@เห็นด้วยกับการที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า จะไม่มีการ “บังคับใช้กฎหมาย” ต่อ “แนวร่วม” ขบวนการแบ่งแยกดินแดนในห้วง “เดือนรอมฎอน” เพื่อสร้างความ “สงบสุข” ให้เกิดขึ้นเป็นการ “ชั่วคราว” และล่าสุด พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมให้ “แนวร่วม” 226 คน กลับมาอยู่กับ “ครอบครัว” ได้โดยไม่มีการ “จับกุม” แต่ก็ “เห็นต่าง” กับ “แม่ทัพภาค 4” ตรงที่ จะต้องการให้มีการ “ตรวจสอบ” ให้ชัดเจนว่า “226 คน” ที่ อนุญาตให้ “กลับบ้าน” เป็น “แนวร่วม” ระดับไหน เป็นกลุ่มที่ยัง “ก่อเหตุ” หรือเป็นกลุ่มที่ “บีอาร์เอ็น” ได้ทำการ “ปลดประจำการ” ไปแล้ว และหาทางที่จะให้ “กลับบ้าน” เพื่อเป็นการลด “ภาระ” ของ “บีอาร์เอ็น” ….ถ้าเป็นอย่างแรก การยินยอมให้ “กลับบ้าน” โดยไม่มีการ “จับกุม” ก็พอจะเป็น “ประโยชน์” กับการดับ “ไฟใต้” ไม่มากก็น้อย แต่ถ้าเป็น “อย่างหลัง” ก็เท่ากับ “รัฐไทย” กำลัง “เสียรู้” ให้กับ ขบวนการ “บีอาร์เอ็น” อีกครั้ง….ที่สำคัญ ถ้าย้อนกลับไปดูอดีต จะพบว่า “แม่ทัพภาคที่ 4” หลายท่าน มีการทำโครงการ “พาคนกลับบ้าน” นั่นคือนำ “แนวร่วม” กลับมาอยู่ในพื้นที่ โดยไม่ “เอาผิด” ทั้งการใช้ กฎหมาย ม.21 และ ไม่มีการใช้ “กฎหมาย” มี “แนวร่วม” ถูกนำ “กลับบ้าน” เป็นจำนวนมาก และ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ก็ได้ใช้ “งบประมาณ” ในโครงการนี้ เป็นจำนวนมากเช่นกัน…

@แต่สุดท้าย “แนวร่วม” ที่เข้าโครงการ “พาคนกลับบ้าน” ก็เป็นเพียง “อดีตแนวร่วม” ที่ ถูก “ปลดระวาง” แล้ว และ “บีอาร์เอ็น” ต้องการที่จะให้คนเหล่านี้ “กลับบ้าน” เพื่อที่จะ “ปลดภาระ” ของ “บีอาร์เอ็น” ในประเทศมาเลเซีย และที่สำคัญ ถ้าการ “พาคนกลับบ้าน” ได้ “แนวร่วม” ที่อยู่ในขบวนการ “ก่อการร้าย” จริง ป่านนี้ “แนวร่วม” ที่เป็น “กองกำลังติดอาวุธ” ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา คงจะลดน้อยถอยลง และไม่สามารถก่อเหตุ “รายวัน” อย่างที่เป็นอยู่ ประเด็นนี้ต้องมองให้ “รอบด้าน” งานความมั่นคง เป็นงานที่จะอาศัยการ “สร้างภาพ” ไม่ได้ เพราะเป็นงานที่มี “แผ่นดินปลายด้ามขวาน” เป็นเดิมพัน….. “ช้างเหยียบนา พญาเหยียบเมือง” เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อาศัยความ “เพลี่ยงพล้ำ” ของ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ตกอยู่ใน “วังวน” อัน “อื้อฉาว” ในเรื่องของ “การมุ้ง” เดินทางมาตรวจราชการที่ จ.สงขลา และ ที่ จ.พัทลุง เพื่อเป็นการเพิ่มคะแนนให้กับ “ตนเอง” ในช่วงที่ทั้งตัวของ “บิ๊กตู่” และของพรรคพลังประชารัฐ เป็น “ขาลง” …. พอๆ กับพรรค ประชาธิปัตย์ ที่ก่อนหน้านี้เพียง 3 วัน จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และรองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมา “เปิดตัว” ผู้สมัคร ส.ส. 4 เขต ของ จ.สงขลา และพบปะ ผู้นำ สมาคมไทย-จีน ที่ โรงแรมลีกาเดนส์ พลาซ่า เพื่อหวังว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า จะสามารถ “ปักธง” ได้ครบทั้ง 9 เขต ตามที่ เดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรค และ ส.ส.เขต 5 สงขลา ประกาศเอาไว้….

@การเดินทางมาตรวจราชการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดูการขยายคลอง ร.1 ของกรมชลประทาน ที่เริ่มตั้งแต่ปี 61 จนป่านนี้ยังไม่เสร็จ ทั้งที่มีความยาวแค่ 21 กิโลเมตร โครงการนี้ มีเรื่อง “อื้อฉาว” หลายครั้ง ครั้งนี้ “บิ๊กตู่” ได้รับรายงานแต่สิ่งที่ดีๆ ส่วนสิ่งที่ไม่ดีไม่มีใครพูดให้ฟัง…พูดถึง กรมชลประทาน ถือว่าเป็น กรมๆ หนึ่งในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มีงบประมาณเป็นจำนวน มหาศาล มีโครงการมากมายในพื้นที่ของภาคใต้ และหลายโครงการมี กลิ่นโชยมาตุๆ ซึ่งเมื่อหลายปีก่อน หลายโครงการ ที่ จ.ยะลา ถูก ป.ป.ท. ตรวจสอบพบมีการ “ทุจริต” จนมี “เจ้าหน้าที่” ถูก “ให้ออก” จาก ราชการไป 4-5 คนด้วยกัน และวันนี้ โครงการที่มีชาวบ้านร้องเรียนมาให้มีการตรวจสอบ เช่น โครงการอ่างเก็บน้ำ หมู่ 4 บ้านนาทองสุก อ.นาหม่อม จ.สงขลา ว่ามีการก่อสร้างที่ “ไม่ชอบมาพากล” แต่ยังไม่มีการตรวจสอบแต่อย่างใด ก็ขอฝาก ประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน ให้ตรวจสอบด้วย และไม่ใช่แค่ที่ “นาหม่อม” ที่มีกลิ่นไม่โสภา ยังมีอีกหลายโครงการที่ถ้าตรวจสอบจริงจะพบความ “ไม่ชอบมาพากล” มากมาย ….

@สำหรับการเดินทาง “ลงใต้” ของ “บิ๊กตู่” ครั้งนี้ มีทั้งเรื่อง ถูก ชาวบ้าน “ค่อนแคะ” เรื่องที่ “ตำรวจ” มีการปิดถนนหลายจุด ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้อง “ทำใจ” เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจาก “ทหาร” การเดินทางไปไหน จึงมีการ “อารักขา” เหมือน “ไข่ในหิน” ทั้งที่ “หาดใหญ่” ก็ไม่ใช่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่การ “อารักขา” ก็ไม่แตกต่างกัน และในการ พบปะกับประชาชนที่ “ตลาดกิมหยง” ที่มี ประชาชน มาต้อนรับมากมาย พร้อมเสียง “ลุงตู่สู้ๆ” เล่นเอา “ลุงตู่” ยิ้มจน “แก้มปริ” แต่ “ลุงตู่” ไม่รู้หรอกว่า เบื้องหลัง “การถ่ายทำ” มีข่าวว่าแจก “แบงก์พัน” คนละใบ จากนักการเมือง “เจ้าถิ่น” เพื่อเป็นการ “เอาใจ” สร้าง “อารมณ์ผ่องใส” ให้กับ “ลุงตู่” …และที่สำคัญที่สุดที่ทุกคนให้ความสนใจมากที่สุด ก็คือ หมายเลขรถยนต์ ที่ “บิ๊กตู่” นั่ง รวมทั้ง หมายเลข “เซียมซี” ที่ “ลุงตู่” เสี่ยงทาย และแม้แต่ “เป็ด 3 ตัว” ที่เป็น “อาหารกลางวัน” ของ “ลุงตู่” ก็ถูกนำไป “ซื้อหวย” แสดงให้เห็นว่า “ชาวบ้าน” สนใจเรื่อง “หวย” มากกว่าเรื่องอื่นๆ และแน่นอนว่า “หวยรัฐ” และ “หวยใต้ดิน” งวดหน้า เจ้ามือเตรียม “อั้น” ทะเบียนรถของ “บิ๊กตู่” แน่ๆ….

@นี่แสดงให้เห็นว่า “คนจน” ส่วนใหญ่ของประเทศ ไม่ได้ฝากอนาคตไว่กับ “บิ๊กตู่” ในการบริหารประเทศให้ “ก้าวหน้า” แต่ฝาก “อนาคต” ไว้กับ “หวย” เดือนละ 2 ครั้ง เชื่อเถอะ ถ้าประเทศนี้ไม่มี “หวย” ให้เป็นความหวัง “คนไทย” จะฆ่าตัวตายเพราะหนี “ปัญหาชีวิต” มากกว่าที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน อ้อ และอีกอย่างที่เกิดขึ้นอย่าง “ปุบปับ” ในวันที่ “ลุงตู่” เยือน “หาดใหญ่” คือ ร้านจำหน่าย บุหรี่และเหล้า หลบหนีภาษี รวมทั้งสิ่งที่ผิดกฎหมายทั้งหมด ถูก “ใครไม่รู้” สั่ง “ปิดร้าน” 1 วัน “เล่นเอา” สิงห์อมควัน “ก่นโครตเหง้าศักราช” กันยกใหญ่ ดังนั้นการเดินทางมา “หาดใหญ่” ของ “ลุงตู่” ครั้งนี้ที่พบเห็นล้วนแล้วแต่ “ของปลอม” กับ “ผักชี ”ไม่แตกต่างจากไปตรวจราชการที่ภาคอื่นๆ ….สิ่งเดียวที่”บิ๊กตู่” ให้ความหวังกับคน”หาดใหญ่” ในการเดินทางเป็น”ช้างเหยียบนาพญาเหยียบเมือง” ในครั้งนี้คือ ในวันที่ 1 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้ การเดินทาง เข้า-ออก ระหว่างประเทศไทย-กับมาเลเซีย และ ชายแดนประเทศเพื่อนบ้านทุกประเทศ จะยกเลิก ระเบียบที่ “หยุมหยิม” เพื่อ ลด “ภาระ” ในการที่ นักเดินทาง ต้องใช้เงินในเรื่อง “ตรวจโรค” เรื่อง “เอกสาร” เรื่อง “ประกัน” เรื่อง “ที่พัก” เบ็ดเสร็จ 6,000-8,000 บาท โดยเชื่อว่า ถ้าไม่มีการ “จ่ายเงิน” ตรงนี้ จะทำให้ คน “มาเลเซีย” เดินทางเข้าประเทศมากขึ้น นี่คือ “ยาหอม” จาก “ลุงตู่” ที่ให้ไว้กับคน “หาดใหญ่” ส่วนจะเป็นจริงหรือไม่ ต้องดูหลังวันที่ 1 พฤษภาคม ว่าหลังการยกเลิก “ไทยแลนด์พาส” แล้ว สถานการณ์ ของ “หาดใหญ่” จะเป็นอย่างที่ “คาดหวัง” หรือไม่

