สำนักข่าววิทยุเอเชียเสรี (อาร์เอฟเอ) รายงานเมื่อวันที่ 12 มี.ค. ว่า นายคูคำ แก้วมะนีวง แกนนำกลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตย ลาวเสรี (Free Laos) ซึ่งมีบัตรสำนักข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) ถูกตำรวจจับกุมบนถนนวิภาวดีรังสิต บริเวณหน้าสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เมื่อช่วงเช้าวันที่ 29 ม.ค. 2565 และศาลแขวงดอนเมือง ในกรุงเทพฯ ตัดสินความผิดเมื่อวันที่ 31 ม.ค. ฐานอยู่อาศัยในประเทศไทย เกินกำหนดที่ได้รับอนุญาต และลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ก่อนจะส่งตัวไปควบคุมไว้ที่ศูนย์กักกัน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สวนพลู เพื่อรอผลักดันกลับไปที่ สปป.ลาว

นายคูคำได้รับการประกันตัว และสุดท้ายได้รับอนุญาตให้เดินทางออกจากประเทศไทย ไปยังแคนาดา เมื่อวันพฤหัสบดี (10 มี.ค.) ที่ผ่านมา ด้วยความช่วยเหลือจากเครือข่ายองค์กรสิทธิมนุษยชน และยูเอ็นเอชซีอาร์ นายคูคำเดินทางถึงเมืองแวนคูเวอร์ เมื่อวันศุกร์ หลังเครื่องบินแวะจอดที่เกาหลีใต้ และผ่านกระบวนการกักตัว ตามมาตรการป้องกันการระบาดของโควิด-19

ก่อนเดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ นายคูคำประกาศจะสู้เพื่อชีวิตต่อไปที่แคนาดา “ชีวิตผมไม่ปลอดภัยที่ประเทศไทย ดังนั้นผมจึงต้องก้าวเดินไปข้างหน้า”

นายคูคำเผยเมื่อเดือนที่แล้วว่า เขายุติกิจกรรมทางการเมืองนานแล้ว ก่อนจะถูกจับกุมในไทย และได้รับการรับรองสถานะผู้ลี้ภัยจากยูเอ็นเอชซีอาร์ เขาต้องการเดินทางไปประเทศที่ 3 แม้ว่าใจจริงอยากอยู่ในประเทศไทยมากกว่า

ทางด้านนายเนติวิทย์ โชติพัฒน์ไพศาล นักเคลื่อนไหวชาวไทย ซึ่งเดินทางไปส่งนายคูคำที่สนามบินสุวรรณภูมิ กล่าวว่า รู้สึกโล่งใจที่เพื่อนของเขาสามารถเดินทางไปแคนาดา เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายคูคำตกอยู่ในสถาะวิกฤติ และเกือบจะถูกส่งตัวกลับไปที่ สปป.ลาว

ทางด้านนายฟิล โรเบิร์ตสัน รองผู้อำนวยการฮิวแมน ไรท์ วอทช์ ประจำภูมิภาคเอเชีย แสดงความดีใจต่อรายงานข่าว นายคูคำเดินทางไปแคนาดา “ผมดีใจที่เขาได้รับอนุญาตให้เดินทางไปแคนาดา แต่ตามจริงแล้ว เขาไม่ควรถูกจับกุมตั้งแต่แรก เพราะไม่ได้ทำผิดอะไร” และ “นายคูคำไม่ใช่คนร้าย เขาเป็นเพียงแค่ผู้ชายคนหนึ่ง ที่ต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน ไม่สมควรถูกจับกุมและคุมขัง”

โรเบิร์ตสัน กล่าวอีกว่า ตอนนี้กลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยชาวลาว ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย แทบไม่กล้านัดรวมตัวกัน เพราะกลัวจะถูกจับกุม และส่งตัวกลับประเทศลาว.

เครดิตภาพ – Netiwit Chotiphatphaisal, Sunai Phasuk, Khoukham Keomanivon