เมื่อวันที่ 18 ก.ค. พล.ต.ต.สำราญ นวลมา รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ. ประสงค์ อานมณี รองผบก.สปพ. พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.สายตรวจ บก.สปพ. พ.ต.ท.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ รอง ผกก.สายตรวจ บก.สปพ. พ.ต.ท.อนันต์ วรสาตร์ รองผกก.ป.สน.บางเขน นำกำลังตำรวจ 191 และฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน ร่วมกันนำกำลังเข้าจับกุม นายธนเดช ศรีสงคราม หรือ “ม่อน อาชีวะ” แกนนำกลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชน พร้อมพวกอีก 13 คนพร้อมของกลางรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ผค 1043 เพชรบูรณ์ รถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ ทะเบียน 1 ฒว 3479 กรุงเทพมหานคร มีดสปาต้า ขนาดความยาว 1 ฟุต 2 เล่ม คมแฝก 1 ท่อน หนังสติ๊ก 14 อัน และหัวน็อตล้อรถยนต์อีกจำนวนหนึ่ง โดยสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ขณะจอดรถรับ-ส่งเพื่อนร่วมอุดมการณ์ ที่บริเวณวงเวียนบางเขน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน หลังจากเสร็จสิ้นการเข้าร่วมชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบพบว่า นายธนเดช หรือม่อน อาชีวะ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีที่ 336/64 ลงวันที่ 18 ก.ค. 64 ในข้อหาร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็น หรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน, ร่วมทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย และได้รับอันตรายแก่กายสาหัส, มั่วสุมตั้งแต่ 10 คน ขึ้นไป โดยใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยมีอาวุธ, ร่วมกันฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาตรา 9 ข้อ 5 ห้ามมิให้มีการชุมนุมทำกิจกรรม หรือมีการมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัดหรือกระทำการดังกล่าว อันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบ และร่วมกันต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าหนักงานในการปฎิบัติการตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้ายอีกด้วย จากกรณี​จัดกิจกรรมที่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อทวงถามประเด็นการจัดหาวัคซีนชนิด “เอ็มอาร์เอ็นเอ”แทนวัคซีนซิโนแวค เมื่อวันที่ 16 ก.ค. ที่ผ่านมา

เบื้องต้น ตำรวจเจ้าหน้าที่คุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปทำประวัติและลงบันทึกจับกุมไว้เป็นหลักฐานที่สน.บางเขน ก่อนส่งตัวนายธนเดช ไปดำเนินคดีที่สภ.เมืองนนทบุรี ส่วนผู้ต้องหาอีก 13 ราย ถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก่อนนำตัวส่ง ตชด.ภ.1 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.