เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (27 ก.ค.) คนงานรับจ้างตัดกิ่งไม้พาดสายไฟฟ้าพื้นที่ บ้านคลองสน หมู่ 3 ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราด พบโครงกระดูกมนุษย์ถูกซากรถ จยย.ทับอยู่ริมถนนลงจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง บ้านคลองสน จึงแจ้ง นายนิตย์ชัย พันธุเดช เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง เพื่อประสาน พ.ต.ท.บรรเจิด กระจ่างแสง รอง ผกก.สภ.เกาะช้าง รุดตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นถนนโค้งลงเนินเขา พบซากรถจักยานยนต์ หมวกกันน็อก และโครงกระดูกมนุษย์ถูกรถ จยย.ล้มทับอยู่ สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมานานนับปี จากการตรวจสอบซากรถ จยย.เป็นรถยามาฮ่า สปาร์ค สีเทา-ฟ้า ทะเบียน กจน 748 ตราด สภาพเก่าสีซีดจาง และยังพบกระเป๋าภายในมีบัตรประจำตัวประชาชนและบัตรประจำตัวคนพิการ ระบุชื่อ นายชอบ จำปาทอง อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ 10 ต.บะ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบุญฯ เกาะช้าง นำไปโพสต์เฟซบุ๊กตามหาญาติ ก่อนนำโครงกระดูกส่งชันสูตร

ผู้สื่อข่าวเดินทาไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 5 บ้านปรีง ต.บะ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ตามบัตรประจำตัวประชาชนผู้เสียชีวิต เป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ พบชาวบ้าน 4-5 คน กำลังนั่งล้อมวงสนธนาเรื่อง นายชอบ หลังทราบข่าวจากทางสื่อโซเชียลว่า นายชอบ ขี่รถ จยย.ตกถนนเสียชีวิตมาดังกล่าว โดย นางจิราพร จำปาทอง พี่สาวผู้เสียชีวิต เล่าว่า ทราบข่าวเมื่อสักครู่นี้จากสื่อโซเชียล จึงได้โทรศัพท์ติดต่อกลับไปหาเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่แจ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ คุยประสานรายละเอียดต่างๆ ทราบว่า เป็นน้องชายตนจริงที่หายสาบสูญติดต่อไม่ได้มานาน 1 ปีเศษแล้ว ซึ่งตน กับผู้ตาย มีพี่น้องร่วม บิดา-มารดา 8 คน ผู้เสียชีวิตเป็นน้องคนสุดท้อง ส่วนพี่น้องทุกคนต่างแยกย้ายไปมีครอบครัวหมด

นางจิราพร เล่าอีกว่า ผู้เสียชีวิตเดินทางไปทำงานอยู่ที่ เกาะช้าง จ.ตราด ตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่นและมีครอบครัวอยู่ที่นั่น โดยจะพาภรรยากลับมาเยี่ยมบ้านที่ จ.สุรินทร์ อยู่เป็นประจำ ซึ่งตนติดต่อกันเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อประมาณ 1 ปีเศษก่อนหายตัวไปหลังภรรยาผู้เสียชีวิต ป่วยหนักต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลใน จ.ตราด แล้วผู้เสียชีวิต ออกไปธุระ และไปเยี่ยมภรรยาที่โรงพยาบาล โดยได้ยืมรถ จยย.คันดังกล่าวของเพื่อนบ้านไป จากนั้นก็ไม่มีใครพบเห็น หรือติดต่อได้อีกเลย สุดท้ายภรรยาก็เสียชีวิต ตนสอบถามไปญาติฝ่ายภรรยาก็ไม่มีใครทราบเลย จึงให้ลูกหลานเอารูปภาพไปโพสต์ตามหาในเฟซบุ๊กก็เงียบหาย ก็ได้แต่หวังว่ายังคงทำงานอยู่แถวนั้นสักวันคงกลับมา

นางจิราพร เล่าว่า กระทั่งวันนี้หลังเห็นภาพโพสต์ตามหาญาติก็ทำอะไรไม่ถูก แขนขาอ่อนไปหมด ไม่คิดว่าน้องจะมาตกอยู่ในสภาพอย่างนี้ ซึ่งดูจากสภาพถนนแล้วเชื่อว่าน้องชายน่าจะเกิดอุบัติเหตุเองไม่ใช่ฆาตกรรมแน่ จึงไม่ติดใจการเสียชีวิต อยู่ระหว่างติดต่อโรงพยาบาลที่ จ.ตราด เพื่อสอบถามว่าสามารถเก็บกระดูกไว้ก่อนได้หรือไม่ เพราะช่วงนี้สถานการณ์โรคระบาดโควิดรุนแรง หากดีขึ้นจะไปรับกระดูกกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป