การค้นหางานที่ใช่สำหรับตัวเองคือ ความท้าทายของเด็กจบใหม่แทบทุกคน กว่าจะเจอคำตอบนี้ต้องผ่านการลองผิดลองถูก การลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง เพื่อจะได้สำรวจตัวเองว่าหลังได้ลงมือทำแล้ว ชอบสิ่งนั้นจริงๆ หรือไม่ มายด์-พรนัชชา วิรัตน์มาลี เป็นอีกหนึ่งคนรุ่นใหม่ที่กำลังหาคำตอบนี้ แม้ทางครอบครัวประกอบธุรกิจด้านจำหน่ายมือถือและอุปกรณ์การสื่อสาร มีตำแหน่งงานรองรับมั่นคงแล้ว แต่ยังมีความตั้งใจสร้างแบรนด์เครื่องสำอางของตัวเอง เมื่อได้รับการชักชวนจากรุ่นพี่ เชอร์รี่-สุชาวดี เพชรพนมพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิวตี้ ฮาร์โมนี จำกัด เจ้าของแบรนด์ครีมปิดผมขาว “โซ ยังก์ (So Young)” จึงไม่ลังเลร่วมลงทุน พร้อมรับหน้าที่ “ดิจิทัล มาร์เกตติ้ง ไดเรกเตอร์” บุกเบิกตลาดออนไลน์

บัณฑิตจบใหม่หมาดๆ จากรั้วมหาวิทยาลัยมหิดล ทายาทผู้หญิงคนเดียวในจำนวนพี่น้อง 3 คน ของ  กุลวุฒิ วิรัตน์มาลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท วิรัตน์มาลี จำกัด และ รุ่งรัตน์ สุวรรณรักรัศมี  ซึ่งให้การอบรมเลี้ยงดูมาอย่างดี คุณมายด์เล่าว่า ครอบครัวทำธุรกิจเกี่ยวกับอุปกรณ์สื่อสารโทรศัพท์ เป็นตัวแทนจำหน่ายแบรนด์ซัมซุง โดยเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมาเป็นตัวแทนจำหน่ายมือถือแบรนด์เสี่ยวหมี่ หลังเรียนจบจากคณะเศรษฐศาสตร์ ภาคอินเตอร์ คุณพ่อให้มาช่วยงานที่บริษัท ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ช่วยดูแลเกือบทุกอย่างโดยเน้นการให้บริการเป็นหลัก

“เลือกเรียนด้านเศรษฐศาสตร์ เพราะว่าตัวเองไม่เก่งเลข ถ้าเราไม่เก่งเราไม่มีทางศึกษาเองแน่นอน เลยเลือกอะไรที่บังคับเลย ส่วนตัวมองว่าจุดนี้สำคัญเพราะถ้าทำงานเป็นแล้วเรื่องตัวเลขเราไม่ได้เลย ก็มีสิทธิโดนโกงเหมือนกัน สำหรับอนาคตความตั้งใจแรกอยากจะไปเรียนต่อที่ประเทศจีน พอโควิด-19 ระบาดต้องชะลอออกไป ในแง่ดีทำให้ได้ลองหาประสบการณ์เกี่ยวกับการทำงานไปอีกสักพัก เผื่อว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงและถ้าหากเห็นโอกาสในการไปจริงๆ คงปรับแผนชีวิตใหม่ แต่ถ้าไปแล้วไม่มีโอกาสอะไรที่ดี ก็อาจไม่ไป”

การมาจับงานผลิตภัณฑ์ครีมปิดผมขาว คุณมายด์เผยที่มาว่า ส่วนตัวเป็นคนรักสวยรักงาม ความตั้งใจแรกอยากทำสินค้าคอสเมติกเพราะว่าชอบแต่งหน้า หลังสำรวจตลาดพบว่าถ้าทำเราอาจมาช้าไป พอดีว่าคุณพ่อเป็นเพื่อนเรียนหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) กับพี่สาวของพี่เชอร์รี่ (ผู้ปลุกปั้นแบรนด์ โซ ยังก์) ซึ่งก่อนหน้านี้ได้พูดถึงแบรนด์ครีมปิดผมขาวโซ ยังก์ ต่อมาได้มีโอกาสรู้จักกับพี่เชอร์รี่ ซึ่งมีความรู้เชิงลึกเรื่องเส้นผมมาก คุยกันแล้วรู้สึกว่าแนวโน้มตลาดเติบโตมากกว่านี้ และจากการจำหน่ายมา 2 ปี ยอดขายโตขึ้นเรื่อยๆ แม้ไม่ได้ทำการประชาสัมพันธ์มากนัก กลายเป็นว่าแนะนำกันปากต่อปาก จึงตัดสินใจร่วมหุ้นโดยหยิบยืมเงินก้อนหนึ่งจากคุณพ่อมาลงทุนหาประสบการณ์

