เมื่อวันที่ 1 ก.พ.​ ผู้ใช้เพจเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ภาพพร้อมคลิปกล้องวงจรปิด พร้อมกับระบุข้อความไว้ว่า “หาของกินไม่ว่าแต่อย่าทำของเสียหาย ทางที่ดีอย่าหาทำเลยจะดีกว่า เพราะว่ายามวิกาล”

ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพวันที่ 29 ม.ค.65 จับภาพคนร้ายเป็นชายเดินเข้ามาที่ร้านค้า 2 คน คนร้ายคนแรกเดินเข้ามาดูลาดเลา ลักษณะคนร้ายสวมเสื้อแขนยาวสีขาว สวมกางเกงยีนใส่รองเท้าแตะ ส่วนอีกคน สวมเสื้อแขนยาวสีดำมีฮู้ด ใส่กางเกงยีนขายาว สวมรองเท้าแตะ เป็นคนเข้ามางัดของภายในร้าน ทั้งสองคนเดินวนอยู่รอบร้านประมาณ 2 รอบ ก่อนให้คนร้ายใส่เสื้อฮู้ดสีดำเข้ามาภายในร้านเพื่องัดและขโมยของ และอีกคนเป็นคนดูต้นทางให้ หลังจากก่อเหตุคนร้ายวิ่งหนีออกไปทั้งสองคนด้วยความรวดเร็ว

โดยผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุบริเวณ ร้านชาเบตง เลขที่ 74 หมู่ 2 ในวัดโปรดเกษ ต.คลองพระอุดม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พบ นางเปรมใจ บุบผา อายุ 52 ปี อดีตครู กศน.ปากเกร็ด ถูกคนร้าย 2 คนเข้ามางัดร้านขโมยมาม่า 1 แพ็ก และงัดกระจกแตกเสียหายทั้งหมดประมาณ 7,000  บาท หลังจากเกิดเหตุผู้เสียหายยังไม่ได้เข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ   

จากการสอบถามนางเปรมใจ เล่าว่า เมื่อช่วงเวลา 19.00 น.​ ของวันที่ 29 ม.ค.ตนออกมาจากร้านเพื่อที่จะกลับบ้าน วันถัดมาตนเห็นว่าที่ร้านโดนงัด มีตู้โค้กและตู้เก็บของที่จะขายหน้าร้าน พังเสียหาย ตนจึงขอกล้องวงจรปิดจากทางวัดว่ามีอะไรเสียหายไปบ้าง ซึ่งคนร้ายมา 2 คน คนหนึ่งใส่เสื้อดำมีฮู้ดและใส่ถุงมือ พร้อมกับอีกคนที่คอยส่องไฟฉายให้เพื่อน ตอนคนร้ายเข้ามาครั้งแรกเข้ามาเปิดตู้น้ำแข็ง และเขย่าตู้โค้ก และงัดตู้ที่ใส่ของเพื่อหยิบมาม่าไป 1 แพ็ก ซึ่งคนร้ายคนที่สองก็เดินเข้ามาเขย่าตู้แล้วก็เดินออก หลังจากที่เขาขโมยเสร็จก็รีบวิ่งหนีไม่รู้ว่าเขาเจออะไร เพราะหนีไปไวมาก ของที่เสียหายมีมาม่า และตู้ที่กระจกแตก ประมาณรวมๆ​ แล้ว 7,000 บาท และตู้โค้กไม่มั่นใจว่าจะต้องซ่อมหรือไม่

อยากฝากถึงคนร้ายว่าต้องทำมาหากินอย่ามาทำแบบนี้เลย ทั้งที่อยู่ในวัด ถ้าหิวหรือไม่มีอะไรจะกินก็มาขอกันตรงๆ​ ก็จะนำเอามาให้ และขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว จะได้ไม่ไปทำกับคนอื่น