เมื่อวันที่ 17 พ.ย. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) นายปรีดา นาคผิว ทนายความมูลนิธิผสานวัฒนธรรม นำนายอรรถสิทธิ์ นุสสะ และนายวีรภาพ วงษ์สมาน เข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อดีเอสไอ เพื่อขอให้รับเป็นคดีพิเศษ กรณีอ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดินแดง ทำร้ายร่างกาย ในระหว่างที่ถูกควบคุมตัวเมื่อวันที่ 29 ต.ค. ที่ผ่านมา ภายหลังนายอรรถสิทธิ์และนายอาลีฟ เข้าร่วมกิจกรรมไว้อาลัยให้นาย วาฤทธิ์ สมน้อย เยาวชนวัย 15 ปี ที่ถูกยิงเสียชีวิตหน้า สน.ดินแดง โดยมีพ.ต.ต.วรณัณ ศรีล้ำ รองโฆษกดีเอสไอรับเรื่อง

นายวีรภาพ กล่าวว่า ช่วงค่ำของวันที่ 29 ต.ค. 64 ตนได้เข้าร่วมกิจกรรมไว้อาลัยนายวาฤทธิ์ สมน้อย เยาวชนวัย 15 ปี ที่เสียชีวิตหน้าสน.ดินแดง และได้นำสเปร์ยไปพ่นลงบนพื้นถนนเขียนว่าที่นี่มีคนตาย ระหว่างนั้นเกิดเหตุเผาศาลพระภูมิของโรงพักดินแดง จึงยืนมองแล้วนำสีสเปร์ยไปพ่นซ้ำ ก็มีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบมาล็อกตัวไป รวมทั้งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนทั้งกองร้อยเข้ามารุม และนำตัวเข้าไปที่ห้องสืบสวน ซึ่งขณะที่ตนถูกลากไปรู้สึกหงุดหงิดจึงชกหน้าเจ้าหน้าที่ไป 1 ครั้ง แต่หลังจากนั้นก็ถูกพาตัวขึ้นไปซ้อมทรมานบนห้องสืบของ สน.ดินแดง พร้อมกับนายอรรถสิทธิ์ ทำให้บาดเจ็บจึงนำใบรับรองแพทย์มายื่นเป็นหลักฐานด้วย เมื่อถูกตำรวจทำร้ายจึงไม่มั่นใจที่จะให้ตำรวจทำคดี และเชื่อมั่นในดีเอสไอมากกว่า จึงอยากให้รับเป็นคดีพิเศษ

ขณะที่นายอรรถสิทธิ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เคยไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่กองบังคับการปราบปรามแต่ถูกปฏิเสธ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่าความเสียหายไม่เข้าเงื่อนไขการรับคดีของกองปราบฯ จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่สน.ดินแดง แทน ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณา อย่างไรก็ตามตนรู้สึกไม่ไว้วางใจกับการทำงานของตำรวจ โดยเฉพาะก่อนหน้านี้เคยมีคดีผู้กำกับโจ้ที่มีการซ้อมทรมานผู้ต้องหา ซึ่งตนและเพื่อนก็ถูกนำไปซ้อมระหว่างถูกควบคุมตัวด้วย ทั้งนี้นอกจากมายื่นเรื่องดีเอสไอแล้ว ยังได้ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการการกฎหมายไว้ เพื่อให้สอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว

ด้าน พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้น ดีเอสไอ โดยกองบริหารคดีพิเศษ จะตรวจสอบเอกสารและหลักฐานที่ทั้งสองนำมายื่นเรื่องร้องทุกข์เพื่อพิจารณา ก่อนส่งให้กองคดีความมั่นคง ส่วนจะเข้าข่ายข้อกฏหมายว่าสามารถรับไว้เป็นคดีพิเศษได้หรือไม่ จะต้องพิจารณาพฤติการณ์แห่งคดี ก่อนเสนออธิบดีดีเอสไอตามขั้นตอนต่อไป.