@เพราะเรื่องที่เรา “คาดหวัง” อาจจะไม่เป็นอย่างที่ “หวัง” เพราะต้องดู “ระเบียบ” ของ “มาเลเซีย” ในการอนุญาตคนของเขาด้วยว่า มี ระเบียบ มี กติกา มี “กฎหมาย” อย่างไร และที่สำคัญ คนมาเลเซียเอง ได้รับผลกระทบจาก “โควิด-19” ไม่ต่างจากคนในประเทศไทย “ยากจน” ไม่มีงานทำ กำลังซื้อ “ถดถอย” และ ส่วนหนึ่งยัง “หวาดหวั่น” การติดเชื้อ ดังนั้น แม้จะลดขั้นตอน ลดการ “จ่ายเงิน” เพื่อเดินทางมายังเข้าประเทศ ก็อาจจะไม่ได้ทำให้จำนวนคนมาเลเซีย เข้ามามากมาย เพื่อ “ฉุด” เมือง “หาดใหญ่” ให้ฟื้นคืนจากการเป็น “เมืองร้าง”….ที่สำคัญ ฟังดูแล้ว วันนี้ความคิดของ “คนหาดใหญ่” ยัง “ดำดิ่ง” อยู่กับภาพเก่าๆ ตั้งแต่ 40 ปีที่แล้ว ที่ฝาก “อนาคต” ของ ธุรกิจการค้า และ “ปากท้อง” ไว้กับชาวมาเลเซีย ทั้งที่ ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว และ “หาดใหญ่” เป็นเมืองที่เป็น “ทางผ่าน” ไม่ใช่ “ศูนย์กลาง” ของการเป็นเมือง “ธุรกิจท่องเที่ยว” เหมือนในอดีต ถ้าคน “หาดใหญ่” ยัง “ดำดิ่ง” อยู่กับ “อดีต” และไม่คิดที่จะ สร้าง “หาดใหญ่” ในรูปแบบใหม่ ทั้งด้าน ธุรกิจ และการ ท่องเที่ยว เชื่อเถอะ ความรุ่งเรืองของ “หาดใหญ่” จะไม่ “หวนคืน” เป็นเพียง “อดีต” ที่คนกลุ่มหนึ่งยัง “โหยหา” อย่างไร้ “อนาคต”….

@เรื่องนี้ผู้ “ผลักดัน” ที่สำคัญที่สุดคือ ส.ส. หรือ “ผู้แทน” ที่ต้องร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ กับภาค “เอกชน” ท้องถิ่น และจังหวัด ในการ “ร่วมคิดร่วมคุย” เพื่อหา “ทางออก” ซึ่ง ส.ส.หนุ่ม เขต 2 อย่าง ศราตรา ศรีปาน แห่ง “พลังประชารัฐ” ต้องมี “กิ๋น” ที่มากกว่านี้ การเป็น ส.ส. ไม่ใช่ “แจกถุงยังชีพ” แจก “ข้าวห่อ” เพียงอย่างเดียว แต่การเป็น “ผู้แทน” ต้องมีมากกว่านั้น….โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ ที่เลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเสีย “ที่นั่ง” ให้กับ พรรคพลังประชารัฐ ถึง 4 เขต และเสียให้กับ ภูมิใจไทย 1 เขต ถ้าต้องการ “ชิงที่นั่งคืน” ขุนพลภาคใต้ อย่าง นิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค ต้องมี “นโยบาย” เรื่องการ “ฟื้นฟู” เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การลงทุน ที่ชัดเจนและ “จับต้องได้” และ เดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.เขต 5 รองหัวหน้าพรรคที่รับผิด “ภาคใต้” ต้องมีที่ “ปรึกษา” เรื่องการพัฒนาจังหวัดสงขลาทั้งระบบ การชูนโยบาย “ทวงคืนเอกราชสิ่งแวดล้อม” อย่างเดียว โดยแก้ปัญหา “ปากท้อง” ของคน “รากหญ้า” และแก้ปัญหา การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว ที่เป็นความต้องการของชน “ชั้นกลาง” และคน “ร่ำรวย” ไม่ได้ โอกาสที่การเลือกตั้งครั้งหน้าจะ “กวาดที่นั่ง ส.ส.” ทั้งจังหวัด มีทางเดียวคือใช้เงินจำนวน “มหาศาล” ถามว่า จะเอาเงินจากที่ไหนมาเพื่อ “แจก” ประชาชนผู้มีสิทธิลงคะแนน….

