เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลมณฑลทหารบกที่ 15 จ.เพชรบุรี ได้นัดฟังคำพิพากษาคดีที่ อัยการได้สั่งฟ้อง หมวดแบงค์ ทหารสังกัดค่ายธนะรัชต์ ปราณบุรี ใน 3 ข้อหา คือ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พาอาวุธปืนติดตัวไปในทางสาธารณะฯ พยายามฆ่าผู้อื่น และชิงทรัพย์ หลังจากเลื่อนอ่านคำพิพากษามาแล้ว 1 ครั้ง เมื่อวันที่ 11 พ.ย.64 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ น้องจูน ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาพร้อมกับนางสุนทรี เถาวัลย์ แม่ และญาติๆ รวม 5 คน ขณะที่หมวดแบงค์ ผู้ต้องหาในคดีได้เดินทางมากับครอบครัวประมาณ 10 คน

ศาลใช้เวลาในการอ่านคำพิพากษาประมาณ 1 ชม. จึงเสร็จสิ้น โดยศาลพิพากษาว่า ข้อหาพยายามฆ่า พิจารณาแล้วเห็นว่า จำเลยไม่มีเจตนาจะฆ่าผู้เสียหาย แต่เป็นการทำร้ายร่างกายเนื่องจากบันดาลโทสะ เป็นเหตุให้ผู้เสียหายบาดเจ็บสาหัส พิพากษาจำคุก 1 ปี 6 เดือน แต่จำเลยไม่เคยกระทำความผิด จึงลงโทษให้รอลงอาญา 2 ปี ปรับ 12,500 บาท

ข้อหาอาวุธปืน นำสืบไม่ได้ ยกประโยชน์ให้จำเลย ส่วนข้อหาชิงทรัพย์ ไม่สามารถนำสืบได้ ยกประโยชน์ให้จำเลย คดีนี้ถือว่าสิ้นสุดแล้ว (เนื่องจากมีเพียงศาลเดียว เพราะในขณะเกิดเหตุอยู่ระหว่างมีการประกาศใช้กฎอัยการศึก คดีจึงเข้าสู่การพิจารณาคดีของศาลทหาร)

หลังฟังคำตัดสิน นางสุนทรี แม่ของน้องจูน เปิดใจอีกครั้ง ระบุว่า ตนเองเคารพในคำพิพากษาของศาล แต่ความรู้สึกที่แท้จริงตนไม่ขอพูด ให้ดูจากน้ำตาของคนเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวคนนี้ เกือบ 5 ปี ที่แม่และน้องจูนเฝ้ารอความเป็นธรรมที่ลูกสาวถูกกระทำ อย่างน้อยแม่ก็ได้ลูกสาวกลับมา

น้องจูนเองก็รู้สึกเสียใจแม่ย้ำน้องจูนเสมอว่า อย่าร้องไห้ให้ใครเห็น เราต้องเข้มแข็ง และขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้กับเราสองแม่ลูกเสมอมา เราทำดีที่สุดแล้ว

ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเด่นเย็นนี้