“มายด์มองว่าสินค้ามีความน่าใจมาก ตลาดกลุ่มผู้สูงวัยกำลังมา แต่ยังไม่ได้ทำการประชาสัมพันธ์วงกว้าง ค่อนข้างไฟแรงเพราะเป็นเด็กจบใหม่ อายุเพียง 23 ปี ยังไม่มีผมขาว จึงนำสินค้ามาให้คุณพ่อและคุณแม่ทดลองใช้ ที่ผ่านมามายด์ชอบตามทุกพ่อเข้าร้านทำผม ไปนั่งดูคุณพ่อตัดผมแล้วต้องมานั่งรอทำสี ซึ่งผู้ชายส่วนใหญ่ใจร้อน ไม่ชอบนั่งรอนาน อีกทั้งสีย้อมผมยังมีกลิ่นแรง ประจวบเหมาะกับมีโควิด-19 อีก คนกลัวเริ่มเข้าร้านทำผมน้อยลง จึงคิดว่าครีมปิดผมขาวโซ ยังก์ จะได้รับความนิยมมากขึ้น” นักการตลาดยุคดิจิทัลกล่าว

จุดเด่นของครีมย้อมผม คุณมายด์เผยรายละเอียดว่าคือการรวบรวมสามสุดยอดอาหารผมอย่าง โสมเกาหลี มีสรรพคุณช่วยล้างสารพิษ ป้องกันเส้นผมหลุดร่วง, อาร์กานอยล์ ผมนุ่ม ชุ่มชื่น ป้องกันผมแห้งเสียและชี้ฟู, สาหร่ายทะเล ผมสุขภาพดี เงางาม และมีน้ำหนัก ปิดผมขาวเนียนสนิท ทำเองได้ง่ายๆ เพียง 3 นาที กลิ่นไม่แรง เมื่อทำสีผมแล้วจะไม่แห้งเสีย มีทั้งหมด 4 สีสุภาพเหมาะกับทุกสถานการณ์ ได้แก่ สีน้ำตาลเข้ม, สีน้ำตาลมะฮอกกานี, สีน้ำตาล สำหรับผู้ชายมี 2 สีได้แก่ สีน้ำตาลเข้ม สีดำ

ในส่วนของการบริหารงานให้ธุรกิจเจริญเติบโตนั้น คุณมายด์ บอกว่า แบ่งหน้าที่กันพี่เชอร์รี่ดูภาพร่วมเพราะประสบการณ์มากกว่า สำหรับแผนการตลาดตัวเองอยากเสริมตลาดออนไลน์ให้แข็งแรงมากขึ้น อีกร้อยละ 30 นอกจากนี้ยังมีทีมที่เป็นนักการตลาด มองภาพรวมของตลาด การจ้างอินฟลูเอนเซอร์ แน่นอนกว่ากลุ่มเป้าหมายคือ ผู้ที่ประสบปัญหาผมหงอก และจะขยายไปยังตลาดกลุ่มของผู้ชายมากขึ้น ส่วนเป้าหมายในอนาคตจะแตกไลน์สินค้าเกี่ยวกับเส้นผม อาจเป็นทรีทเมนต์หรือแชมพู ซึ่งกำลังคิดค้นสูตรกันอยู่

นอกจากนี้คุณมายด์ยังเผยถึงหลักการทำงานว่า อยู่บนพื้นฐานของความตั้งใจที่จะทำให้งานออกมาดีที่สุด ด้วยการเลี้ยงดูจากคุณพ่อคุณแม่ ไม่เคยตีกรอบ ให้ความเป็นอิสระ ไม่บังคับว่าต้องเรียนอะไร ถ้าคิดว่าอะไรเหมาะสมอยากทำก็ทำ เหมือนอยากให้เรียนรู้ลองผิดลองถูกด้วยตัวเองก่อน เจอปัญหาค่อยมาปรึกษา เพราะคุณพ่อไม่อยากปิดความคิดลูก ที่สำคัญเราเป็นคนรุ่นใหม่กว่า ฉะนั้นอาจได้เรียนรู้อะไรที่ใหม่กว่า จึงต้องเรียนรู้แล้วไปอัพเดทให้คุณพ่อฟัง คุณพ่อมีประสบการณ์ที่แข็งกว่า เราจะได้นำทฤษฎีทั้งสองรุ่นมาผสมผสานกัน อย่างไรก็ตามยอมรับว่ามีความกดดันอยู่ลึกๆ เพราะอยากทำให้คุณพ่อภูมิใจด้วย.