@เหลือเวลาไม่กี่วันก็จะถึงวันที่ 1 พฤษภาคม ซึ่ง รัฐบาลจะเลิก “อุดหนุน” ราคาน้ำมันดีเซล หลังจากที่ “อุดหนุน” จนกระทรวงการคลัง “ตูดขาด” ไปแล้ว 20,000 ล้าน ในระยะเวลาไม่กี่เดือน วันนี้ คนทั้งประเทศ “เงี่ยหู” รอฟังว่า ครม.ของ “ลุงตู่” จะมีความ “ชัดเจน” ว่า จะปล่อยให้ ราคาน้ำมัน “ลอยตัว” ตาม “กลไก” ของ “ตลาดน้ำมันโลก” อย่างไร จะ “อุดหนุน” คนละครึ่งของ “ราคาจริง” หรือจะยังจะให้ กรมสรรพสามิต ลดอัตราภาษีลิตรละ 3 ต่อไป เพื่อที่ ประชาชน นักธุรกิจ พ่อค้า ผู้ประกอบการขนส่ง จะได้วางแผนถูกต้อง แต่…ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า ครม. อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีคลัง และ สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รัฐมนตรีพลังงาน ยัง “อ้อมแอ้ม” ไม่มีความชัดเจน ที่ “น่าเกลียดน่าชัง” คือ คำพูดของ รัฐมนตรีคลัง ที่กล่าวว่า “ยังมีเวลาอยู่” หรือต้องให้ถึง “เส้นตาย” แล้วค่อยแก้ปัญหาแบบ “ไฟลนก้น” หรือต้องรอให้มี “ม็อบ” ออกมา เรียกร้องแล้วจึงจะมีคำตอบที่ชัดเจน ทั้งหมดคือ “คำตอบ” ที่ชัดเจนว่า ทำไมประเทศเรา จึงเป็นแบบนี้ ก็เพราะเรามีผู้ “บริหาร” แบบไง.. ฮาไม่ออก

@แน่นอนว่า เดือน “พฤษภาคม” ไม่ว่า รัฐบาลจะใช้มาตรการใดๆ ที่เกี่ยวกับน้ำมันดีเซล ราคาน้ำมันต้องพุ่งไปที่ ลิตรละ 35 บาท ซึ่ง ราคาสินค้าทุกชนิดต้องขึ้นราคาอีกครั้งตามค่าขนส่ง ยกตัวอย่าง ณ วันนี้ วันที่น้ำมันดีเซลยังลิตรละ 30 บาท แต่ ราคา “ไข่ไก่” อาหารหลักของคนส่วนใหญ่ ขึ้นไปแล้ว ฟองละ 4 บาท รวม 5 เดือน “ไข่ไก่” ขึ้นราคาไป 5 ครั้ง แผงละ 21 บาท ส่วนสินค้าอื่นๆ ไม่ต้องถามถึง มันขึ้นไปไกลสุดกู่ และหลังวันที่ 1 พฤษภาคม ก็จะ “พาเหรด” ขึ้นอีกครั้ง วันนี้สิ่งที่ รัฐบาล ต้องทำอย่างเร่งด่วนคือ ตรึงราคาสินค้า “อุปโภคบริโภค” ที่ “จำเป็น” กับการ “ยังชีพ” ของคนชั้นล่าง และชั้นกลาง ไม่ใช่มุ่งแต่การแก้ราคา “หวยแพง” เพราะ “หวย” หรือ “ลอตเตอรี่” ไม่ใช่ “อาหาร” เพื่อการ “ยังชีพ”….. ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ที่คุมกระทรวง “ปากท้อง” ของประชาชน ทั้งกระทรวงพาณิชย์ และ กระทรวงเกษตรฯ ที่ วินาทีนี้ ทั้ง “จุรินทร์” และ “เฉลิมชัย” ต้อง “ระดม” สรรพกำลังและ “สรรพความรู้” ของคนในกระทรวง รวมทั้ง “เอกชน” แก้ปัญหาให้ได้โดยเร็ว ไม่ใช่พอสินค้าขึ้นราคา “พอตนเอง” เอาไม่อยู่ ก็โทษแต่ ปัจจัยภายนอก เช่น สงคราม รัสเซีย-ยูเครน น้ำมันแพง อากาศร้อน “ไก่ไข่ไม่ออก” ต้องหัดโทษตนเอง และคนในกระทรวงว่ามี “กึ๋น” ไม่พอ….ส่วนเรื่องน้ำมันเถื่อนต้องร้องบอกดังๆ ต่อ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เพื่อให้ “สั่งการ” ให้ ตร.ปนม. ในภาคใต้ “เอาจริง” กับ ขบวนการ “ค้าน้ำมันเถื่อน” ที่ กำลังลักลอบนำเข้าน้ำมันเถื่อน จากประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ ซึ่งมีราคาถูก และ “ตลาด” ในประเทศไทยต้องการใช้ เพราะจะเป็นการ “ลดต้นทุน” ในภาคการขนส่ง และ อุตสาหกรรม… เส้นทาง “ทางบก” รถบรรทุก “หัวลาก” จำนวนหลายร้อยคัน ที่ติดตั้งถังลับในตัวรถ ยังเป็น “ยานพาหนะ” หลักในการขนน้ำมันเถื่อน โดยเฉพาะในชายแดน จ.สงขลา เพื่อ “จำหน่าย” ให้กับ “นายทุน” ที่เป็น “ตัวกลาง” อีกที

