร่งใส ก็จะปลอดภัยทุกฝ่าย
ส่วนประเด็นเรื่องอัตราการจ่ายชดเชยที่หน่วยบริการบางส่วนมองว่าไม่สะท้อนต้นทุนบริการที่แท้จริง ทางอาจารย์ปรานอมวันกล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าเป็นการช่วยให้เพื่อนมนุษย์คนไทยได้รับการรักษาให้ปลอดภัย ได้รับกุศลร่วมกันทุกฝ่าย ซึ่งในยุคที่เศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน ต้องเข้าใจว่าคนไข้บัตรทองส่วนมากไม่มีเงิน และถ้ามองว่าโรงพยาบาลก็พออยู่ได้ มีการจ้างงาน ทำให้พนักงานมีงานทำ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ win-win ด้วยกันทุกฝ่าย อย่างไรก็ตาม ในเรื่องการบริหารกองทุน หากเพิ่มเติมเรื่อง co-payment เข้ามาอีกเล็กน้อย เช่น ไม่เกิน 10% ประชาชนจะสามารถรับได้หรือไม่ เรื่องนี้ก็ต้องคุยกันอีกที
“เงินของ สปสช. มาจากภาษีของประชาชน ถ้าการเบิกจ่ายถูกต้อง โปร่งใส มันก็ win-win กันทุกฝ่าย ยกตัวอย่างเช่น ในฐานะผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลมิตรประชา ดูแลเรื่องการเบิกจ่าย จะเน้นเสมอว่าต้องทำให้ถูกต้องโปร่งใส แล้วจะเป็นธรรมด้วยกันทุกฝ่าย สปสช. ก็ไม่เหนื่อย ฝั่งโรงพยาบาลก็ไม่เหนื่อย พออยู่ได้ ถ้าวันนี้ทำให้ถูกต้องโปร่งใสก็ไม่ต้องกลัววันพรุ่งนี้ว่าจะมีการร้องเรียนอะไร” อาจารย์ปรานอมวันกล่าว
