จากกรณี นางปาวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อมคณะเดินทางเข้าช่วยเหลือเด็กหญิงวัย 12 ขวบ และ 16 ปี สองพี่น้องที่โดน นายตำรวจยศ “ร.ต.อ.” ข่มขืนกระทำชำเรานานนับปี โดยฝ่ายยายของเด็กได้เข้าแจ้งความเอาผิดแล้ว แต่ภายหลังนายตำรวจรายนี้กลับได้รับการปล่อยตัว ทำให้ฝ่ายผู้เสียหายทั้งหมดกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และอาจโดนข่มขู่ให้ไม่เอาเรื่องภายหลัง

ปวีณา’เข้าช่วยเหลือ 2 ด.ญ.เมืองตรัง ถูก ‘ร.ต.อ.’ขืนใจมาราธอนนับปี

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 21 ม.ค. นางปาวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อมคณะได้เดินทางเข้าพบ นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผวจ.ตรัง และ พล.ต.ต.สันทัด วินสน ผบก.ภ.จว.ตรัง เพื่อหารือแนวทางให้ความช่วยเหลือครอบครัวของเด็กหญิงผู้เสียหาย ภายหลัง พล.ต.ต.สันทัด กล่าวว่า คดีนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ตอนนี้มีพยานหลักฐานในระดับหนึ่ง ก็ต้องว่าไปตามข้อเท็จจริง ต้องมีการตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์อีกส่วนหนึ่งด้วย

“….เบื้องต้นทางผู้ก่อเหตุให้การปฏิเสธ และขอให้การในชั้นศาล แต่เราก็มีข้อเท็จจริงจากพยานที่เป็นเด็กและพยานแวดล้อม ส่วนข้อกล่าวหาเราต้องแยกผู้เสียหายที่เป็นเด็กอายุไม่เกิน13 ปี คนหนึ่ง และอายุเกิน 13 ปี รวมแล้ว 3-4 ข้อหา อยากให้สบายใจ ตนทำคดีทุกคดีสามารถตรวจสอบได้ ระยะเวลาก็ต้องขึ้นอยู่กับหลักฐานหรือข้อเท็จจริงก็ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมายและเวลา เรารับรู้เรื่องนี้เมื่อวันที่ 17 ม.ค. ก็ให้ฝ่ายสืบสวนเข้าไปตรวจสอบก่อน หลังจากนั้นก็นัดหมายกับสหวิชาชีพสอบวันที่ 18 ม.ค. ได้ข้อเท็จจริงที่เป็นพยานหลักฐานสามารถขอหมายค้นได้ เราก็ค้น ถึงแม้ว่าจะเป็นบ้านพักหลวงเราก็ค้น ทำตามกฎหมายทุกอย่าง เมื่อพบตัวก็นำตัวมาแจ้งข้อหาในวันรุ่งขึ้นทันที พร้อมตั้งพนักงานสอบสวนและให้ออกจากราชการไว้แล้ว…” ผบก.จว.ตรัง กล่าว

ด้าน นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผวจ.ตรัง กล่าวว่า เราให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะคดีนี้เป็นที่สนใจของประชาชน เรามอบให้ทาง ผบก.ภ.จว.ตรัง ดูแล วันนี้ทางยุติธรรมจังหวัดศูนย์ดำรงธรรม และทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความั่นคงของมนุษย์ ได้ให้คำยืนยันต่อพี่น้องประชาชนว่า คดีนี้ไม่เป็นมวยล้มแน่นอน สุดท้ายแล้วในสังคมมีทั้งคนดีและคนไม่ดีอยู่ ถ้าทำผิดก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง

ขณะที่ นางนูรียัน นิเต๊ะ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ตรัง กล่าวว่า เรามีการพูดคุยกับเด็ก 2 วัน เมื่อถึงวันที่ 3 เราก็เริ่มใกล้ชิด เริ่มพูดคุยกันมากขึ้นคลายกังวลมากขึ้น เหมือนได้พูดสิ่งที่อยากพูด โดยคนพี่อายุ 16 ปี อยากเรียนหนังสือเพราะไม่ได้เรียนมา 5 ปี แล้ว และไม่ได้เรียนต่อเมื่อเราบอกว่ามีแนวทางในการศึกษาก็ดีใจ เพราะที่ผ่านมาไม่มีปัจจัยที่จะทำให้ได้เรียน อีกเรื่องหนึ่งคือคิดถึงแม่เพราะแม่ถูกต้องโทษที่เรือนจำ จ.ชลบุรี ไม่สามารถเยี่ยมได้ ทำได้แค่ส่งเงินและจดหมายไป สำหรับคนน้องอาจจะพูดน้อยลง แต่ก็ยังร่าเริง ไม่มีภาวะเครียดการใช้ชีวิตประจำวันก็ยังปกติดี

ขณะที่ นางน้อย (นามสมมุติ) 65 ปี ยายของเด็กหญิงผู้เสียหาย กล่าวว่า อยากให้เอาผิดผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด เป็นถึงตำรวจผู้รักษากฎหมาย แต่กลับข่มขืนเด็กได้เป็นปี ที่สำคัญการเป็นตำรวจที่รู้กฎหมาย มีการใส่ถุงยางอนามัยเรียบร้อย เพื่อป้องกันไม่ให้มีหลักฐานเอาผิด อีกทั้งเด็กก็อยู่ที่บ้านผู้ก่อเหตุเองด้วย เขาจึงรู้อะไรเป็นอะไร ต้องทำอย่างไร เมื่อถูกจับก็ยากที่จะเอาผิด เพราะทุกอย่างเขาเรียนรู้มาหมดแล้ว.