นายยาซูยูกิ ซาวาดะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) เปิดเผยว่า เอดีบีได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2564 ลงอยู่ที่ 2% จากที่เคยคาดการณ์ไว้ 3% เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เนื่องจากการแพร่ระบาดเชื่อไวรัสโควิด -19 ระลอก 3 เมื่อเดือนเมษายน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงหลัก ส่งผลให้การบริโภคภาคเอกชนและการลงทุนลดลงโดยเฉพาะเครื่องจักรกลและอุปกรณ์ต่างๆ ในขณะที่การจำกัดการท่องเที่ยวที่ยังดำเนินอยู่ทำให้นักท่องเที่ยวลดลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่แล้ว ส่วนเศรษฐกิจไทยของปี 2565 คาดว่ากระเตื้องขึ้นอยู่ที่ 4.9% จากที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 4.5% 

นอกจากนี้ เอดีบี คาดว่าเศรษฐกิจในประเทศเอเชียกำลังพัฒนาจะเติบโตที่ 7.2% ในปีนี้จากที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 7.3% ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ทำให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจช้าลงในบางประเทศในภูมิภาค ส่วนแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2565 นั้นจะปรับขึ้นจาก 5.3% เป็น 5.4% ทั้งนี้หากไม่รวมเศรษฐกิจอุตสาหกรรมใหม่ของฮ่องกง เกาหลี สิงคโปร์ และไทเป แนวโน้มของเศรษฐกิจเอเชียกำลังพัฒนาล่าสุดจะเติบโตที่ 7.5% ในปี 2564 และ 5.7% ในปี 2565 จากที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 7.7% ในปี 2564 และ 5.6% ในปี 2565

“การฟื้นตัวของเอเชียและแปซิฟิกจากการระบาดใหญ่ของโควิด -19 ยังคงดำเนินต่อไป แม้ว่าจะยังไม่มั่นคงท่ามกลางการระบาดซ้ำ การเกิดไวรัสสายพันธุ์ใหม่ และการกระจายการฉีดวัคซีนที่ไม่คงเส้นคงวา นอกเหนือจากมาตรการกักตัวและฉีดวัคซีนแล้ว การฟื้นฟูกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยแบ่งเป็นหลายระยะอย่างมีกลยุทธ์ในแต่ละกิจกรรม เช่น การค้า อุตสาหกรรมการผลิต และท่องเที่ยว จะเป็นกุญแจสำคัญเพื่อให้มั่นใจได้ว่าการฟื้นตัวจะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ครอบคลุม และยืดหยุ่นได้”

สำหรับแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของเอเชียตะวันออกในปี 2564 เพิ่มขึ้นเป็น 7.5% จาก 7.4% ที่เคยคาดการณ์ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ท่ามกลางการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งเกินคาดของเศรษฐกิจอุตสาหกรรมใหม่ ได้แก่ ฮ่องกง เกาหลี และไทเป การคาดการณ์การเติบโตของอนุภูมิภาคสำหรับปี 2565 นั้น จะยังคงอยู่ที่ 5.1% ซึ่งแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนจะยังคงเดิมอยู่ที่ 8.1% ในปีนี้ และที่ 5.5% ในปี 2565 ท่ามกลางผลประกอบการที่มั่นคงของภาคอุตสาหกรรม ภาคการส่งออก และภาคบริการต่างๆ

ขณะที่แนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของเอเชียกลางในปีนี้ คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 3.6% จาก 3.4% ที่คาดการณ์ไว้ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งสาเหตุหลักมาจากแนวโน้มทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นของอาร์เมเนีย จอร์เจีย และคาซัคสถาน ซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในอนุภูมิภาค ส่วนแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของเอเชียกลางในปี 2565 นั้น จะยังคงอยู่ที่ 4%

ด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจของเอเชียใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแปซิฟิกในปี 2564 มีแนวโน้มลดต่ำลง เนื่องจากการระบาดระลอกใหม่ถูกควบคุมโดยมาตรการการกักตัวและข้อจำกัดต่างๆ ซึ่งส่งผลต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ แนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของเอเชียใต้ในปีงบประมาณ 2564 ถูกปรับลดลงอยู่ที่ 8.9% จาก 9.5%

ส่วนอัตราเงินเฟ้อในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกในปีนี้ คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 2.4% จาก 2.3% ที่คาดการณ์เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่วนอัตราเงินเฟ้อในปี 2565 จะยังคงอยู่ที่ 2.7%