การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา ได้เปลี่ยนวีถีชีวิตของคนไปอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะการทำงานของคนเถือบทุกสาขาอาชีพ!?!

เมื่อเทรนด์การ “ทำงานจากที่บ้าน” หรือ “เวิร์ก ฟรอม โฮม” และ “การทำงานจากทุกที่” หรือ “เวิร์ก ฟรอม เอนี่แวร์” ได้เข้ามาเปลี่ยน วีถีการทำงานขององค์กรธุรกิจ ทำให้คนทำงานต้องปรับตัวและเรียนรู้จากสถานการณ์ในครั้งนี้!

พร้อมทั้งการทำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้การทำงานยังคงเดินหน้าต่อไปได้ไม่สะดุด!!

ขณะเดียวกันก็ต้องมุ่งยกระดับทักษะของตนเอง ผ่านการเรียนรู้จากหลักสูตรอบรมต่างๆ เพื่อให้ก้าวทันเทคโนโลยี และช่วยให้องค์กรสามารถแข่งขันใน “สมรภูมิธุรกิจ” มีความก้าวหน้าเหนือกว่าคู่แข่งได้

สถาบันเอ็ดเต้ บาย เอ็ตด้า ภายใต้การดำเนินงานของ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (เอ็ตด้า) ที่ถือเป็นแหล่งรวมความรู้เพื่อ “คนดิจิทัล” ที่จะเข้ามาช่วย “ปลดล็อก” ทุกข้อจำกัดขององค์กรธุรกิจ และคนทำงาน ให้พร้อมรองรับโลกในยุค “วีถียุคใหม่” หรือ “นิวนอร์มัล” ก็ได้แนะนำ 4 หลักสูตรดิจิทัล แห่งปี 2022 กับเนื้อหาหลักสูตร ที่จะทำให้เราไม่ตกเทรนด์ในโลกดิจิทัล!!

เริ่มที่หลักสูตรแรก “Electronic Signature” หรือ “ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์”  ที่ถือเรื่องสำคัญขั้นพื้นฐาน ของงานเอกสาร ที่ทุกองค์กรจะต้องไม่มองข้าม โดยหลักสูตรนี้ จะช่วยทำให้ผู้เรียนได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะความสำคัญของการใช้งานและการมีอยู่ของลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ ที่เปรียบเสมือนองค์ประกอบพื้นฐานที่ทุกองค์กร ทุกธุรกิจ ในยุคนี้จะ “ต้องมี ต้องใช้” เพื่อให้การรับ-ส่งเอกสาร รวมถึงการทำธุรกรรมทางออนไลน์ เพื่อความสะดวก รวดเร็ว น่าเชื่อถือ เป็นที่ยอมรับ

โดยเนื้อหาในหลักสูตรยังเน้นให้ผู้เรียนได้เข้าใจเกี่ยวกับกฎหมาย มาตรฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การใช้รูปแบบ ลายมือชื่อมีความถูกต้องตามที่กฎหมายรองรับ พร้อมแนะนำเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ที่จะทำให้การใช้ลายมือชื่อ อิเล็กทรอนิกส์ในองค์กรธุรกิจเกิดขึ้นได้จริง

มาต่อด้วยหลักสูตร “Digital ID” หรือ การพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล ที่จะช่วยเสริมสร้าง ความมั่นใจทุกการทำธุรกรรมออนไลน์ ให้กับองค์กรธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกรรมทางการเงิน สัญญาซื้อ-ขาย หรืออื่นๆ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกสบาย ให้กับคนทำงานเป็นอย่างมากท่ามกลางสถานการณ์ ที่ทุกคนต้องทำงานที่บ้านเช่นนี้

อย่างไรก็ตามอีกมุมหนึ่งการทำธุรกรรมออนไลน์เหล่านี้ ก็มาพร้อมกับ “ความเสี่ยงไม่น้อย” หากองค์กร ไม่สามารถรู้ได้ว่า อีกฝ่ายที่เราติดต่อทำธุรกรรมด้วยเป็นใคร และใช่คนนั้นจริงๆ หรือไม่??

ซึ่งปัจจุบันมีหลายหน่วยงานที่ประยุกต์ใช้ Digital ID ในหน่วยงานแล้ว อาทิ เทคโนโลยีที่ใช้ยืนยันและ พิสูจน์ตัวตนบุคคล (Biometrics) เช่น การใช้การสแกนลายนิ้วมือ เพื่อพิสุูจน์และยืนยันตัวพนักงานในการเข้างาน หรือทำธุรกรรมที่สำคัญ เป็นต้น

