เมื่อวันที่ 28 พ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบมีโขลงช้างป่ากว่า 20 ตัว เข้ามากินในพื้นที่เกษตรกรรมชาวบ้าน ภายในสวนปาล์ม พื้นที่หมู่ 9 บ้านคลองตาอินรอยต่อ หมู่ 7 บ้านชำตาเรือง ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี โดยมี พลายโหนก ช้างป่าอันธพาล ที่เคยทำร้ายชาวบ้านและผู้สื่อข่าวเสียชีวิตรวม 3 ศพ มีพฤติกรรมตกมันระยะที่ 3 รวมอยู่ในโขลงด้วย ทั้งนี้ทางอาสาสมัครพิทักษ์ช้างป่านาฬาคีริงสามารถใช้กล้องไนท์วิชั่นอินฟราเรดบันทึกภาพ พลายโหนก ตามช้างป่าตัวเมียโขลงนี้เข้ามาหากินอยู่ในสวนปาล์ม หมู่ 9 บ้านคลองตาอิน ขณะเฝ้าสังเกตการณ์ในระยะห่างเพื่อคอยผลักดันไม่ให้เข้าใกล้เขตชุมชน

จากการสอบถาม น.ส.ชุติมา เหลืองอ่อน อายุ 31 ปี อาสาสมัครพิทักษ์ช้างป่าเขาสอยดาวชุดนาฬาคีริง เบื้องต้นทราบว่าจากการปฏิบัติงานอาสาสมัครพิทักษ์ช้างป่าช่วงตั้งแต่คืนวันที่ 26-27 พ.ย.64 ที่ผ่านมา ได้แกะรอยเฝ้าสังเกตการณ์ช้างป่า 2 ฝูง ที่รวมกลุ่มเป็นฝูงใหญ่เมื่อช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งมีจำนวนมากถึง 25 ตัว มีทั้งช้างป่า ตัวผู้และตัวเมียตลอดจนลูกช้างรวมอยู่ด้วย 3-4ตัว โดยฝูงช้างป่า มีเส้นทางหากินอยู่ช่วงบริเวณรอยต่อของพื้นที่หมู่ 7 และหมู่ 9 ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกูฏ และพื้นที่หมู่ 12 อ.แก่งหางแมว ในสวนปาล์ม สวนผลไม้ และสวนยางพารา โดยจะกระจายหากินในช่วงหัวค่ำแยกออกเป็นกลุ่มละประมาณ 2-3 ตัว

นอกจากนี้ยังพบมีช้างป่าตัวผู้ที่ตกมันเกิดการต่อสู้กันในฝูงเพื่อแย่งช้างตัวเมียเนื่องจากอยู่ในช่วงหาคู่ผสมพันธุ์ รวมถึง พลายโหนก ซึ่งอยู่ช่วงที่มีพฤติกรรมตกมันระยะที่ 3 รวมอยู่ในฝูงด้วย ทั้งนี้เนื่องจากในฝูงมีช้างตัวเมียอยู่จำนวนมาก

ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏพร้อมด้วยอาสาสมัครพิทักษ์ช้างป่าเขาสอยดาวชุดนาฬาคีริง อาสาติดตามช้างป่าแก่งหางแมว ชุดคลองพลูตลอดจน ชุด ชรบ. หมู่ 7 หมู่ 9 ต.คลองพลู ร่วมจัดเวรยามทำการเฝ้าติดตามและระวังผลักดัน ช้างป่า ให้ออกห่างจากเขตชุมชนพร้อมทั้งมีการแจ้งเตือนให้ชาวบ้านโดยเฉพาะคนกรีดยางในละแวกที่อยู่ใกล้กับฝูงช้าง ซึ่งถือเป็นพื้นที่เสี่ยงให้ระมัดระวังสูงสุด ทั้งนี้ให้คอยฟังประกาศจากทางเจ้าหน้าที่หรือผู้นำชุมชน หากพบเห็นช้างป่าให้หลีกเลี่ยงอย่าเข้าใกล้ พร้อมทั้งให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุอันตรายลดการสูญเสียระหว่างทั้งคนและช้างป่า

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังแนะนำให้สังเกตพฤติกรรมช้างป่าที่ตกมัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นช้างที่อยู่ในช่วงเต็มวัยและร่างกายมีความสมบูรณ์สูงสุด มีโอกาสตกมันได้ทั้งเพศผู้และเพศเมีย โดยช่วงการตกมันจะเริ่มตั้งแต่ปลายฤดูฝนจนถึงต้นฤดูแล้งโดยสังเกตช่วงเวลาตกมันได้ดังนี้ 1.มีคราบมองเห็นเป็นสีดำไหลที่ขมับ 2.ปล่อยอวัยวะเพศห้อยและมีน้ำข้นเหนียวไหลตลอด 3.มีคราบเปียกมองเห็นเป็นสีดำบริเวณง่ามขาหลัง 4.มีกลิ่นเหม็นเขียวคล้ายขี้ไก่แต่กลิ่นรุนแรงกว่า 5.อาการตกมันในช่วงบ่ายจะรุนแรงกว่าช่วงเช้า

ส่วนอาการตกมันจะแบ่งเป็น 4 ระยะ 1.มีรอยเปียกตรงขมับเล็กน้อย 2. คราบมองเห็นเป็นสีดำไหลลงมาที่แก้ม 3.มีคราบไหลตรงแก้มและปล่อยอวัยวะเพศห้อยมีของเหลวไหลตลอดพร้อมกับมีคราบเปียกบริเวณขาหลัง 4.หากสังเกตในช่วงบ่าย จะพบว่ามีคราบแห้งที่แก้มถือว่าสิ้นสุด ส่วนความรุนแรงของอาการตกมัน ช่วงเช้าช้างจะมีอาการ หงุดหงิด โมโหง่าย คล้ายอยากจะมีปัญหากับทุกสิ่งที่อยู่ใกล้และในช่วงบ่ายอาการตกมันจะเข้าขั้นรุนแรงที่สุด