เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่าเมื่อวันที่ 11 ม.ค. ที่ประชุม ครม.ถกวาระลับอนุมัติโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่ทดแทน F-16 งบประมาณ 13,800 ล้านบาท จำนวน 4 ลำ ท่ามกลางสถานการณ์ข้าวยากหมากแพง เศรษฐกิจตกต่ำ ซึ่งโครงการดังกล่าวทำให้เกิดภาระงบประมาณ ในปี 2566 ที่ 2,760 ล้านบาท และในปี 67-69 ปีละประมาณ 3,680 ล้านบาทและเชื่อการจัดหาเครื่องบินขับไล่ จะดำเนินต่อไปจนครบ 12 ลำ เนื่องจากโครงการดังกล่าวแบ่งซื้อ 3 ระยะๆละ 4 ลำในปีงบประมาณต่อๆไป ดังนั้น สิ่งเรากำลังพูดถึงความจริงในโครงการนี้คืองบประมาณที่ต้องใช้ทั้งสิ้นประมาณ 41,400 ล้านบาท

นายพิจารณ์ กล่าวต่อไปว่า การจัดซื้ออาวุธดังกล่าวของ ครม. อยู่บนหลักที่ไม่สมเหตุสมผลกับสถานการณ์ที่ประเทศกำลังเผชิญ โดยหากย้อนไปเปรียบเทียบ 2 วิกฤติที่เราเคยผ่านมา ในวิกฤตต้มยำกุ้ง ยังต้องลดงบกลาโหม 21% วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ ลดงบกลาโหม 9.5% พร้อมเสนอหากกองทัพยืนยันขอซื้ออาวุธ ต้องสามารถบริหารจัดการ ภายใต้กรอบงบประมาณของกระทรวงกลาโหมที่ต้องลดลงจากปี 65 อย่างน้อย 10% หาก ครม. ไม่ได้ตัดสินใจบนหลักการและเหตุผลลักษณะนี้คงจะกล่าวโทษการใช้จ่ายงบประมาณของกลาโหมไปที่พล.อ.ประยุทธ์เพียงคนเดียวไม่ได้ เพราะเป็นความรับผิดชอบของทั้งคณะ ต่อบาปกรรมที่กระทำไว้กับประชาชน.