@ส่วนที่ จ.นราธิวาส นอกจากนำเข้าทางรถยนต์ผ่านด่านตรวจแล้ว เส้นทางหลักคือ แม่น้ำสุไหงโก-ลก และ ตากใบ….และทาง “อ่าวไทย” คือ ชายทะเล จ.สงขลา, นครศรีธรรมราช และ สุราษฎร์ธานี หลายเดือนมานี้ ทั้ง ตร.ปนม. ทั้งศุลกากร ทั้งสรรพสมิต ไม่มีการจับน้ำมันเถื่อน แม้แต่ “หยดเดียว” ทั้งที่ มีน้ำมันเถื่อน ตั้งขายมากมาย และ “คอกน้ำมันเถื่อน” ยังเปิด “รับซื้อ” และ “ขายส่ง” โรงงาน อุตสาหกรรม และ “โลจิสติกส์” ใหญ่ๆ ต่าง “ซื้อ” น้ำมันเถื่อน จาก “นายทุน” เป็นหลัก และ “นายทุน” ที่อยู่เบื้องหลังก็คือคนของพรรคการเมืองพรรคใหญ่ ไม่ใช่ใครที่ไหน อาจจะเป็นอย่างนี้กระมังที่ทำให้ ศุลกากร, สรรพสามิต และ ตร.ปนม. ตัดสินใจ “รับส่วย” เพราะไม่ต้องการ “ปะทะ” กับนักการเมืองที่อยู่เบื้องหลัง แล้วเราจะปล่อยให้บ้านเมืองเป็นอย่างนี้ต่อไปโดยไม่มีการแก้ไขอย่างนั้นหรือ ….และมีเรื่องที่จะบอกถึง รัฐมนตรีพลังงานให้รู้ว่า คลังน้ำมันในภาคใต้ ทั้งคลังร่วม ที่เป็นของ “ต่างชาติ” และ คลังที่เป็นของ ปตท. ใน อ.สิงหนคร จ.สงขลา และ ที่ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ต่างมีการ “ปฏิเสธ” การขายน้ำมันให้กับ “จ๊อบเบอร์” โดยอ้าง “สต๊อก” น้ำมันลดลง แต่เบื้องหลังเป็นการ “กักตุน” เพื่อขายในราคาใหม่ในวันที่ 1 พฤษภาคม หรือไม่ สุทธิชัย สุขสีเสน ผู้รับผิดชอบเรื่องพลังงานในภาคใต้ ต้องตรวจสอบให้ชัดเจน….

@วันนี้ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีต รอง ผบช.ภ.8 หัวหน้าพนักงานสอบสวน คดี “ค้ามนุษย์” ที่ “โด่งดัง” ที่ จ.สงขลา เมื่อหลายปีก่อน และต้อง “ลี้ภัย” จากการทำคดี “ค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจา” ไปยังประเทศออสเตรเลีย เพื่อความ “ปลอดภัย” แต่เรื่อง “เสื่อมเสีย” จากการ “รับส่วย” ของการ “ค้ามนุษย์” ยังไม่จบ ล่าสุด พล.ต.ต.ปวีณ ให้สัมภาษณ์ “สื่อ” ต่างประเทศ มีการ “พาดพิง” ถึง นายตำรวจคนดัง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ตร.(สส 5) ว่าเป็นหนึ่งในนายตำรวจ ที่เข้ามา “แทรกแซง” คดีการค้า “มนุษย์ชาวโรฮีนจา” ไล่เรียงห้วงเวลาของคดีนี้ ตอนนั้น “เดอะโจ๊ก” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ยังเป็น รอง ผบก.สงขลา ถ้า “เดอะโจ๊ก” เข้ามามี “บทบาท” จริง ก็น่าจะเป็น “นาย” สั่งการมา แต่วันนี้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ปฏิเสธแล้วว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในขณะที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เล่นบทเดิม “มีหลักฐานก็ส่งมา” ส่วน “สังคม” จะเชื่อใคร ระหว่าง พล.ต.ต.ปวีณ, พล.อ.ประวิตร และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง….แต่อีกเรื่องที่ “อื้อฉาว” และควรจะให้จบโดยเร็ว คือเรื่องการขาย “รถยนต์ จยย.ของกลาง” ที่เป็นยานพาหนะในการ “ขนใบกระท่อม” ที่ สภ.สะท้อน อ.นาทวี จ.สงขลา ที่มี ตำรวจ ทั้ง “สัญญาบัตร” และ “ประทวน” มีชื่อ “ติดร่างแห” 11 นายด้วยกัน เรื่องนี้ “ทางออก” จากความ “อื้อฉาว” คือ พล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริ ผบก.ภ.จว.สงขลา ต้อง แถลงข่าวต่อ “สื่อมวลชน” เพื่อปิดคดี ใครผิด ใครถูก ก็ให้เป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรม การปล่อยให้ “สื่อมวลชน” ทำการ “ลากไส้” ของการ “ทุจริต” ที่เป็นเรื่องที่สร้างความเสียหายให้ตำรวจทั้งประเทศ….ส่วนเรื่องการ “สอบสวน” เพื่อ “เอาผิด” ทางวินัยกับ พ.ต.อ.นิพนธ์ คงขวัญ อดีต ผกก.สภ.สะท้อน ปัจจุบันเป็น ผกก.สภ.ทุ่งตำเสา จ.สงขลา ในการ “ให้ข่าว” และเอา “ความลับ” ทาง “ราชการ” มาเปิดเผย ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งอย่าเอามาปนกัน …..

