จากกรณี นายพัดยศ ชลภักดี หรือน้องเปรม อายุ 19 ปี นักศึกษาปี 1 ปวส.ช่างกลโรงงาน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน นครราชสีมา ถูกรุ่นพี่รับน้องโหดชกที่หน้าอกและลิ้นปี่จนเสียชีวิต เหตุเกิดที่ไร่อ้อยพื้นที่โล่ง บ้านโคกมะกอก หมู่ 14 ต.หนองระเวียง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ห่างจากมหาวิทยาลัยฯ 20 กิโลเมตร เมื่อคืนวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งตำรวจดำเนินคดีรุ่นพี่ 7 ราย ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และข้อหาผิด พ.ร.บ.โรคติดต่อ รวมถึงรุ่นพี่ทั้งหมดรวม 25 คน ถูกแจ้งข้อหาทำให้ขายหน้าต่อธารกำนัล กรณีสั่งให้นักศึกษารุ่นน้องผู้ชาย ถอดเสื้อผ้าเปลือยกายล่อนจ้อนขณะทำกิจกรรมรับน้อง ตามที่ได้เสนอไปแล้วนั้น

ไม่ใช่แค่5!เพื่อน ‘น้องเปรม’ แฉเหยื่อถูก30รุ่นพี่โหด ต่อยอกทีละคน

ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 มี.ค. ที่ สภ.มะเริง อ.เมือง จ.นครราชสีมา กลุ่มผู้ปกครองนักศึกษารุ่นพี่ปี 2 ทั้ง 7 คน เดินทางมาเจรจากับผู้บริหารมหาวิทยาลัยฯ และนายเอกชัย ชลภักดี พ่อของน้องเปรม เพื่อหาข้อตกลงเรื่องเงินเยียวยาช่วยเหลือตามความเหมาะสม ทันทีที่กลุ่มผู้ปกครองรุ่นพี่ 7 คน ได้เจอหน้านายเอกชัย ต่างพากันเดินไปยกมือไหว้และจับมือแสดงความขอโทษอย่างสุดซึ้ง ที่ลูกๆ มีส่วนทำให้น้องเปรมเสียชีวิต บางคนถึงกับหลั่งน้ำตาร้องไห้ด้วยความเสียใจ และเข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อแม่ต้องมาสูญเสียลูกชายที่เป็นความหวังของครอบครัว โดยพ่อของน้องเปรม มีท่าทีเห็นอกเห็นใจ ยอมรับ และให้อภัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ด้านนายเอกชัย พ่อของน้องเปรม กล่าวว่า ถึงตอนนี้ก็ยังทำใจไม่ได้ นอนไม่หลับ คิดถึงหน้าลูกชายตลอดเวลา ผลการผ่าชันสูตรเบื้องต้นพบว่าถูกแรงกระแทกที่หน้าอก แต่ยังไม่ขอรับศพกลับบ้านที่ จ.นครศรีธรรมราช รอให้จบคดีเสียก่อน ไม่ต้องเสียเวลาไปมา เพราะระยะทางไกล ส่วนข้อเรียกร้องเงินเยียวยาก็ขอให้เป็นไปตามกระบวนการ

ขณะที่ นายไพศาล จ้อจันทึก พ่อของนักศึกษารุ่นพี่ 1 ใน 7 คนที่ถูกดำเนินคดี กล่าวว่า ยินดีให้การช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวของน้องเปรม เพื่อแสดงความรับผิดชอบ เพราะเข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ด้วยกัน รู้สึกเสียใจกับความสูญเสีย ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ถือเป็นบทเรียนราคาแพง ตอนนี้ลูกชายและรุ่นพี่คนอื่น ๆ ที่ตกเป็นผู้ต้องหายังอยู่ในอาการเครียด กังวล กินไม่ได้นอนไม่หลับ เป็นห่วงสภาพจิตใจและเป็นห่วงอนาคตลูกจะเป็นอย่างไร

“หลังจากนี้ทางกลุ่มนักศึกษารุ่นพี่ ตกลงกันว่าจะบวชอุทิศส่วนกุศลให้น้องเปรม ทั้งนี้ อยากวิงวอนทางมหาวิทยาลัยฯ เมตตาและเห็นใจบุตรหลาน เพราะเด็กทำไปโดยพลการ ไม่ได้ตั้งใจ ขอให้มีบทลงโทษตามความเหมาะสม” นายไพศาล กล่าว.