เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 1 พ.ค. 67 โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาท “วิว” น.ส.เยาวภา บุรพลชัย นายกสมาคมนักกีฬาโอลิมปิกไทย อดีตนักกีฬาเหรียญทองแดงโอลิมปิก ปี 2004 โฆษกพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) ร่วมเป็นวิทยากร และสอนศิลปะป้องกันตัว กีฬาเทควันโด พร้อมกับทีมผู้ฝึกสอนชมรมเทควันโดชัยนาท โดยมี นายอนุสรณ์ นาคาศัย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ชัยนาท เป็นประธานโครงการสอนศิลปะป้องกันตัว และกีฬาเทควันโดขององค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาท โดยมี ยุวชน-เยาวชน กว่า 100 คน มาสมัครร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ โดยจัดขึ้นเป็นเวลา 5 วัน ระหว่างวันที่ 1-5 พ.ค. 2567
“วิว-เยาวภา” กล่าวว่า ตนเองรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก ที่ได้ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ปีนี้เป็นปีที่ 2 ที่ตนเองได้มาร่วมเป็นวิทยากร และผู้ฝึกสอน วันนี้เห็นเด็กและเยาวชนให้ความสนใจกีฬาเทควันโด เป็นจำนวนมาก ทราบว่ารับสมัคร 50 คน แต่มากันมากกว่า 100 คน และ จ.ชัยนาท ก็มีผลงานและพัฒนานักกีฬาเทควันโดอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นในระดับประเทศ กีฬาเยาวชนแห่งชาติ กีฬาแห่งชาติ และด้วยการเริ่มและต่อยอดจากกิจกรรมโครงการสอนเทควันโด ซึ่งเป็นการพัฒนากีฬาเทควันโดอย่างยั่งยืน หวังว่า เด็ก เยาวชน ที่มาในวันนี้ จะมีโอกาสไปเป็นทีมชาติไทยในอนาคต ซึ่งวันนี้ต้องขอขอบคุณองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาท ที่จัดกิจกรรมดีๆ เช่นนี้อย่างต่อเนื่อง ขอขอบคุณผู้ปกครองที่สละเวลาที่มีค่า พาเด็กๆ มาร่วมกิจกรรม ซึ่งการส่งเสริมแบบนี้ จะทำให้เด็กมีแรงบัลดาลใจ และรักในกีฬา
“วิว-เยาวภา” กล่าวว่า สุดท้ายสิ่งหนึ่งที่อยากจะฝากไปถึงรัฐบาล ผู้บริหารประเทศ ตนเองได้มีโอกาสไปพบพ่อ แม่ ผู้ปกครองของเด็ก เยาวชน หลายพื้นที่ รับฟังเสียงจากผู้ปกครอง ในการพัฒนาเด็กและเยาวชน ต้องใช้ทุนทรัพย์ที่มากขึ้น ในเรื่องค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการศึกษาของเด็ก เยาวชน หรือปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา เด็กเมือง เด็กชนบท หรือเด็กที่อยู่ห่างไกล การสร้างเด็กไทย ให้มีคุณภาพเทียบนานาชาติได้นั้น เราต้องส่งเสริมการศึกษาหลายแขนง วิชาการ ภาษา กีฬา ดนตรี ทักษะทางเทคโนโลยี ซึ่งหน้าที่นี้ปัจจุบัน คือ ผู้ปกครองเป็นผู้ส่งเสริม และดูแล ซึ่งขอให้มีมาตรการช่วยเหลือผู้ปกครอง ในยุคนี้
“วิว-เยาวภา” กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ในเรื่องของการสร้างหลักสูตรหรือศูนย์การศึกษาออนไลน์ จัดการเรียนแบบออนไลน์ ให้กับเด็ก เยาวชน สร้างทักษะด้านต่างๆ ให้มากขึ้น หรือแหล่งเรียนรู้เพื่อพัฒนาเด็ก เยาวชน โดยเป็นโครงการที่ไม่มีค่าใช้จ่าย มาตรการช่วยเหลือในเรื่องของภาษีพ่อแม่ครอบครัวที่มีเด็กเล็ก ยุวชน เยาวชน ที่อนาคตจะเป็นกำลังสำคัญของชาติ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการศึกษาของเด็ก เยาวชน สามารถมาลดหย่อนภาษีได้ จะเป็นทางหนึ่งที่จะส่งเสริมเด็กและเยาวชน และส่งเสริมการเพิ่มของประชากรเด็ก ให้ ครอบครัวคนรุ่นใหม่มีความมั่นใจว่า เขามีลูกแล้ว เขาจะสามารถเลี้ยงดูให้ลูกเขามีคุณภาพ ด้วยการส่งเสริมของภาครัฐ ทำให้อนาคตประะทศไทยจะมีประชากรที่เก่ง และมีความสามารถ เป็นกำลังสำคัญชองชาติได้ ขอฝากไว้สำหรับการพัฒนาเด็กไทยแบบยั่งยืน เพื่ออนาคตประเทศไทย.