เรียกได้ว่ากำลังเป็นประเด็นร้อนแรงที่ชาวเน็ตบนโลกออนไลน์ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ภายหลัง พญ.ลลิตา ธีระสิริ นักเขียนชื่อดังและหนึ่งในผู้ก่อตั้งศูนย์ธรรมชาติบำบัดบัลวี มีการโพสต์เตือนสติคนรุ่นใหม่ในเรื่องการปฏิเสธการเข้ารับพิธีรับปริญญา เพราะไม่อยากให้ตกเป็นเครื่องมือของใคร และอาจมีปัญหาเรื่องการสมัครงานได้ พร้อมเผยสนทนาเพื่อนที่เป็นเจ้าของกิจการว่า ใครไม่รับปริญญา จะไม่รับเข้าทำงาน เวลาใครสมัครงานจะขอดูมือถือ เพื่อตัดการสร้างปัญหาในองค์กร ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด แฟนเพจเฟซบุ๊ก รองขาโต๊ะ ได้ออกมาโพสต์ผลงานการเขียนของ พญ.ลลิตา เนื่องจากหลายคนสงสัยว่า เธอคือใคร และมีผลงานการเขียนอะไรบ้าง เพราะไม่เคยคุ้นชื่อนักเขียนคนนี้เลย โดยเพจดังกล่าวพบว่าเธอเคยเขียนหนังสือชื่อ “เลี้ยงลูกอย่างไร ไม่ให้เป็นเกย์” พร้อมข้อความบนหน้าปกที่เน้นย้ำว่า “รอช้า อาจสายเกินแก้” ซึ่งหนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์ในปี พ.ศ 2530 หรือเมื่อ 35 ปีก่อน และปรากฏอยู่ในฐานข้อมูลของห้องสมุดกรมสุขภาพจิตด้วย

หนังสือเล่มดังกล่าวก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมา เพราะชาวเน็ตต่างมองว่าเป็นการเหยียดเพศ แม้จะมีบางส่วนแย้งมาว่า หนังสือตีพิมพ์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 บางทีแนวคิดเรื่องเพศอาจไม่ได้เปิดกว้างเท่าปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม ภายหลังชาวเน็ตรู้ว่า พญ.ลลิตา เป็นผู้เขียนหนังสือเล่มดังกล่าว ต่างก็เข้าวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เปิดกว้างทางแนวคิด เพราะชาวเน็ตต่างมองว่าเป็นการเหยียดเพศ แม้จะมีบางส่วนแย้งมาว่า หนังสือตีพิมพ์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 บางทีแนวคิดเรื่องเพศอาจไม่ได้เปิดกว้างเท่าปัจจุบัน เราไม่สามารถเอาความคิดของคนในปัจจุบัน ไปตัดสินหนังสือในยุคนั้นได้ ดังนั้น หนังสือเล่มนี้ อาจจะถือว่าเป็นสิ่งที่ปกติในสมัยนั้น

นอกจากนี้ยังบอกว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะไปบังคับสั่งสอนเรื่องเพศสภาพ เพศภาวะของใคร เนื่องจากการเป็นเกย์ไม่ใช่โรค ไม่ใช่เรื่องที่ต้องรักษา

อย่างไรก็ตาม ได้ชาวเน็ตบางรายนำชื่อของ พญ.ลลิตา ไปค้นในฐานข้อมูลแพทยสภา ผลคือไม่ปรากฏชื่อใด ๆ แต่ก็มีคนเข้ามาให้ข้อมูลว่า เธอคือแพทย์ทางเลือก สายธรรมชาติบำบัด

ทั้งนี้ ได้มีชาวเน็ตอีกรายบอกว่า พญ.ลลิตา ธีระสิริ นั้นเป็นนามปากกา แต่ชื่อที่แท้จรงนั้นก็คือ พญ.ณัฏฐา ชุณหสวัสดิกุล และเมื่อไปค้นในฐานข้อมูลแพทยสภา พบว่าเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมตั้งแต่ พ.ศ. 2518 สถานะความรู้ความชำนาญเฉพาะทาง สาขา เวชศาสตร์ครอบครัว ( Family Medicine)..