จากกรณีคลิปชายหนุ่มโดนอาสาและตำรวจ​ สภ.สำโรงเหนือจับกุม ขณะขับรถเข้ามาใกล้ด่านตรวจ โดยอ้างว่ามียาเสพติดซุกซ่อนในรถ ทั้งยังตรวจสอบปัสสาวะแล้วพบเป็นสีม่วง แต่ชายหนุ่มคนดังกล่าว อ้างว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดแต่อย่างใด ทำไมต้องมายัดยาเสพติดกันด้วย ฝ่ายตำรวจและอาสาตำรวจต่างก็ปฏิเสธ บอกให้ใจเย็น ๆ ก่อน เข้าไปรวบตัวไปใส่กุญแจมือ คุมตัวไปไว้ยังท้ายรถกระบะของตำรวจ โดยชายหนุ่มคนดังกล่าวได้โทรศัพท์ขอให้ญาติมาช่วยเหลือ โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่พยายามยัดยาเสพติดให้ และเมื่อญาติของชายหนุ่มมาถึง ก็ได้มีการขอดูของกลางและผลตรวจยาเสพติด ปราฏว่ากลายเป็นเรื่องโอละพ่อ เมื่อยาเสพติดที่พบนั้น แท้จริงแล้วเป็นเพียงการบูรใส่ไว้ในซองใสๆ ส่วนผลตรวจปัสสาวะก็ไม่ได้เป็นสีม่วงแต่อย่างใด ทั้งนี้ทางตำรวจไม่ได้มีการขอโทษในการเข้าใจผิดไปจับกุมผู้บริสุทธิ์ อีกทั้งยังให้ชายหนุ่ม กราบขอโทษฝ่ายตำรวจที่ไปกล่าวหาว่ายัดยาเสพติดอีกด้วย

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 12 ม.ค. พ.ต.อ.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ​ ผกก.สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ ได้นำกระเช้าเดินทางเข้าพบผู้เสียหายและญาติที่บ้านพักซึ่งอยู่ภายในซอยเทศบาลบางปู 55 ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ภายหลังเปิดเผยว่า ตนในฐานะหัวหน้าหน่วยต้องแสดงความรับผิดชอบส่วนในสิ่งที่เกิดขึ้น ส่วนในเรื่องทางคดีก็ว่ากันไปตามข้อเท็จจริงและเท่าที่พูดคุยกุบทางญาติและผู้เสียหายเขาก็พอใจในระดับหนึ่งและรู้สึกดีใจที่ทางหัวหน้าหน่วยออกมาแสดงตน ซึ่งตนก็ได้บอกว่าเราได้พยายามแสดงตนมาตั้งแต่แรกแล้วอยากจะเข้ามาพบ แต่เราติดต่อทางญาติผู้เสียหายไม่ได้และในวันนี้ก็ได้รับการประสานจากน้อง ๆ ผู้สื่อข่าวจึงได้เข้าพบ เราไปในฐานะผู้นำหน่วยและให้หลักประกันความเชื่อมั่นให้เขาเกิดความสบายใจว่าไม่มีใครสามารถมาทำอะไรเขาได้​ เพราะหัวหน้าหน่วยลงมาเอง​ ให้ความเชื่อมั่นกันเขาซึ่งเขาก็รู้สึกสบายใจขึ้น

พ.ต.อ.อาทิตย์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของรูปคดีนั้น ขณะนี้คณะกรรมการอยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริงในส่วนอาสาที่ปรากฏในคลิปเราก็ต้องทำการสอบสวน รวมทั้งคนอื่น ๆ ที่อยู่ในขณะเกิดเหตุทั้งหมด ต้องเรียกมาสอบปากคำทั้งหมด ซึ่งก็ต้องว่ากันไปตามข้อเท็จจริงหากเข้าข่ายว่ามีความผิดจริง​ เราก็ดำเนินคดีอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นตัวอาสาเองหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ​ ตนขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายโดยไม่มีการยกเว้น