เมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติอนุมัติหลักการจ่ายเงินช่วยเหลือพิเศษแก่ผู้สูงอายุที่ได้รับสิทธิสวัสดิการเบี้ยยังชีพในปีงบประมาณ 2565 เฉลี่ยรายละ 100-200 บาท ตามช่วงอายุ จำนวน 10,896,444 ล้านคน วงเงินรวม 8,348.16 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่เดือน เม.ย.-ก.ย.2565 ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ เพื่อบรรเทาผลกระทบด้านเศรษฐกิจในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากมีผู้สูงอายุที่ได้รับผลกระทบทางรายได้คิดเป็นร้อยละ 50.7 ของจำนวนผู้สูงอายุทั้งหมด และรายได้ของผู้สูงอายุที่มาจากการทำงานมีสัดส่วนลดลงจากร้อยละ 40 เหลือเพียงร้อยละ 22 (ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ)

รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวอีกว่า การจ่ายเงินช่วยเหลือพิเศษแก่ผู้สูงอายุในครั้งนี้ จะจ่ายเพิ่มจากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเป็นรายเดือนตามช่วงอายุ เป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่เดือน เม.ย.-ก.ย.2565 ดังนี้

(1) อายุ 60-69 ปี รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 600 บาทต่อเดือน รับเงินช่วยเหลือพิเศษเพิ่ม 100 บาทต่อเดือน รวมเป็น 700 บาทต่อเดือน

(2)อายุ 70-79 ปี รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 700 บาทต่อเดือน รับเงินช่วยเหลือพิเศษเพิ่ม 150 บาทต่อเดือน รวมเป็น 850 บาทต่อเดือน

(3)อายุ 80-89 ปี รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 800 บาทต่อเดือน รับเงินช่วยเหลือพิเศษเพิ่ม 200 บาทต่อเดือน รวมเป็น 1,000 บาทต่อเดือน

(4) อายุ 90 ปีขึ้นไป รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 1,000 บาทต่อเดือน รับเงินช่วยเหลือพิเศษเพิ่ม 250 บาทต่อเดือน รวมเป็น 1,250 บาทต่อเดือน

น.ส.รัชดา กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ที่ประชุม ครม.มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา ดำเนินการขอรับการจัดสรรงบประมาณ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือพิเศษผู้สูงอายุต่อไป

ส่วนกรณีผู้สูงอายุที่ถูกระงับสิทธิเนื่องจากได้รับสวัสดิการอื่นซ้ำซ้อนจากรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ได้รับสิทธิเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่ปรับเพิ่มด้วย โดยจะได้รับเมื่อมีการออกระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นฉบับใหม่ ตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ).