จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์เรื่องราวกรณี ทะเลาะกับเพื่อนบ้านที่จอดรถขวางทาง เมื่อบอกให้ขยับรถก็เกิดความไม่พอใจ ทั้งข่มขู่ ด่ากราด และเข้าทุบรถอีกฝ่ายเสียหาย นอกจากนี้เพื่อนบ้านได้เอาซากรถมาจอดนานหลายปีแล้ว เข้าออกยากมาก จอดรถขวางทางเข้าประจำ เป็นปัญหาคาราคาซัง

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่หมู่บ้านบัวทองเคหะ บ้านเลขที่ 6/758 ซอยไพริน ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เพื่อสอบถามกรณีดังกล่าวพบนายจรัสพงษ์ วรรณสุข อายุ 32 ปี อาชีพช่างไฟ เจ้าของบ้านผู้ที่โพสต์ข้อความ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (8 ธ.ค.) เวลาประมาณ 18.00 น. ตนขับรถโตโยต้า อัลติส สีขาว ไปส่งแฟนขายของที่ตลาดนัด คู่กรณีนำรถมาจอดตรงรถกระบะ ทำให้ตนออกไม่ได้จึงได้ ตนบอกคู่กรณีว่า ให้ช่วยขยับรถให้หน่อย ทางคู่กรณีได้ด่าทอตน และเดินลงมาทุบรถของตนและใช้เท้าถีบ ตนจึงรีบขับรถไปแจ้งความที่ สภ.บางบัวทอง ทางสายตรวจเข้ามาตรวจสอบ ปรากฏว่าทางคู่กรณีไม่อยู่บ้านแล้ว อยู่แต่คนในบ้านซึ่งได้ด่าทอตำรวจสายตรวจ จนตำรวจต้องกลับไป

ตอนนี้ตนรู้สึกหวาดกลัวไม่อยากอยู่บ้าน ต้องไปอาศัยอยู่ที่บ้านย่า ตอนนี้อยากฟังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาย้ายรถที่จอดขวาง อยู่บริเวณสองข้างทางภายในซอย อยากให้เคลียร์รถออกไปและไม่อยากให้ทางคู่กรณี มาจอดรถขวางทางเข้าออก นอกจากนี้บางวันเบิ้ลรถเสียงดังในตอนกลางคืน ที่ผ่านมาตนไม่อยากมีปัญหา แต่เมื่อวานมาทุบรถตนจึงไม่ยอมเพราะเป็นอย่างนี้มาหลายครั้งแล้ว ส่วนรถมีรอยมือมีรอยบุบ เกือบรอบคัน ตนยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ส่วนเรื่องข่มขู่ตนได้แจ้งความไว้เรียบร้อยแล้ว รอทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกไปสอบปากคำ

นางพรรณิภา จิตอุไร อายุ 66 ปี คุณครูโรงเรียนอำพรไพศาล เพื่อนบ้านอีกราย กล่าวว่า ตอนนี้ได้รับความเดือดร้อนตอนขับรถเข้าออก เพราะถนนเหลือแค่เลนเดียว เนื่องจากสองข้างทางเขาจอดรถขวาง ตนเคยมีปากเสียงกับเขามา 2 ครั้ง แต่นานมาแล้ว ส่วนซากรถที่จอดอยู่ข้างทางจอดมาประมาณ 15 ปี ตนต้องอดทนอดกลั้น ถ้าพูดไปก็จะทะเลาะกัน ตอนนี้ทุกข์ใจมาก ข้างบ้านตนขายบ้านหนีไปแล้ว 1 หลัง เนื่องจากไม่อยากมีปัญหา โดยทางผู้ก่อเหตุบอกว่าถ้าทนไม่ได้ก็ให้ย้ายบ้านหนีไป ตอนนี้อยากให้หน่วยงานเข้ามาดูว่าเดือดร้อนจริงๆ ซึ่งไม่ใช่เป็นถนนส่วนบุคคล อยากให้หน่วยงานมาจัดการให้ รถเลี้ยวออกไปก็ลำบากเนื่องจากรถในซอยวิ่งเร็ว ทำอะไรไม่ได้คงต้องทำใจ

ด้านนายสมชัย บูรณปัญญา อายุ 62 ปี เพื่อนบ้าน กล่าวว่า เดือดร้อนมากขับรถเข้าออกยาก เวลาจะเข้าบ้านต้องตีวงเข้าซอยถ้าไม่ดีวงก็จะเบียดชนกับซากรถที่อยู่สองข้างทาง ตนจะขายบ้านทิ้งก็ขายไม่ได้ พอรู้ว่าซอยแคบแบบนี้ก็ไม่มีใครมาซื้อ ตนซื้อบ้านต่อจากน้องสาวมา จนไม่รู้ว่ามันเป็นแบบนี้ ถ้ารู้คงไม่ซื้อ ถ้าเกียร์รถสองข้างทางในซอยนี้ออกไปได้คงจะดี มีอยู่ครั้งหนึ่ง ตอนถูกจอดรถขวางตนเลยบีบแตรเขาก็เปิดกระจกมามองหน้า แต่ไม่มีปากเสียงกันก่อนหน้านี้ ตนได้เขียนป้ายบอกไว้ว่าห้ามจอดรถหน้าบ้าน กับติดป้ายขายบ้าน เห็นคนแถวนี้ลำบากจนรู้สึกว่าอยากจะขายบ้าน แต่ตอนนี้ยังขายไม่ได้จึงจำเป็นต้องอยู่ต่อ อยากให้หน่วยงานมาดูแลช่วยเหลือบ้านใกล้เรือนเคียงพ่อบ้านเป็นที่อยู่อาศัยไม่น่ามาจอดขวางแบบนี้ทำให้ทัศนวิสัยไม่ดี ถ้ารู้ทีแรกคงไม่ซื้อบ้านต่อจากน้องสาว

เบื้องต้นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองได้ลงพื้นที่บริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อจะเรียกทั้ง 2 ฝ่ายมาตกลงกัน แต่ทางคู่กรณีของนายจรัสพงษ์ ไม่อยู่บ้าน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางกลับ และจะได้เรียกทั้งสองฝ่ายมาเจรจาตกลงกันอีกครั้งที่ สภ.บางบัวทอง