สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงแคนเบอร์รา ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 25 มี.ค. ว่า จากกรณีรัฐบาลของหมู่เกาะโซโลมอนยืนยันกระแสข่าวที่มีออกมาก่อนหน้านี้ว่า กำลังสถาปนาการเป็นหุ้นส่วนด้านความมั่นคงกับจีน เพื่อสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมด้านการลงทุนที่ปลอดภัย สำหรับภาคธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ถือเป็นการยกระดับความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศ นอกเหนือจากประเด็นทางการเมืองนั้น


นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ผู้นำออสเตรเลีย กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่าออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ถือเป็น “ครอบครัวแปซิฟิก” โดยหนึ่งในพันธกิจสำคัญ คืการมอบความสนับสนุนด้านความมั่นคง และการตอบสนองต่อภยันตรายที่เกิดขึ้นกับทุกประเทศร่วมภูมิภาคแห่งนี้ ดังนั้น การที่ประเทศซึ่งอยู่นอกภูมิภาคพยายามเข้ามาแสดงอิทธิพลในบริเวณนี้ “จึงเป็นเรื่องที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด”


ด้าน นางนาไนอา มาฮูตา รมว.การต่างประเทศของนิวซีแลนด์ เรียกร้องกลุ่มประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกร่วมกัน “แสดงความโปร่งใส” เมื่อมีการจัดทำข้อตกลงลักษณะนี้กับประเทศนอกภูมิภาค แม้เป็นสิทธิและความชอบธรรมของทุกประเทศ ในการที่จะยกระดับความร่วมมือกับประเทศใด อย่างไรก็ตาม นิวซีแลนด์มองว่า “ข้อตกลงบางประการ” อาจมีผลกระทบต่อสถาบันและความร่วมมือ ซึ่งเป็นรากฐานความมั่นคงในภูมิภาคแปซิฟิกมายาวนาน


ทั้งนี้ ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์มีข้อตกลงด้านความมั่นคงกับหมู่เกาะโซโลมอน และร่วมประจำการเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงที่กรุงโฮนีอารา เมืองหลวงของหมู่เกาะโซโลมอน นับตั้งแต่เกิดการจลาจล เมื่อเดือน พ.ย. 2564 หรือ 2 ปี หลังนายกรัฐมนตรีมานัสเซห์ โซกาวาเร ผู้นำหมู่เกาะโซโลมอน ประกาศยุติความสัมพันธ์กับไต้หวัน เพื่อไปสถาปนาความร่วมมืออย่างเป็นทางการ กับรัฐบาลปักกิ่ง.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES