ที่โรงเรียนอนุบาลขอนแก่น ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายประจวบ ศิริภักดิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลขอนแก่น ได้เป็นประธานในการเปิดงาน วันสุนทรภู่ กวีเอกของโลก โดยกล่าวว่า “วันสุนทรภู่” ตรงกับวันที่ 26 มิถุนายนของทุกปี เป็นวันคล้ายวันเกิดของ สุนทรภู่ หรือ ภู่ พันธุ์สกุลศิลป์ กวีเอกของไทยในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ซึ่งได้รับยกย่องให้เป็น “กวีเอกของโลก” จากองค์การยูเนสโก (UNESCO) เมื่อปี พ.ศ. 2529 ในวาระครบรอบ 200 ปีชาตกาล
นายประจวบ กล่าวถึงความสำคัญของวันสุนทรภู่ คือ “เป็นการเชิดชูเกียรติสุนทรภู่ เพื่อรำลึกถึงผลงานอันทรงคุณค่าของสุนทรภู่ ผู้สร้างสรรค์วรรณกรรมไทยที่มีความงดงามทั้งด้านภาษาและจินตนาการ เช่น พระอภัยมณี, นิราศเมืองแกลง, นิราศภูเขาทอง ฯลฯ อนุรักษ์วรรณกรรมไทย วันสุนทรภู่เป็นโอกาสสำคัญในการส่งเสริมให้นักเรียน เยาวชน และประชาชนทั่วไปหันมาศึกษาและเห็นคุณค่าของวรรณกรรมไทย ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ อีกทั้งยังส่งเสริมการเรียนรู้ด้านภาษาและวรรณคดี ผลงานของสุนทรภู่ช่วยฝึกทักษะการอ่าน การตีความ และการใช้ภาษาไทยที่สละสลวย เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาทักษะทางภาษาในทุกระดับการศึกษา
นอกจากนั้นยังสร้างแรงบันดาลใจทางศิลปวรรณกรรม ด้วยสไตล์การเขียนที่ลึกซึ้ง และแฝงข้อคิด สุนทรภู่จึงเป็นแรงบันดาลใจแก่กวีและนักเขียนรุ่นหลังในการสร้างสรรค์ผลงานวรรณกรรมไทย สร้างจิตสำนึกรักชาติและวัฒนธรรมไทย การจัดกิจกรรมในวันสุนทรภู่ เช่น การประกวดแต่งกลอน การอ่านบทกวี การแสดงละครวรรณคดี ฯลฯ ช่วยปลูกฝังให้เยาวชนรักและภูมิใจในวัฒนธรรมของชาติ”
ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลขอนแก่น กล่าวต่อว่า “กิจกรรมที่จัดขึ้นนี้ สิ่งที่ครูนักเรียน และผู้ปกครอง จะได้รับคือ สำหรับครูในการพัฒนา บ่มเพาะ และเสริมสร้างความสัมพันธ์ทั้งในเชิงวิชาการและจิตวิญญาณความเป็นครู ส่งเสริมบทบาทครูในฐานะผู้ถ่ายทอดวรรณกรรมไทย สามารถบูรณาการ วรรณคดีเข้ากับทักษะอื่น ๆ เช่น ภาษา ศิลปะ การแสดง ซึ่งจะเป็นการจุดประกายความสนใจในวรรณคดีให้แก่เด็ก ๆ ด้วยวิธีที่น่าสนุกและเข้าถึงง่าย
ในส่วนของผู้ปกครอง กิจกรรมวันสุนทรภู่ไม่เพียงแต่เป็นเวทีเสริมทักษะให้เด็ก ๆ เท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการเรียนรู้และพัฒนาลูก พร้อมทั้งสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับโรงเรียนและครู โดยสิ่งที่ผู้ปกครองจะได้รับจากกิจกรรมนี้ ได้เห็นพัฒนาการและศักยภาพของบุตรหลาน เช่น การพูด การแสดงออก การแต่งกลอน หรือการวาดภาพ เป็นโอกาสในการ รับรู้ความก้าวหน้า ของลูกทั้งด้านวิชาการและทักษะชีวิต อีกทั้งยังเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจด้านวรรณกรรมไทย เช่น พระอภัยมณี หรือบทกลอนต่าง ๆ ได้มีส่วนร่วมในการสืบสานวัฒนธรรมไทยผ่านบทสนทนาและกิจกรรมร่วมกับบุตรหลาน และสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างบ้านกับโรงเรียน การเข้าร่วมกิจกรรมทำให้ผู้ปกครองรู้จักครู รู้จักเพื่อนลูก และเข้าใจบรรยากาศการเรียนรู้ในโรงเรียนมากขึ้น สร้างความไว้วางใจในโรงเรียนในฐานะที่ดูแลและส่งเสริมลูกให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ”
นายประจวบ ยังกล่าวต่ออีกว่า “การจัดกิจกรรมวันสุนทรภู่ในโรงเรียนมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อนักเรียนทั้งในด้านความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะพึงประสงค์ โดยสิ่งที่นักเรียนจะได้รับจากกิจกรรมมีดังนี้ ความรู้ด้านวรรณคดีและประวัติศาสตร์ นักเรียนได้รู้จักประวัติของ สุนทรภู่ และเข้าใจคุณค่าของผลงานวรรณกรรมที่เขาแต่ง เช่น พระอภัยมณี, นิราศภูเขาทอง เรียนรู้คำศัพท์และสำนวนภาษาไทยในเชิงวรรณคดี ซึ่งช่วยพัฒนาทักษะภาษาไทยอย่างลึกซึ้ง
มีทักษะการอ่าน-เขียน-พูด ได้ฝึกการ อ่านทำนองเสนาะ, แต่งกลอน หรือ เขียนเรียงความ ได้พัฒนาความกล้าแสดงออกผ่านกิจกรรมบนเวที เช่น การประกวดขับร้องบทกลอน ละครวรรณคดี มีความคิดสร้างสรรค์ การแต่งกลอน ละคร หรือการทำสื่อประกอบต่าง ๆ ช่วยให้นักเรียนได้ใช้จินตนาการและแสดงความคิดสร้างสรรค์ ได้เรียนรู้การประยุกต์วรรณคดีให้เข้ากับยุคสมัย เช่น การจัดละครวรรณคดีร่วมสมัย เกิดการทำงานร่วมกับผู้อื่น กิจกรรมกลุ่ม เช่น การแสดงละครเวทีหรือทำสื่อประกอบนิทรรศการ ช่วยฝึกทักษะสื่อสารการร่วมมือ และการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ
และสิ่งสำคัญ มีคุณธรรมและจริยธรรม ซึ่งบทกลอนของสุนทรภู่มักสอดแทรกข้อคิดและคติธรรม เช่น ความกตัญญู ความซื่อสัตย์ การอดทน ฯลฯ ซึ่งช่วยปลูกฝังคุณธรรมให้นักเรียนโดยไม่รู้ตัว อีกทั้งยังมีความภาคภูมิใจในภาษาและวัฒนธรรมไทย
ทำให้นักเรียนตระหนักถึงคุณค่าและความงดงามของภาษาไทยและวรรณกรรมไทย เกิดความรักและหวงแหนวัฒนธรรม” นายประจวบ กล่าวในที่สุด
