เมื่อวันที่ 5 เม.ย. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. พ.ต.อ.ธีระชัย ชำนาญหมอ รอง ผบก.สส. พ.ต.อ.กฤศณัฏฐ์ ธนศุภณัฏฐ์ ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. ร่วมแถลงผลจับกุม นายสิทธิพงศ์ งามฤทธิ อายุ 38 ปี นายอริย์ธัช ชูก้าน อายุ 36 ปี และน.ส.ธันยพร พรชนันกุล อายุ 38 ปี พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้า 700,000 เม็ด รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 1ขศ 9554 กรุงเทพมหานคร รถยนต์ฮอนด้า ซีวิค สีดำ ทะเบียน ศฎ 2666 กรุงเทพมหานคร และโทรศัพท์ จำนวน 8 เครื่อง โดยจับกุมได้ ภายในลานจอดรถปั๊มนํ้ามันแห่งหนึ่ง ต.เกาะหลัก ถ.เพชรเกษม อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์

พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.บช.น. ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ มีผู้ต้องหา 2 ราย ที่ บริเวณกลางซอยลาดพร้าว 87 แยก 8 แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ ของกลางยาบ้า จำนวน 1.6 ล้านเม็ด จึงได้สืบสวนขยายผลเรื่อยมาจนทราบว่ามีกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดลงสู่ภาคใต้ โดยใช้รถยนต์หลายคัน ซึ่งพักอาศัยอยู่ย่านถนนพระราม 2 โดยมี นายสิทธิพงศ์ เป็นหัวหน้าทีมลำลียง โดยกลุ่มนี้มีพฤติการณ์ไปรับยาเสพติดย่านชานเมือง และลำเลียงส่งให้กับลูกค้าทางภาคใต้ และมักใช้ช่วงเวลาเช้ามืดในการออกเดินทาง

พล.ต.ท.สำราญ กล่าวอีกว่า จนกระทั่งเมื่อ เวลา 04.00 น. วันที่ 4 เม.ย. ตำรวจสืบทราบว่ารถยนต์ของกลุ่มดังกล่าวเดินทางออกจากซอยพระราม 2 ซอย 3 มุ่งหน้าถนนพระราม 2 ขาออก ซึ่งเชื่อว่าน่าจะไปส่งยาเสพติดให้กับลูกค้า ซึ่งกลุ่มดังกล่าวจะทำเช่นนี้เป็นประจำ จึงนำกำลังออกติดตาม จนกระทั่งใกล้ถึงด่านตรวจสามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ รถยนต์ของกลุ่มดังกล่าวได้หลบใช้เส้นทางรอง เพื่อเลี่ยงด่านตรวจ เจ้าหน้าที่จึงเชื่อว่าในรถยนต์น่าจะมียาเสพติด ก่อนที่เวลา 08.30 น. รถยนต์ของกลุ่มดังกล่าวไปจอดที่สถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่ง ต.เกาะหลัก จึงแสดงตัวเพื่อทำการตรวจค้น และได้ค้นพบยาเสพติดดังกล่าว

พล.ต.ท.สำราญ กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติ นายสิทธิพงศ์ มีประวัติเคยต้องโทษ คดียาเสพติด ในข้อหา ครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย พื้นที่ สน.ราษฎร์บูรณะ จำคุก 4 ปี พ้นโทษเมื่อปี 2554 ส่วน นายอริย์ธัช มีประวัติต้องโทษคดีพรากผู้เยาว์ พื้นที่ สน.ราษฎร์บูรณะ จำคุก 4 ปี พ้นโทษเมื่อปี 2556 และ น.ส.ธันยพร เคยมีประวัติต้องหาคดียาเสพติดให้โทษประเภท 5 จังหวัดสุราษฎ์ธานี

พล.ต.ต.นิธิธร เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นการขยายผลจากการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ก่อนหน้านี้ และใช้พื้นที่ของ บก.น.4 ในการพักยาเสพติดโดยหลังจากนี้จะบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่กวาดล้างต่อไป สำหรับคดีนี้ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจค้นยาเสพติดพบของกลางจำนวนมากแล้ว ยังได้ทำการตรวจค้นบ้านพักย่านพระราม 2 พบว่ามีเงินสดอีก 1 ล้านบาท และสมุดบัญชีธนาคาร 16 บัญชี ซึ่งกลุ่มดังกล่าวได้มีการค้ายาเสพติดมาตั้งแต่ปี 2562 และจะลำเลียงลงสู่ภาคใต้ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช หลังจากนี้จะตรวจสอบเส้นทางการเงิน พร้อมขยายผลเพิ่มเติมหาตัวผู้ร่วมขบวนการต่อไป

เบื้องต้น นายสิทธิพงศ์ และ นายอริธัชย์ ให้การรับสารภาพ ส่วน น.ส.ธันยพร ให้การปฏิเสธ อย่างไรก็ตามตำรวจแจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย ” ก่อนคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.