เมื่อวันที่ 12 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.อุดม คชินทร ที่ปรึกษาศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 จะแตะ 2-3 หมื่นหรือไม่ ว่า ตนคิดว่าอยู่ในสิ่งที่เราได้คาดการณ์ตามกราฟของกระทรวงสาธารณสุข และวันเดียวกันนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อ15,000 ราย  และในช่วงปลายเดือนก.พ.คาดการณ์ว่าจะขึ้นไปถึง 17,000-18,000 ราย ซึ่งหวังว่าจะไม่ถึง 20,000 รายในสิ้นเดือนนี้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับประชาชนทุกคนที่ต้องช่วยกัน เพราะทุกคนอึดอัดมา 2 ปี อยากผ่อนคลาย

ขณะนี้ผู้ที่เจ็บป่วยรุนแรงน้อยลงถ้าเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยมีผู้ป่วยหนักลดลงถึง 10 เท่า ซึ่งถือเป็นข้อดีที่เรายังสู้ไหว แม้จะไม่รุนแรง จึงขอให้ประชาชนเร่งฉีดวัคซีนเข็ม 3 ที่ขนาดนี้วัคซีนเหลือเยอะมาก แต่มีผู้ไปฉีดน้อย ซึ่งเข็ม 3 มีข้อมูลชัดเจนว่าช่วยป้องกันได้ ทั้งนี้ไม่อยากให้ประชาชนตระหนกที่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และต้องบอกว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้นอีก แต่ไม่อยากให้สูงถึง 20,000 ราย เพราะสัดส่วนตัวเลขผู้ป่วยหนักจะสูงขึ้น ยืนยันถ้าไม่สูงเกิน 20,000 รายเราสู้ไหวแบบสบายๆ กำลังด้านสาธารณสุขมีเพียงพอทุกอย่าง ระบบได้ทำไว้ดีหมดแล้ว ทั้งนี้ ที่ประชุม ศบค.วันเดียวกันนี้ จะพิจารณาผ่อนคลายมาตรการ ซึ่งกังวลว่าประชาชนจะไม่เข้าใจว่า เพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ทำไม ศบค. ถึงผ่อนคลาย 

“ผมก็คิดว่ารัฐบาลก็ไม่ไหว คือต้องยอมรับว่าเราใช้เงินเยอะมาก รัฐบาลทุ่มเงินให้ฟรีหมดไม่มีประเทศไหนให้ฟรีได้มากเท่าประเทศเรา ถ้าพูดกันตรงๆ ผมคิดว่าตอนนี้เราต้องช่วยกันฟื้นฟูเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งตอนนี้ต้องทำใจ ผมคิดว่าเราต้องเตรียมใจในช่วงที่จะต้องเปลี่ยนผ่านกับโรคระบาดทั่วโลก ซึ่งต้องฝากให้ทำความเข้าใจกับประชาชนเราอาจเหมือนยุโรปกับอเมริกา เพียงแต่เราจะไม่ทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า เราต้องเตรียมตัว อย่างที่ประชุมสาธารณสุขช่วงเช้าผมบอกว่า อีกซัก 1-2 เดือน เราอาจต้องประกาศเหมือนประเทศสวีเดน ที่ยกเลิกการดูแลรักษาฟรีทั้งหมด แต่ต้องเตรียมตัวประชาชนให้พร้อมก่อน” นพ.อุดม กล่าว

นพ.อุดม กล่าวอีกว่า สำหรับการฉีดวัคซีนในเด็ก ตั้งแต่ 5-11 ปี ยังมีการฉีดน้อยมาก เนื่องจากผู้ปกครองมีความกังวลซึ่งขณะนี้หากไม่ต้องการฉีดไฟเซอร์ ก็มีซิโนแวคและชิโนฟาร์มเป็นอีกทางเลือก ขณะที่เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป กระทรวงสาธารณสุขจะให้ใช้สูตรไขว้ได้ เพื่อให้ภูมิขึ้นเร็ว ทั้งนี้ขอให้เด็กไปรับการฉีดวัคซีน เพราะมีการระบาดในเด็ก และเมื่อเด็กป่วย เชื้อก็จะกระจายไปทั่วร่างกาย ถือเป็นสิ่งที่น่ากลัวกว่าผู้ใหญ่ที่เชื้อลงปอดเท่านั้น.