เมื่อวันที่ 25 เม.ย. มีผู้ใช้เฟซบุ๊กของนักดำรายหนึ่งที่เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ได้โพสต์ภาพฉลามวาฬ พร้อมข้อความระบุว่า “อีกวันกับเพื่อนตัวโต พร้อมคลิปภาพฉลามวาฬขนาดใหญ่ ว่ายวนเวียนไปมา เล่นกับนักท่องเที่ยว อย่างเป็นมิตร” ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าวคือ นายจิรศักดิ์ พุทธวรรณ เป็น ผจก.สถานประกอบการ ดำน้ำ ไอส์แลนด์ไดฟ์เวอร์ เกาะพีพี บ.ชาวเกาะบริการ ที่เป็นเจ้าของคลิป เล่าว่า เมื่อ วานนี้ 24 เม.ย. ขณะที่ตนนำนักท่องเที่ยวลงไปดำน้ำบริเวณเกาะบิดะนอกพื้นที่เกาะพีพี ชมความงามของแหล่งปะการังใต้น้ำ

ตอนที่กำลังจอดเรือและให้นักท่องเที่ยวได้ลงเล่นน้ำ ได้มีฉลามวาฬ ตัวขนาดใหญ่ ว่ายเข้ามาหาตรงจุดที่นักท่องเที่ยวเล่นน้ำ และว่ายเล่นบริเวณผิวน้ำด้วยความคุ้นเคยและเป็นมิตร สร้างความตื่นเต้นดีใจ แก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เมื่อได้เจอกับฉลามวาฬขนาดใหญ่ ความยาวประมาณ 7-10 เมตร ว่ายเข้ามาใกล้อย่างเป็นมิตร และมีความคุ้นเคย ไม่มีท่าทีจะทำร้าย เข้ามาว่ายเล่นอวดโฉมให้กับนักท่องเที่ยว ตนจึงได้ลงไปถ่ายภาพเป็นที่ระลึก

นายจิรศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาหลายปีเจอพิษโควิดทำให้นักท่องเที่ยวไม่มาเที่ยวเกาะพีพี ส่งผลให้สภาพระบบนิเวศในหมู่เกาะต่างๆ ของเกาะพีพี ได้พักฟื้นตัวกลับมามีความสมบูรณ์อีกครั้ง ทำให้มีสัตว์น้ำต่างๆ แพร่พันธุ์และเข้ามาอาศัยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะสัตว์ทะเลหายากอย่างฉลามวาฬ ตอนนี้พบบ่อยมาก เมื่อ 5 วันที่ผ่านก็เจอ ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นตัวกันหรือไม่ ตอนนี้ใต้ทะเลเกาะพีพีมีความสวยงามมากขึ้น นอกจากนี้ยังพบชนิดอื่นๆ อีกจำนวนมาก ซึ่งนอกจากเกาะบิดะนอก พีพีเล ที่พบฉลามวาฬ ก็ยังพบในจุดที่มีการจมเรือเกร็ดแก้ว ทำปะการังเทียมด้วย คาดว่าบริเวณดังกล่าวมีอาหารของฉลามวาฬอยู่อย่างสมบูรณ์ จึงพบเห็นฉลามวาฬได้บ่อยครั้งในช่วงนี้

นายฑีฆาวุฒิ ศรีบุรินทร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการพบเห็นฉลามวาฬเข้ามาหากินในพื้นที่บ่อยครั้ง เนื่องจากในระยะนี้ซึ่งเป็นช่วงเปลี่ยนฤดูจากฤดูร้อนเข้าสู่หน้ามรสุม ทำให้แพลงตอนที่เป็นอาหารของฉลามวาฬมีอยู่เป็นจำนวนมาก และที่ผ่านมา จำนวนเรือนำเที่ยวนักท่องเที่ยวลดลงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมระบบนิเวศใต้ทะเลๆ มีการฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์

แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและฉลามวาฬ เมื่อพบเห็นฉลามวาฬ ห้ามแตะจับสัมผัสตัวฉลามวาฬ เพราะอาจทำให้ฉลามวาฬกลัว จนทำอันตรายกับนักดำน้ำ ควรรักษาระยะห่างจากฉลามวาฬประมาณ 3-4 เมตร โดยเฉพาะบริเวณหาง เพื่อป้องกันการถูกฟาดโดยไม่ตั้งใจ สำหรับนักถ่ายภาพใต้น้ำห้ามใช้แฟลชในการถ่ายภาพเป็นอันขาด เนื่องจากฉลามวาฬเป็นสัตว์ที่ไวต่อแสงมาก ห้ามโยนสิ่งของลงไปในน้ำ เพราะฉลามวาฬจะกลืนทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ใกล้ๆ เข้าไป งดการตีน้ำแรงๆ หรือกระโดดลงน้ำ ใช้ความเร็วเรือไม่เกิน 2 นอต และไม่ควรนำเรือเข้าใกล้ฉลามวาฬน้อยกว่า 20 เมตร