จากกรณีที่มีอดีตพนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง ได้โพสต์ลงโซเชียลมีเดียว่า ถูกธนาคารบังคับให้ขายประกัน จนทนไม่ไหวและลาออกไปในที่สุด ซึ่งในภายหลังได้มีพนักงานธนาคารอีกหลายราย จากหลายธนาคาร ได้ระบุแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ว่า ถูกบังคับขายประกันเช่นเดียวกัน และเกิดขึ้นมานาน ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น
ล่าสุดวันที่ 29 พ.ย. เครือข่ายสหภาพแรงงานธนาคารและสถาบันการเงิน หรือ Bank and Financial Union Network (BFUN) นำโดยนายองอาจ เชนช่วยญาติ ประธานเครือข่ายสหภาพฯ ได้เดินทางยื่นหนังสือถึง นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่องขอเข้าพบเพื่อหารือประเด็นการบังคับขายประกันของธนาคาร และหารือแนวทางแก้ไข ซึ่ง ธปท.ได้มีตัวแทนมารับหนังสือ และรับไปดำเนินการต่อ
โดยระบุข้อความในหนังสือว่า จากเหตุการณ์ที่มีอดีตพนักงานธนาคาร ได้มีการโพสต์ข้อความลงโซเชียลมีเดีย ประเด็นที่มีการกดดันให้ขายประกันชีวิตจนส่งผลทำให้พนักงานต้องซื้อประกันเอง เพื่อให้มีผลงานจนเป็นสาเหตุที่ทำให้พนักงานนั้น ตัดสินใจลาออกจากการเป็นพนักงานธนาคาร (มีมานานแล้ว) และเป็นข้อเท็จจริงที่ตรวจสอบได้จากทุกธนาคาร ทั้งธนาคารรัฐวิสาหกิจและธนาคารภาคเอกชน
เครือข่ายสหภาพแรงงานธนาคารและสถาบันการเงินรู้สึกวิตกเป็นอย่างมากในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อีกทั้งเครือข่ายฯ ได้เคยยื่นหนังสือถึงธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่องคัดค้านการให้พนักงานธนาคารพาณิชย์ขายผลิตภัณฑ์เสริมต่างๆ ซึ่งรวมถึงการขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย ควบคุมการนำเสนอขายประกันชีวิต ผ่านพนักงานธนาคารที่ไม่มีใบอนุญาต อันมีผลกระทบโดยตรงเกี่ยวกับการกดดัน การกำหนดเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับการประเมินผลงาน การกำหนดเป็นเคพีไอ (KPIs) ที่ไม่เป็นธรรม
ซึ่งในปัจจุบันมีเพียงเรื่องการกำหนดเงื่อนไขใน Market Conduct แต่ก็ยังมีการใช้เทคนิคการกำหนดเป้าหมายแบบบังคับ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จากพนักงานทุกธนาคาร
ประเด็นที่อยากให้ดำเนินการช่วยเหลือและแก้ไข เช่น ขอให้ดำเนินการตรวจสอบในแต่ละธนาคาร ห้ามมิให้มีการกำหนด KPIs ของผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตเป็น Performance หลัก เนื่องจากพนักงานไม่ได้มีสิทธิและหน้าที่ในการนำเสนอขายผลิตภัณฑ์ทุกคน (เสนอขายได้เฉพาะที่มีใบอนุญาต) และไม่ควรนำผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมากำหนดเป็น KPIs ซึ่งส่วนใหญ่มักจะใช้หลักเกณฑ์การขาย 70% งานบริการ 30% ซึ่งไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง และเป็นเงื่อนไขการกดดันพนักงานในที่สุด เป็นต้น