ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สวนอินทรีย์เกษตรแว่น ต.บึงบูรพ์ อ.บึงบูรพ์ จ.ศรีสะเกษ นายวิชัย ศรีโพธิ์งาม เกษตรจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายอิทธิพล สุยะลา นอภ.บึงบูรพ์ นายศราวุธ ทรงโฉม นอภ.อุทุมพรพิสัย นายสว่าง กาลพัฒน์ อดีตเกษตรจังหวัดศรีสะเกษ นายแว่น พรหมคุณ เกษตรอำเภออุทุมพรพิสัย นายมหินธร เทพิน เกษตรอำเภอศิลาลาด นายวิเชียร ไชยสงคราม เกษตรกรเจ้าของสวน และผู้เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เยี่ยมชมแปลงเกษตรผลการส่งเสริมการปลูกพืชฤดูแล้ง ชนิด แตงโม ทางเลือกใหม่หลังฤดูทำนา ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้เป็นอย่างมาก

นายวิชัย กล่าวว่า ผลจากการส่งเสริมการปลูกพืชฤดูแล้ง ของสวนแตงโมเกษตรอินทรีย์แว่น หลังการทำนาในปีนี้ พบว่า ได้มีการปลูกแตงโม 4 สายพันธุ์ ในพื้นที่แปลงนาทั้งหมด 12 ไร่ โดยเฉพาะพันธุ์เมญ่า หรือแตงโมตอปิโด ทั้งเนื้อแดง เนื้อเหลือง เนื้อแน่น รสหวาน มีกลิ่นหอม ให้ผลผลิตประมาณ 5-6 ตันต่อไร่ ในช่วงนี้ราคารับซื้ออยู่ที่ 12,000-15,000 บาทต่อตัน โดยมีตลาดชัดเจนมีพ่อค้าคนกลางรับซื้อถึงสวนในราคาที่เป็นธรรม เพื่อคัดขนาดส่งไปขายที่ตลาดไท ดังนั้นการปลูกแตงโมหลังฤดูทำนา จึงเป็นทางเลือกใหม่ของเกษตรกร เพราะนอกจากจะใช้น้ำน้อยแล้ว ยังเป็นพืชที่ใช้ระยะเวลาปลูกสั้นและให้ผลผลิตเร็ว อายุพืชแตงโมที่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ เพียง 60 วัน ได้รับผลตอบแทนดีกว่าปลูกพืชชนิดอื่นๆ

ทั้งนี้ จ.ศรีสะเกษ มีพื้นที่ปลูกพืชฤดูแล้งทั้งหมดอยู่ที่ 107,271 ไร่ ในห้วงที่ปริมาณน้ำสำหรับการเพาะปลูกมีจำกัด จึงได้ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพืชใช้น้ำน้อยแทนการปลูกข้าวนาปรัง เช่น การปลูกแตงโม ที่ใช้น้ำในการเพาะปลูกเพียง 600-650 ลบ.ม.ต่อไร่ เมื่อเทียบกับปริมาณน้ำที่ใช้ในการเพาะปลูกข้าวที่ 1,000-1,500 ลบ.ม.ต่อไร่ อีกทั้งยังสร้างรายได้ดีกว่าการปลูกข้าวนาปรัง เป็นทางเลือกที่ดีของเกษตรกรอีกช่องทาง