@ตึกทันกรรม โรงพยาบาลส่วนหน้า สิงหนคร จ.สงขลา ที่ เฉลิมชัย ครุอำโพธิ์ ใช้เงินส่วนตัว 20 ล้าน สร้างเพื่อมอบให้กับโรงพยาบาลสิงหนคร ใกล้จะเสร็จเรียบร้อย แต่ยังไม่เห็นการ “ขับเคลื่อน” ของผู้บริหารโรงพยาบาลสิงหนคร เช่น การสร้างตึกอุบัติเหตุ ที่หน่วยงานเอกชนอย่าง ปตท.สผ. จะเป็นผู้บริจาค หรือ ความพร้อมในด้านอื่นๆ เพื่อการเปิดโรงพยาบาลส่วนหน้าแต่อย่างใด ก็ได้แต่หวังว่า นพ.นครินทร์ ฉิมตระกูล ผอ.รพ.สิงหนคร จะไม่ทิ้งให้ “ตึกทันกรรม” เป็น “ตึกร้าง” เช่นเดียวกับ “อาคาร” หลายแห่ง ที่มีผู้ “ใจบุญ” สร้างให้เพื่อประโยชน์ของ “เพื่อนมนุษย์” แต่ หน่วยงานของรัฐ “ทิ้งขว้าง” ด้วยข้ออ้าง ขาด “บุคลากร”….

@เสียงบ่นมาจาก เจ้าหน้าที่ “แขวงการทางสงขลา” เรื่อง “คัตเอาต์” ใหญ่โตของ “ว่าที่” ผู้สมัคร ส.ส.พรรคหนึ่ง ในเขตเลือกตั้งที่ 3 ที่ ขึ้นป้าย โดยไม่ขออนุญาต และเป็นการกีดขวาง “ภูมิทัศน์” ของผู้ใช้รถ ใช้ถนน เอ้า เสี่ย ผู้รับเหมารายไหนรู้ตัวว่า “ไม่ถูกต้อง” รีบไปดำเนินการให้ถูกต้อง….แต่ที่รู้ว่าผิด แล้วยังไปทำบันทึกว่าตรวจแล้วถูกต้องคือ การที่หน่วยงานของรัฐ ทั้ง “กองปราบฯ” ทั้ง อบต. ทั้ง กฟผ. ทั้ง บก.ปทส. และ อุตสาหกรรมจังหวัด ลงพื้นที่ หมู่ 5 ต.เขามีเกียรติ อ.สะเดา จ.สงขลา ที่ นายอำนาจ ยังให้ผล ร้องเรียนว่า มี “นายทุน” ขุดดินใต้เสาไฟฟ้าแรงสูง ของ “กฟผ.” ไปขายให้กับ “แขวงการทาง” เพื่อก่อสร้างถนนสาย คลองแงะ-นาทวี จ.สงขลา มีการตรวจสอบพบว่า การขุดดินใต้เสาไฟฟ้าแรงสูง ยังไม่มีการอนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่กลับมีการบันทึกการตรวจสอบว่า ทุกอย่างถูกต้อง และลงชื่อไว้เป็นหลักฐาน โดย ตัวแทนของ กฟผ. บันทึกว่าให้ผู้ที่ “ทำผิด” ไปยื่นเอกสารทำให้ถูกต้อง ก็ความผิดมันสำเร็จแล้ว ดินใต้สายไฟฟ้าถูกขุดไปขายจนจะหมดแล้ว อย่างนี้ต้อง “ดำเนินคดี” ไม่ใช่ให้ไปขออนุญาตทำให้ถูกต้องย้อนหลัง และเรื่องนี้ วันนี้ พ.ต.อ.ชาติชาย ชนะสิทธิ์ ผกก.สภ.คลองแงะ รับเป็นคดี และอยู่ระหว่างรวมรวมหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับ “นายทุน” แล้ว เรื่องนี้ฝาก พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 โปรดติดตามและอย่าให้มีการ “สูญเสีย” เกิดขึ้น เพราะฟังว่า มีหน่วยงานของรัฐหลายหน่วยที่มี “เอี่ยว” กับ บ่อดินดังกล่าว….

