จากกรณีพ่อเลี้ยงโหดเปิดปากรับสารภาพเสพยาบ้าจนเมาหนัก ก่อนทำร้ายลูกเลี้ยงวัย 6 ขวบ กะโหลกแตก แขน-ขาหัก สลบแน่นิ่ง ไม่ยอมพาไปหาหมอ อุ้มโยนใส่ในรถเก๋งฮอนด้าซีวิค สีบรอนซ์ ทะเบียน กต 2748 นครปฐม ที่จอดอยู่ริมถนนภายในชุมชนแหลมทองหลาง บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 50/9 หมู่ 5 ต.แหลมงอบ อ.แหลมงอบ จ.ตราด หน้าตาเฉย ก่อนรุ่งเช้าวันต่อมาพบว่าเด็กได้เสียชีวิต จึงทำทีแจ้งผู้ใหญ่บ้านว่าเด็กตายเอง โดยกุเรื่องไสยศาสตร์มากลบเกลื่อน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 ม.ค. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะรองผู้อำนวยการศพดส.ตร. เดินทางลงพื้นที่ จ.ตราด เพื่อแถลงผลการสืบสวนคดีดังกล่าว เนื่องจากเป็นคดีเกี่ยวกับความรุนแรงภายในครอบครัว การทารุณกรรมเด็ก และประชาชนให้ความสนใจ หลังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ศพดส.ตร.(ชุด TICAC) ร่วมกับ ตำรวจภูธรภาค 2 ตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตของเด็กและสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องให้ชัดเจน เพื่อพิสูจน์ทราบสาเหตุการเสียชีวิต โดยมี พล.ต.ต.ปกรณ์ มณีปกรณ์ ผบก.ภ.จว.ตราด พ.ต.อ.สมชาย อยู่สวัสดิ์ รอง ผบก.ภ.จว.ตราด พ.ต.อ.เฉลิมศักดิ์ เถียรทองศรี ผกก.สภ.แหลมงอบ เจ้าหน้าที่ ศพดส.ตร.(ชุด TICAC) ตำรวจภูธรภาค 2 ภ.จว.ตราด และตำรวจ สภ.แหลมงอบ ร่วมแถลงผลการสืบสวน

พ่อเลี้ยงโหดทุบ6ขวบกะโหลกแขนขาหัก จับโยนใส่รถโบ้ยไม่คิดว่าเด็กตาย-ไม่พาไปหาหมอ

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตามที่มีข่าวปรากฏตามสื่อต่างๆเมื่อวันที่ 3 ม.ค. ไปก่อนหน้านี้ว่า นายปัญญา (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี พ่อเลี้ยงของเด็กชายวัย 6 ขวบ ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือทำร้ายร่างกายเด็กจนเสียชีวิต โดยบอกว่าก่อนเกิดเหตุได้เสพไอซ์ จนทำให้เกิดความเครียด หลังจากได้ยินเสียงเด็กร้องกวนใจ จึงเกิดความโมโหลงมือทำร้ายร่างกาย โดยการจับโยนไปกระแทกกับล้อรถจนสลบ แล้วนำไปนอนในรถ ก่อนจะมาพบเป็นศพในตอนสายของวันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา

จากคำให้การดังกล่าวนั้นตำรวจไม่ปักใจเชื่อ จึงสืบสวนพยานหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งจากญาติ คนใกล้ชิด และชาวบ้านในพื้นที่ จนได้ข้อมูลว่า น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี มารดาของเด็ก น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย จึงเชิญตัวมาทำการสอบสวน กระทั่งวันที่ 4 ม.ค. น.ส.บี จึงให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือทำร้ายร่างกายเด็กเอง โดยพฤติการณ์ดังกล่าวคือ เมื่อวันที่ 1 ม.ค. เวลาประมาณ 07.30 น. ได้ไปปลุกลูกชายภายในรถยนต์คันเกิดเหตุ พบว่าลูกชายอุจจาระภายในรถ ทำให้เกิดความโมโห และได้ใช้ไม้แขวนเสื้อที่ทำจากไม้ ตีลูกชายที่บริเวณศีรษะและตามร่างกายจำนวนหลายครั้งจนไม้แขวนเสื้อหัก จากนั้นลูกชายได้ออกไปเล่นนอกบ้าน และกลับไปนอนภายในรถดังกล่าว เมื่อเวลา 21.00 น. จนถึงเช้าวันที่ 2 ม.ค. จึงได้ทราบว่าลูกของตนเสียชีวิตในรถดังกล่าวแล้ว ส่วนสาเหตุที่ตนไม่แจ้งตำรวจ เนื่องจากมีความตกใจกลัว และเกรงว่าจะไม่มีคนดูแลลูกสาววัย 11 เดือน ซึ่งเป็นลูกของตนกับนายปัญญา

อย่างไรก็ตาม จากการสืบเสาะหาข้อมูลที่ชัดเจนทำให้ทราบว่า แม่ของเด็กมีพฤติกรรมทำร้ายเด็กเป็นประจำ เป็นคนอารมณ์รุนแรง โมโหง่าย จึงเป็นเหตุสงสัยนำไปสู่การสอบปากคำจนผู้ต้องหารับสารภาพด้วยความสมัครใจและสำนึกผิดด้วยตนเอง ส่วนสาเหตุที่ต้องนำเด็กไปนอนในรถนั้น นายปัญญา พ่อเลี้ยง เห็นว่าผู้เป็นแม่ มักจะอารมณ์เสียและทุบตีลูกบ่อย จึงสงสารเด็กแล้วพามานอนที่รถ เพื่อแยกตัวลูกออกมา ส่วนกรณีการอ้างว่าถูกทำคุณไสยนั้น เป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น.