สื่อท้องถิ่นในมณฑลเหอหนาน ประเทศจีน รายงานว่า เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่หญิงสาวชาวจีน ซึ่งเปิดเผยเพียงชื่อสกุลว่า ‘หวัง’ กำลังรับประทานมื้อดึกกับเพื่อน ๆ ในร้านหม้อไฟแห่งหนึ่งในเมืองเจิ้งโจว ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ที่ทำให้เธอต้องติดอยู่ในร้านแบบข้ามคืน

ก่อนเกิดเหตุ เพื่อน ๆ ของหวังล้วนกลับไปก่อนเธอเพียงเล็กน้อย แต่เมื่อเธอกำลังจะลุกจากโต๊ะ เธอกลับได้รับแจ้งว่า ทางร้านโดนสั่งล็อกดาวน์แบบกะทันหัน เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในร้าน

หวังให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ถ้าเพียงแต่เธอออกจากร้านเร็วกว่านั้นไม่กี่นาที เธอก็คงได้กลับบ้านไปแล้ว พร้อมกับเสริมว่า มีลูกค้าคนอื่น ๆ อีกราว 30 คน ที่ต้องติดอยู่ในร้านเหมือนเธอ แต่ถึงอย่างนั้น การโดนกักตัวครั้งนี้ก็ไม่ใช่ประสบการณ์ที่เลวร้ายเท่าไหร่

หวังเล่าว่าหลังจากโดนกักตัว ทางร้านก็ยกอาหารมาเสิร์ฟลูกค้าอย่างต่อเนื่อง พวกเขายังมาเสิร์ฟบะหมี่ให้ตอนตีสาม และตอนเช้าก็มีอาหารจานผัดต่าง ๆ มาเสิร์ฟ ลูกค้ายังสามารถสั่งชุดเนื้อสัตว์ต่าง ๆ สำหรับรับประทานกับหม้อไฟได้ด้วย ซึ่งหวังได้สั่งชุดปลาหมึก เนื้อและอาหารเส้น โดยเล่าว่าเธอนั้น “กินเสียจนขยับตัวไม่ไหว”

เรื่องเล่าจากประสบการณ์ของหวังกลายเป็นไวรัลบนเว่ยปั๋ว ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียวยอดนิยมของจีน โดยหัวข้อ ‘สาวโดนกักตัวในร้านหม้อไฟเพราะกลับช้าไปนาทีเดียว’ ของเธอมีผู้เข้าชมมากกว่า 420 ล้านครั้ง 

หวังได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้ในวันถัดมา แต่เจ้าหน้าที่ทางการได้แนะนำให้เธอแยกกักตัวอยู่ในบ้านอีกอย่างน้อย 13 วัน

การสั่งปิดสถานที่อย่างกะทันหันไม่ใช่เรื่องแปลกในจีน เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เคยมีการสั่งล็อกดาวน์อาคารสำนักงานในกรุงปักกิ่งมาแล้ว หลังจากตรวจพบว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่นั่น โดยคนในอาคารได้รับแจกเครื่องนอนจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หลังจากโดนบังคับให้ค้างคืนในสำนักงาน 

เหตุการณ์เช่นเดียวกันเกิดขึ้นในเซี่ยงไฮ้ในเดือนนี้ เมื่อมีการตรวจพบพนักงานติดเชื้อโควิด-19 ในอาคารเซี่ยงไฮ้ทาวเวอร์ ซึ่งเป็นอาคารที่สูงที่สุดอันดับสองของโลก มีการสั่งปิดอาคารอย่างปัจจุบันทันด่วน และพนักงานก็จำต้องค้างคืนในอาคารเช่นกัน

แหล่งข่าว : Insider.com

เครดิตภาพ : Getty Images