@อีกเรื่อง ที่ต้องบอกให้ชาวเทพาทราบ สิทธิชัย เทพภูษา นายอำเภอเทพา จ.สงขลา รับว่าเป็นผู้ “สั่งการ” ให้ “ลูกน้อง” เป็นผู้ตัดต้นตำเสา ริมถนนในเขตเทศบาลตำบลเทพาจริง ตามที่แขวงการทางร้องขอ และขณะนี้ต้นตำเสาทั้งหมด เก็บไว้เพื่อรอให้หน่วยงานของรัฐใช้ประโยชน์ ไม่ได้นำไปขายให้กับ “เอกชน” ตามที่ชาวบ้านร้องเรียน “ทราบแล้วเปลี่ยน” ….แล้วพบกันใหม่วันศุกร์หน้าครับ

————————————————————

ไชยยงค์ มณีพิลึก

สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์… พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางมาตรวจราชการที่ จ.สงขลา-พัทลุง และทำการสักการะหลวงปู่ไต้ฮงโจวซือ ที่มูลนิธิมิตรภาพสามัคคี (ท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง) หาดใหญ่ โดย อรุณชัย ศิริมหาชัย ประธานมูลนิธิฯ นำคณะกรรมการให้การต้อนรับ

สมโภชเจ้าแม่… พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เปิดงานสมโภชเจ้าแม่โต๊ะโมะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส โดยมี สนั่น พงษอักษร ผวจ.นราธิวาส และ สุชาดา พันธ์นรา นายกเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก และหัวหน้าส่วนราชการร่วมในพิธี

พบปะผู้นำ… ณ ห้องแกรนด์คอนเวนชั่น ฮอลล์ โรงแรมลีการ์เดนส์ พลาซ่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์, รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีหระทรวงพาณิชย์ นิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค และรมช.มหาดไทย ไพเจน มากสุวรรณ์ นายก อบจ.สงขลา พิพัฒน์ อุดมอักษร เลขานุการนายก อบจ.สงขลา และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 จ.สงขลา ได้มีการพบปะพูดคุยกับนักธุรกิจ ผู้นำภาคเอกชน สมาคมไทย-จีน เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะ ถึงปัญหาต่างๆ ที่ต้องการให้ ท้องถิ่น หน่วยงานของรัฐในพื้นที่และรัฐบาล เข้ามาผลักดัน ทั้งเรื่อง การค้า การท่องเที่ยว การลงทุน และอื่นๆ

สืบสานวัฒนธรรม… พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ เป็นประธานในพิธี สืบสานวัฒนธรรมประเพณีสงกรานต์ สรงน้ำพระ รดน้ำผู้สูงอายุ ณ วัดขวัญไม้งาม ต.บางปอ อ.เมือง จ.นราธิวาส โดยมีชาวพุทธในพื้นที่ร่วมงานเป็นจำนวนมาก

ประชาธิปัตย์คัพ… นิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย เป็นประธานแถลงข่าว การจัดฟุตบอลประชาธิปัตย์คัพ 2022 ชิงถ้วย จุรินทร์, เฉลิมชัย, นิพนธ์ พร้อมเงินรางวัล 350,000 บาท ณ สนามกีฬาติณสูลานนท์ อ.เมือง จ.สงขลา โดยมี สรรเพชญ บุญญามณี ผู้ช่วยดำเนินงานนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ร่วมงานด้วย

ติดตามโครงการ… ดร.สัญญา ศรีวิเชียร นายกเทศมนตรีนครตรัง พร้อมด้วยนายถนอมพงศ์ หลีกภัย รองนายเทศมนตรีนครตรัง นายวัลลภ ช่วยบำรุง ปลัดเทศบาลนครตรัง หัวหน้าส่วนการงาน ร่วมต้อนรับ คณะ ป.ป.ช.จังหวัดตรัง และเครือข่ายภาคประชาชน ที่เดินทางมาติดตามการดำเนินโครงการก่อสร้างศูนย์แสดงศิลปวัฒนธรรมพระยารัษฎานุประดิษฐ์ นำโดย ราม วสุธนภิญโญ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดตรัง สืบเนื่องจากมีการร้องเรียนเรื่องความไม่โปร่งใสของโครงการ

คุณภาพชีวิต… พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ร่วมละศีลอด ที่จัดโดย สถาบันพัฒนาคุณภาพชีวิตเยาวชน จัดกิจกรรมรอมฎอน เยาวชนสัมพันธ์ ณ โรงแรมเซาท์เทอร์น แอร์พอร์ต อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

เราจะเดินไปด้วยกัน… เอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง และ มุกดา ยังอภัย ณ สงขลา นายกกิ่งกาชาด เบตง และทีมงาน กองทุนเบตงกู้ภัยโควิด ร่วมมอบไม้เท้าเลเซอร์ ให้ผู้สูงอายุ 100 อัน เพื่อใช้เป็นอุปกรณ์ในการเดินของผู้สูงอายุ ณ หอประชุม อ.เบตง จ.ยะลา

เข้าพบและหารือ… รุ่งเรือง ธิมามนตรี ผช.เลขาธิการ ศอ.บต. ให้การต้อนรับสมาคมนิสิตนักศึกษาไทยมุสลิม นำโดย วารุต ไม่สะพร่าว นายกสมาคมฯ เพื่อหารือและร่วมมือในการแก้ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการศึกษาในหลายประเด็น ณ ห้องประชุม ศอ.บต.อ.เมือง จ.ยะลา

