เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผกก.สภ.เมืองพัทยา สั่งการให้ พ.ต.ท.สุชาติ ดุสดี สวป.สภ.เมืองพัทยา ควบคุมตัวนายเพิ่มผล (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี พร้อมของกลางเป็นปืนอัดลม 1 กระบอก กระเป๋าเป้ 1 ใบ สามารถจับกุมได้ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านพัทยาเหนือ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

สืบเนื่องมาจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเขต ออกตรวจตรา ดูแลความปลอดภัย ของผู้ประกอบการร้านทอง ธนาคาร ภายในห้างสรรพสินค้า สังเกตเหตุ ผู้ชายวัยรุ่นมีพฤติกรรมน่าสงสัย แต่งตัวมิดชิดสวมเสื้อคลุมหนา สวมแมส สวมหมวกกันน็อคนิรภัย ปิดบังใบหน้า เดินป้วนเปี้ยน จ้องมองไปที่ร้านทอง คล้ายกับดูลาดราวเพื่อก่อเหตุร้าย จึงเฝ้าดูพฤติกรรม จนมั่นใจว่ามีพฤติกรรมต้องสงสัย ประกอบกับประชาชน ให้ข้อมูลว่าผู้ชายคนนี้เดินไปเดินมาและนั่งเฝ้าอยู่บริเวณนี้ตั้งแต่ช่วงเย็นแล้ว

จึงแสดงตัวเข้าขอตรวจค้นแต่เจ้าตัวกลับไม่ยินยอมให้ตรวจสอบ และขัดขืนการจับกุม เจ้าหน้าที่และพลเมืองดีจึงตัดสินใจเข้าชาร์จตัว กันอย่างชุลมุนกลางห้างสรรพสินค้า เพราะเกรงว่าจะมีอาวุธแล้วต่อสู้ ทำให้เจ้าหน้าที่ที่ตัดสินใจชาร์จตัว ได้รับบาดเจ็บ จากการดิ้นต่อสู้ของผู้ชายต้องสงสัย เมื่อควบคุมสถานการณ์ได้ จึงทำการตรวจค้นพบว่า สวมเสื้อถึง 4 ตัว กางเกงขายาว 2 ตัว ภายในกระเป๋าเป้ยังพบปืนอัดลมอีก 1 กระบอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.เมืองพัทยา ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางทั้งหมด ไปสอบสวนที่สภ.เมืองพัทยา ซึ่งเจ้าตัวยังสารภาพว่าคิดจะก่อเหตุจริง แต่กล้าๆกลัวๆ จึงยังไม่ลงมือ กระทั่งถูก เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจมาพบเข้า และจับกุมได้ในที่สุด

ส่วนสาเหตุที่ตนเองคิดจะก่อเหตุนั้น เนื่องจากตนเองนำเงินที่แฟนสาววัย 22 ปี เตรียมไว้จ่ายค่าเช่าห้อง และค่าใช้จ่ายของลูกน้อยวัย 7 เดือน ไปลงทุนเล่นหุ้นจนหมด แต่หุ้นเกิดอยู่ในช่วงขาลง จนไม่เหลือเงินไปใช้จ่าย จึงคิดสั้นหวังจะก่อเหตุดังกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา ได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา เข้มงวดกวดขัน ตรวจตราเพื่อเป็นการป้องกันเหตุร้ายต่างๆ อยู่แล้ว ประกอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจทราบชื่อคือ ร.ต.ต.ไสว อนุรักษ์ รอง สวป.สภ.เมืองพัทยา จ.ส.ต.นันทวัฒน์ ศรีวิเศษ ผบ.หมู่ (ป.)สภ.เมืองพัทยา มีไหวพริบที่ดี และปฎิบัติหน้าที่อย่างขันแข็ง เจอเข้ากับบุคคลน่าสงสัยจึงขอแสดงตัวเข้าตรวจสอบ จึงระงับเหตุไว้ก่อนที่จะเกิดเหตุร้าย ซึ่งตรงนี้ขอชื่นชมในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นายนี้ด้วย.