วันที่ 4 ธ.ค. 2563 เอ็ดเวิร์ด พาร์คเกอร์ กำลังทำงานอยู่ที่ร้าน ‘ลอดจ์ ฮัวลาพาย’ ในลาสเวกัส ขณะเกิดเหตุโจรถืออาวุธเข้ามาปล้นทรัพย์ในร้าน โดยสั่งให้เขาคุกเข่าลงกับพื้นและยกมือประสานไว้ที่ท้ายทอยระหว่างที่กลุ่มโจรกวาดเงินตรงบริเวณบาร์เครื่องดื่มไปจนหมด 

ตามเอกสารคำร้องขอยื่นฟ้องอดีตนายจ้างของเอ็ดเวิร์ด พาร์คเกอร์ ระบุว่า ขณะเกิดเหตุปล้นทรัพย์นั้น เขาหวาดกลัวอย่างมากและกังวลว่าจะถูกฆ่า ส่วนกลุ่มโจรนั้นออกจากร้านไปพร้อมกับเงินจำนวน 3,937.35 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 128,560 บาท) 

หลังจากนั้น เจ้านายของพาร์คเกอร์ก็นำเอกสารมาให้เขาเซ็น โดยเป็นแบบฟอร์มเกี่ยวกับชำระเงินเพื่อชดใช้หนี้สินหรือค่าเสียหาย พาร์คเกอร์ ซึ่งกำลังกลัวว่าจะต้องตกงานในตอนนั้นจึงยอมลงชื่อ ในเอกสารระบุว่า เขาจะต้องโดนหักเงินค่าจ้างครั้งละ 300 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9,800 บาท) จนกว่าจะครบจำนวนเงินเกือบ 4,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 130,544 บาท) ในเดือนมิถุนายนของปี 2564

เอ็ดเวิร์ด พาร์คเกอร์ อดีตบาร์เทนเดอร์ของร้านลอดจ์ ฮัวลาพาย

แม้ว่าจะโดนบังคับให้จ่ายหนี้ซึ่งตัวเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง และยังต้องทนทุกข์จากอาการหวาดผวาและมีความเครียดสูงอันเนื่องมาจากประสบการณ์ที่เลวร้ายระหว่างที่ร้านโดนปล้น แต่พาร์คเกอร์ก็ยังคงพยายามทำงานต่อไป จนกระทั่งเดือนกรกฎาคม 2564 พาร์คเกอร์ก็ถูกลดขั้นไปอยู่ในสถานะ ‘พนักงานเสริม’ ซึ่งหมายความเขาจะได้ทำงานก็ต่อเมื่อมีการตามตัวจากทางร้าน 

หลังจากนั้น พาร์คเกอร์ ก็ไม่เคยโดนทางร้านตามตัวให้ไปทำงานอีกเลย

ทางตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้สองคนที่สันนิษฐานว่าเกี่ยวข้องกับการปล้นร้านของอดีตนายจ้างของพาร์คเกอร์ ตั้งแต่วันที่ 4 ธ.ค. 2563 แต่ไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงใด ๆ ว่าพาร์คเกอร์รู้จักกับคนเหล่านี้หรือมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มคนร้าย โฆษกของทางตำรวจปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดแก่ผู้สื่อข่าว แต่กล่าวว่าไม่มีใครพูดถึงชื่อของพาร์คเกอร์แต่อย่างใด

ขณะที่ พาร์คเกอร์ตัดสินใจยื่นฟ้องอดีตนายจ้าง ทางร้านลอดจ์ ฮัวลาพาย และทนายความของทางร้านยังคงสงวนการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีนี้ แม้ว่าจะมีชาวเน็ตบางรายเข้าไปแสดงความเห็นเชิงลบในบัญชีโซเชียลมีเดียของทางร้าน

แหล่งข่าวและเครดิตภาพ

https://www.nbcnews.com/news/us-news/las-vegas-bartender-robbed-gunpoint-was-forced-repay-bosses-stolen-mon-rcna15377

Facebook/hualapai.lodge