เยี่ยมศูนย์โควิด… พล.ต.สุรเทพ หนูแก้ว รอง ผอ.สน.ปรมน. ภาคที่ 4 เดินทางเยี่ยมเยียนศูนย์โควิดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ซึ่งให้บริการทางการแพทย์ป้องกัน และรักษาแก่ประชาชนทั่วไป และผู้ติดเชื้อโควิด-19 ตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุข แบบเจอ แจก จบ หรือแบบ HI และ CI ในการนี้ ได้มอบผลไม้ และอาหารว่าง เพื่อพบปะพูดคุยเป็นขวัญกำลังใจแก่บุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานด้วยความเสียสละมาอย่างต่อเนื่อง โดยมี ฉัตรชัย อรุณสุวรรณากร รองนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราชให้การต้อนรับ ณ หอประชุมเมือง (ทุ่งท่าลาด) อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช

ส่งมอบ… ไพเจน มากสุวรรณ์ นายก อบจ.สงขลา ส่งมอบเวชภัณฑ์เพื่อป้องกัน และควบโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพื่อลดโอกาสการแพร่ระบาดของโรค / สำหรับเวชภัณฑ์ที่ อบจ.สงขลา ให้การสนับสนุนมีจำนวน 10 รายการ ได้แก่ เจลล้างมือ / ชุด PPE / ชุด CPE / หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ / หมวกตัวหนอน / กระบังหน้าแบบใส (Face Shield) / ถุงคลุมเท้า (Shoe Cover) และหน้ากากอนามัย N 95 โดยมีหน่วยงานที่ขอรับการสนับสนุนเวชภัณฑ์ฯ ในพื้นที่อำเภอสิงหนคร รวม 8 แห่ง

ตลาดน้ำ… สุพจน์ นวลทอง นายกเทศมนตรีตำบลระโนด คณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล พนักงานเทศบาลตำบลระโนด จัดโครงการตลาดน้ำคลองระโนดประจำปี 2565 เพื่อส่งเสริมการประกอบอาชีพของคนในชุมชน ส่งเสริมการท่องเที่ยว พัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่

สำรวจเกาะหนูเกาะแมว… พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และ นาที รัชกิจประการ ประธานที่ปรึกษา รัฐมนตรีสาธารณสุข พร้อมคณะสำรวจเกาะหนูเกาะแมว เพื่อผลักดันให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของ จ.สงขลา โดยมี พล.ร.ต.กฤษฎา รัตนสุภา ผบ.ฐานทัพเรือสงขลา ให้การต้อนรับและมอบของที่ระลึก ณ ห้องรับรองฐานทัพเรือสงขลา

สานสัมพันธ์… พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผบก.ภ.จว.ยะลา พร้อมด้วย พ.ต.อ.จำลอง สุวลักษณ์ ผกก.สภ.ลำใหม่ พบปะเยี่ยมเยือน สะมะแอ ฮารี ประธานกรรมการอิสลาม จ.ยะลา พร้อมมอบเงินสนับสนุนและอินทผาลัม สำหรับใช้ในกิจกรรมการถือศีลอดในเดือนรอมฎอน เพื่อสานสัมพันธ์อันดี ณ บ้านพัก โรงเรียนพัฒนาอิสลามวิทยา ต.ลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา

เพื่อเยาวชน… รุ่งกานต์ สิริรัตน์เรืองสุข รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา นำคณะทำงานโครงการช่วยเหลือเด็กในภาวะวิกฤติทางการศึกษา จังหวัดยะลา ประชุมพิจารณากลั่นกรองและรับรองข้อมูลเด็กและเยาวชนที่ด้อยโอกาสทางการศึกษา ที่อยู่ในภาวะวิกฤติทางการศึกษา เพื่อช่วยเหลือให้สามารถอยู่ในระบบการศึกษาได้อย่างต่อเนื่องต่อไป ณ ห้องศรีญาลอ ชั้น 1 องค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา อ.เมืองยะลา จ.ยะลา

แสดงความยินดี… พ.ต.ท.ศักรินทร์ อนุสามัญสกุล สว.ส.ทท.3 กก.3 บก.ทท.3 พร้อมทีมงาน เข้าเยี่ยมเยียนให้กำลังใจและร่วมแสดงความยินดีกับ ซาลี วาแมดีซา (ปะเงาะ) นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าธง อำเภอรามัน จังหวัดยะลา ในโอกาสที่ท่านได้รับตำแหน่งนายก อบต. พร้อมพูดคุยทิศทางและข้อเสนอต่างๆ สำหรับการพัฒนาตำบลในอนาคต และยังประชาสัมพันธ์หน่วยงานตำรวจให้ทราบถึงบทบาทหน้าที่ของตำรวจท่องเที่ยวอีกด้วย

ซ่อมสร้าง-ปันสุข… พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 มอบบ้านใหกับ ซูไวบ๊ะ กรือสะ ราษฎรหมู่ 6 บ้านบลูกาฮีเล ต.บาตง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ตามโครงการ “ซ่อมสร้าง-ปันสุข” ของ ฉก.นราธิวาส เพื่อเป็นของขวัญในเดือนรอมฎอน