สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 19 ก.พ.ว่าบริษัทมิตซูบิชิของญี่ปุ่น ออกแถลงการณ์ เกี่ยวกับการเพิกถอนการร่วมทุนจากแหล่งก๊าซเยตากุน ตั้งอยู่นอกชายฝั่งทะเลอันดามัน นอกชายฝั่งทางตอนใต้ของเมียนมา โดยให้เหตุผลเกี่ยวกับ “ความยากลำบาก” ในการเดินหน้าธุรกิจ ซึ่งเป็นผลจาก “จุดยืนที่แตกต่าง” ระหว่างรัฐบาลทหารเมียนมากับผู้บริหารของมิตซูบิชิ ทั้งในมิติทางเศรษฐกิจและการเมือง


ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของมิตซูบิชิ เกิดขึ้นหลังเปโตรนาส รัฐวิสาหกิจด้านพลังงานรายใหญ่ของมาเลเซีย เปิดเผยว่า บริษัท พีซี เมียนมา (ฮ่องกง) ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทในเครือของเปโตรนาส และเป็นผู้ดำเนินการที่แหล่งก๊าซเยตากุน ขายทรัพย์สินทั้งหมดของบริษัท ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของแหล่งก๊าซดังกล่าว เพื่อเปลี่ยนผ่านให้กับผู้ร่วมทุนรายใหม่


ปัจจุบัน พีซี เมียนมา (ฮ่องกง) ถือหุ้น 40.9% ในแหล่งก๊าซเยตากุน ส่วนมิตซูบิชิถือหุ้น 1.93% ขณะที่บริษัทเมียนมา ออยล์ แอนด์ ก๊าซ ของรัฐบาลทหารเมียนมา ถือหุ้น 20.5% นอกจากนั้น ยังมีการร่วมทุนจากญี่ปุ่นในแบบกิจการค้าร่วม คิดเป็นสัดส่วน 19.3% และที่เหลือเป็นของบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. จากไทย


ขณะที่เมื่อปลายเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา บริษัท โททาล เอเนอร์จีส์ ของฝรั่งเศส บริษัท เชฟรอน ของสหรัฐ และ บริษัทวูดไซด์ ปิโตรเลียม ของออสเตรเลีย ประกาศยุติการดำเนินงานทั้งหมดในเมียนมา โดยการถอนตัวของโททาล ส่งผลมากที่สุด ต่อการลงทุนในแหล่งก๊าซยาดานา ที่อยู่นอกชายฝั่งทะเลอันดามัน.

เครดิตภาพ : REUTERS