เมื่อวันที่ 22 ก.พ. เกิดเหตุสะเทือนใจชาวพุทธ โดยพระครูโกศลวิหารคุณ รองเจ้าคณะอำเภอเมือง จ.อุบลราชธานี พร้อมด้วย นางเพลินพิศ น้อยคนดี นักวิชาการศาสนาชำนาญการพิเศษ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุบลราชธานี และตำรวจชุดสืบสวนภ.จว.อุบลราชธานี ลงพื้นที่วัดนิคมกิตติยาราม ต.ไร่น้อย อ.เมือง จ.อุบลราชธานี เข้าพบ พระครูประโชติกิตติคุณ เจ้าอาวาสวัดนิคมกิตติยาราม หลังรับแจ้งมีคลิปหลุดเป็นภาพพระและสามเณร 6 รูป ตั้งวงดื่มสุราฉลองวันเกิดในกุฏิอย่างสนุกสนาน มีร้องเพลงอวยพรวันเกิด ซึ่งเจ้าของวันเกิดอ้างว่าได้กินฉลองวันเกิดและฉลองอกหักจากสามเณรคู่ขาที่บอกเลิกคบกัน

นอกจากนี้มีตั้งวงกินเหล้าอยู่เป็นประจำสร้างความเอือมระอาให้กับชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ที่ผ่านมามีสามเณรของวัดไปแจ้งความที่ สภ.เมืองอุบลราชธานี พร้อมได้แจ้งผู้ใหญ่บ้านแต่เรื่องก็เงียบ และที่อื้อฉาวมากยังมีคลิปหลุดของสามเณรที่มั่วสุมรักร่วมเพศภายในกุฏิไม่เกรงกลัวผิดศีลธรรม อีกทั้งยังมีแชตพูดคุยกันระหว่างพระกับสามเณรเรื่องรักร่วมเพศถูกเผยแพร่ส่งต่อกันทำให้ภาพลักษณ์ของศาสนาเสื่อมเสีย

พระครูโกศลวิหารคุณ กล่าวว่า เบื้องต้นทราบว่ามีพระเณรส่วนหนึ่งที่อยู่ในคลิปสึกไปแล้ว 2 รูป ส่วนที่เหลืออยู่ที่วัดต้องตรวจสอบว่ามีใครบ้างที่อยู่ในกลุ่มนั้น ได้แจ้งให้เจ้าอาวาสของวัดเรียกมาประชุม ซึ่งจะได้เคลียร์ว่ามีใครบ้างในคลิป ส่วนดีก็ให้แยกออกจากกลุ่ม ส่วนที่มีกรณีก็ต้องจัดการว่าจะเอายังไง ความผิดระดับไหนก็ต้องมาดูแลนี่คือข้อสรุป ส่วนอย่างอื่นทางคณะสงฆ์ฝ่ายปกครองก็จะได้แก้ไขโทษสูงสุด ถ้าดูตามหลักฐานในเรื่องของการตั้งวงกินเหล้ากันสามารถตั้งตักเตือนกันได้ถ้าไม่มีเรื่องยาเสพติด แต่ในกรณีนี้เรื่องผ่านมาแล้ว เจ้าอาวาสอาจจะเรียกมายังไม่ถึงขั้นสึก ส่วนกรณีที่มีการถ่ายคลิปการรักร่วมเพศถือว่าร้ายแรง สำหรับการดื่มสุราถ้าเป็นเหตุความผิดซึ่งหน้าก็สามารถจับสึกได้ แต่เหตุการณ์ล่วงเลยมาแล้วอาจจะตักเตือนไม่ให้ทำอีกและต้องมีการบันทึกไว้

ด้านนางเพลินพิศ กล่าวว่า คลิปที่ออกไปเป็นเรื่องพฤติกรรมของพระสงฆ์ที่ไม่ค่อยเหมาะสม ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะสงฆ์ที่จะต้องไปดูแล สอบสวนดูว่ามีความผิดมากน้อยแค่ไหน ถ้าชัดเจนก็ต้องดำเนินไปตามพระวินัย เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะสงฆ์โดยตรง

ทั้งนี้ชาวบ้านในพื้นที่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน ถึงเวลาหรือยังที่สำนักพระพุทธศาสนาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งแก้ไขกู้คืนภาพลักษณ์และความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนกลับคืนมา เพราะที่ผ่านมามีข่าวเสื่อมเสียในวงการสงฆ์ปรากฏบนสื่ออยู่เรื่อยมา หากแม้ไม่สามารถออกกฎห้ามไม่ให้อุปสมบทได้ก็ต้องมีบทลงโทษอย่างจริงจัง หากประพฤติตัวไม่เหมาะสมเพื่อให้เป็นบรรทัดฐานไม่ให้พระ และสามเณรรายอื่นๆ ประพฤติปฏิบัติตนเอาเป็นเยี่ยงอย่าง