โดยหลักสูตร Digital ID จะเป็นกุญแจสำคัญที่จะมา “ปลดล็อกข้อจำกัด” และช่วยปูพื้นฐานความรู้ เกี่ยวกับ Digital ID ว่าคืออะไร เกี่ยวข้องกับการทำงานด้วยระบบดิจิทัลได้อย่างไร ครอบคลุมทุกมิติ ทั้ง กฎหมาย มาตรฐาน ที่มีอยู่แล้ว และกำลังจะมีในอนาคต พร้อมแนะแนวทางกลยุทธ์ รวมถึงเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องที่องค์กร จะต้องมีเมื่ออยากใช้งาน Digital ID

ส่วนอีกหนึ่งหลักสตรู คือ “Digital Transformation” ที่จะช่วยทำให้ผู้เรียนได้เข้าใจถึงการทำงานในรูปแบบ “ดิจิทัลวิถีใหม่” ที่องค์กรธุรกิงต้องมี ผ่านเนื้อหาที่จะพาไปเรียนรู้ การปรับองค์กรให้อยู่ในรูปแบบ Digital Workplace หรือ การทำงานรูปแบบที่มีการนำเครื่องมือดิจิทัลมาใช้งานเพื่อลดข้อจำกัดบางอย่าง และแนะนำผู้เรียนให้รู้จักกฏหมายที่เกี่ยวข้อง ที่รองรับการปรับเปลี่ยนองค์กรให้ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลในมิติต่างๆ

เรียนรู้มาตรฐานที่ช่วยสนับสนุนรูปแบบการทำงานยุคใหม่ โดยเฉพาะมาตรฐานที่รองรับการใช้ งานเอกสาร อิเล็กทรอนิกส์ ที่เพิ่มความสะดวก และยังลดต้นทุนในการทำงานแบบระยะยาวด้วย นอกจากนี้ยังมีการอัปเดต เทคโนโลยีใหม่ที่ “จำเป็นจะต้องมี” เพื่อเตรียมความพร้อมให้องค์กร เป็น Smart Digital Organization ตามมาตรฐาน และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และที่สำคัญยังได้ฝึกปฏิบัติเรียนรู้เครื่องมือสำหรับการวิเคราะห์สาเหตุของการโจมตีทางไซเบอร์ ที่เรียกว่ามีความรุนแรง และความถี่เพิ่มมาขึ้นในปัจจุบันด้วย!!

และสุดท้าย คือ หลักสูตร Digital Security ที่จะช่วยให้องค์กรธุรกิจเตรียมความพร้อมให้ระบบหลังบ้าน มีความมั่นคงปลอดภัยจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ในรูปแบบต่างๆ เพราะ การที่เราทำทุกอย่างให้เป็นออนไลน์ และเป็นอิเล็กทรอนิกส์ ย่อมมีความเสี่ยงที่จะถูก “ผู้ไม่หวังดี” หรือ “แฮกเกอร์” โจมตีระบบหลังบ้านขององค์กรได้มากขึ้น

หลักสูตร Digital Security จะทำให้เรามีความรู้ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ รู้วิธีป้องกัน รับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์อย่างรอบด้าน ซึ่งเป็นหลักสูตรที่เหมาะกับทีมเทคนิคหรือไอทีขององค์กร หรือแม้แต่ทีมทำงานที่มีความสนใจต้องการเพิ่มความรู้ในด้านไซเบอร์ โดยนอกจากจะช่วย ให้รู้จักภัยคุกคาม ทางไซเบอร์ประเภทต่างๆแล้ว ยังอัปเดตกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และวิธีในการเตรียมพร้อมรับมือ ป้องกันภัย เพื่อลดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น และเมื่อเกิดการโจมตีขึ้น จะสามารถรับมือได้อย่างทันท่วงที!?!

นอกจากนี้ยังมีกรณีตัวอย่างไว้ศึกษา เช่น วิธีการติดตามสถานการณ์ภัยคุกคามทางโลกออนไลน์ที่เกิดขึ้น เพื่อให้รู้วิธีจัดการภัยอย่างมีประสิทธิภาพจากบุคลากรที่เชี่ยวชาญของเอ็ตด้า สามารถนำไปปรับใช้กับ นโยบายขององค์กรหรือธุรกิจได้

ทั้งหมดเป็นหลักสูตรด้านดิจิทัลที่ องค์กรยุคใหม่ รวมถึง บุคลากรคนทำงานจะต้องรู้  ซึ่งทางองค์กรธุรกิจ หรือผู้ที่สนใจอยากเพิ่มทักษะดิจิทัลสามารถติดต่อสถาบันเอ็ดเต้ได้ เพื่อให้มีความพร้อมกับโลกเทคโนโลยี ที่มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในทุกๆวัน

หากองค์กรและคนทำงานอย่างเราๆ สามารถปรับตัวและเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว นั่นหมายถึง “โอกาส” และ “ความได้เปรียบ” บนสนามการทำงาน และสมรภูมิธุรกิจ ที่มีการแข่งขันอย่างรุนแรงได้!?!

จิราวัฒน์ จารุพันธ์

ภาพ : pixabay.com