เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ที่ สภ.เมืองนนทบุรี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ปากคำในฐานะพยานคดี “แตงโม” โดยทนายตั้ม กล่าวว่า ได้รับการประสานจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาเป็นพยาน คาดว่ามี 2 เรื่องใหญ่ เรื่องแรกเป็นเรื่องที่ไฮโซปอและโรเบิร์ต เข้ามาพูดคุยกับตน เรื่องที่ 2 ก็เป็นเรื่องที่ตนนั้นได้ลงพื้นที่แล้วแจ้งเบาะแสกับทางเจ้าหน้าที่ ไปให้ทำการตรวจสอบเรื่องนี้เพิ่มเติม ซึ่งในรายละเอียดของการให้การและการร้องขอ จะขอให้ทางชุดสืบสวนทำการทดลองโดยการนำชิ้นเนื้อหมู หรือ ซิลิโคน มาทำการพิสูจน์นำเรือมาลอยเพื่อเปรียบเทียบว่า ร่องรอยจากบาดแผลคุณแตงโมนั้นเกิดขึ้นจากใบพัดหรือไม่

จากการลงพื้นที่ไปทำการตรวจสอบเมื่อวานนี้ ก็ได้ชี้แจงในบางประเด็นว่า นี่เป็นหลักฐานหรือพยานชิ้นสำคัญที่จะบ่งบอกได้ว่า เหตุนั้นเกิดอย่างไรและตนก็ไม่ได้ก้าวล่วงเข้าไปแตะหรือสัมผัส ขึ้นเรือ และวัตถุพยานเหล่านั้น ซึ่งเท่าที่ทราบขณะนี้ทางเจ้าที่ตำรวจได้ทำการเคลื่อนย้ายเรือออกไปจากจุดเก็บเรือเดิมแล้ว เพื่อที่จะทำการพิสูจน์วัตถุพยานหลักฐานต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่คุณแม่ของแตงโมไปออกรายการโหนกระแสว่ามีความเห็นอย่างไร ทนายตั้ม กล่าวว่า ส่วนตัวก็รู้สึกตกใจ และส่วนตัวก็มีลูก ซึ่งหากเรื่องนี้เกิดกับลูกตน ตนก็ประเมินค่าลูกไม่ได้อยู่แล้ว และไม่รู้ว่าจะตอบยังไงกับแม่ของน้อง “ก็ขอให้แม่น้องแตงโม เฮงๆ ปังๆ แล้วกันนะครับ”

ในส่วนของคดีถือว่าเป็นอาญาแผ่นดินไม่สามารถที่จะยอมความได้อยู่แล้ว แต่ว่าน้ำหนักเมื่อผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความแล้ว ศาลก็คงจะต้องลงโทษสถานเบาก็คือ รอลงอาญา ซึ่งทุกคดีแพลตฟอร์มจะเป็นแบบนี้ และถ้าหากทางคุณแม่ของน้องแตงโมไปยื่นคำร้องต่อศาลให้ ดูแล้วก็คงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นต่อ

อย่างไรก็ตามถามว่าการชดเชยเยียวยาค่าเสียหายจะเป็นเหตุให้บรรเทาโทษหรือไม่ ส่วนตัวขอบอกเลยว่าเป็นเหตุให้บรรเทาโทษหากคดีถึงศาล เพราะตอนนี้ทายาทโดยชอบธรรมเหลือเพียงแค่สองคนคือ คุณแม่ และพี่ชาย แต่ถ้าในกรณีที่มีการยกฟ้อง ก็แสดงว่าทางกลุ่มของผู้ถูกกล่าวหานั้นสู้คดี แต่ตนเชื่อว่าไม่มีการสู้คดีแน่นอน เพราะถ้าจ่ายตังค์ชดใช้ค่าเสียหาย รับสารภาพก็ปลอดภัยกว่าอยู่แล้ว

ในส่วนของเรื่องเงินประกันที่ว่ามีการยกให้ลูกของคุณกระติก ส่วนนี้เป็นความต้องการหรือเป็นความประสงค์ของทางคุณแตงโมเอง และคนที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขเรื่องนี้ได้ก็คือ คุณแตงโม ไม่ใช่คนอื่น และก่อนที่ลูกของกระติกจะมีสิทธิในเรื่องนี้ด้วย รักคุณแม่ก็ไม่สามารถที่จะไปยกเลิกได้ หรือถ้าหากมีการจะนำเงินประกัน 1 ล้านบาท ที่ทำให้ไว้กับลูก ก็ต้องไปขอคำร้องต่อศาล แต่ก็เป็นไปไม่ได้ เพราะศาลถือว่าไม่ได้เป็นประโยชน์แก่ผู้เยาว์

ทนายตั้ม ทิ้งท้ายว่า เรื่องนี้มีเพียงแค่สองคนที่เป็นผู้เสียหายคือ คุณแม่ และพี่ชาย สมมุติว่าจะให้ดีแก่ทางกลุ่มของผู้ถูกกล่าวหาก็คือต้องให้พี่ชายยอม แต่หากพี่ชายไม่ยอมก็เกิดปัญหาขึ้นมาได้เช่นกัน แต่น้ำหนักในทางคดีก็จะลดลงเพราะแม่ยินยอมไปแล้ว ส่วนทางคุณเบิร์ดแฟนหนุ่ม ในทางกฎหมายไม่ได้มีการจดทะเบียนสมรส ก็จะไม่ได้รับสิทธิในครั้งนี้

หากถามว่าจะฝากอะไรคือคุณแม่บ้าง ทนายตั้ม ย้ำว่า “เฮงๆ ปังๆ มีความสุขนะแม่” พร้อมขออนุญาตคุณแม่ “วันนี้ขอเสือกเรื่องนี้หน่อย ขอมาเป็นพยานหน่อย” และยืนยันว่าในงานศพของคุณแตงโม ตนจะเดินทางไปร่วมงานพร้อมกับเพื่อนทนายความ ไปส่งแตงโมสู่สวรรค์ครั้งสุดท้าย