ประเทศเวียดนาม ผ่านการเป็นเจ้าภาพจัดมกรรมกีฬามาแล้ว 2 ครั้ง คือ ซีเกมส์ ครั้งที่ 22 ปี 2003 ที่กรุงฮานอย กับ เอเชี่ยนบีชเกมส์ ครั้งที่ 5 ปี 2016 และที่กำลังจะเกิดขึ้นในครั้งที่ 3 ก็คือ ซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่กรุงฮานอย ระหว่างวันที่ 12-23 พ.ค.นี้ โดย “ซีเกมส์ 2021” ครั้งนี้ เจอปัญหาไวรัสโควิด-19 เล่นงานหนัก จนต้องเลื่อนจากปี 2021 มาจัดในปี 2022

จริงๆ แล้ว “ชาวสกุลเหงียน” เกือบจะได้เป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาอันยิ่งใหญ่อย่างเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ด้วยซ้ำ แต่ด้วยความไม่พร้อมในหลายๆ ด้าน พวกเขาจึงขอถอนตัวกลางคัน กระทั่ง “อินโดนีเซีย” ต้องรับหน้าที่ “ขัดตาทัพ” หน้าเสื่อ จัดการแข่งขันแทนเมื่อปี 2018

ย้อนกลับไปเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว เวียดนาม เป็นเจ้าภาพซีเกมส์ครั้งแรก เมื่อปี 2003 ครั้งนั้นพวกเขาใช้โอกาสนี้เป็นการ “เปิดประเทศ” ประกาศให้ชาวโลกรู้ว่า “เวียดนาม” พร้อมเข้าสู่ประชาคมโลก แสดงศักยภาพของตัวเองอย่างเต็มที่

ซีเกมส์ของชาวเวียดนามกลับมาอีกครั้ง แม้ไวรัสโควิด-19 จะสร้างปัญหาให้กับเจ้าภาพและชาติสมาชิกอาเซียน แต่ทุกอย่างก็เดินหน้าต่อไป

อย่างไรก็ตาม จากอดีตเมื่อ 20 ปีที่แล้ว จนกระทั่งปัจจุบัน เวียดนาม มีความเจริญก้าวหน้าเป็นอย่างมาก มีนักธุรกิจและชาติมหาอำนาจ เดินทางเข้ามาลงทุนที่กรุงฮานอย เป็นจำนวนมาก ทั้งญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และจีน รวมทั้งกลุ่มเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียและไทย

ทำให้ตอนนี้เวียดนามเปลี๊ยนไป๋ เพราะว่ามีตึกและอาคารสูงใหญ่ รวมทั้งห้างสรรพสินค้าต่างๆ ผุดขึ้นมาเป็นจำนวนมาก

แต่สิ่งหนึ่งที่มิอาจเปลี่ยนไปก็คือวิถีชีวิตบนท้องถนนกับการใช้รถมอเตอร์ไซค์ เป็นพาหนะหลักในการเดินทางของคนที่นี่ ซึ่งสิ่งที่ตามคือเสียงแตรจากรถมอเตอร์ไซค์ ที่ใครได้มาเยือนครั้งแรกก็อาจจะตกอกตกใจ เพราะไม่มีวินาทีไหนที่บนท้องถนนที่เราจะไม่ได้ยินเสียงแตร

พฤติกรรมการบีบแตรรัวๆ ของคนเวียดนาม ที่คนไทยอย่างเราๆ งงๆ นั้น ไม่ใช่ทำเพื่อกวนบาทาเพื่อนร่วมท้องถนนแต่อย่างใด หากแต่ทำเพื่อเป็นการส่งสัญญาณให้คนที่ขับรถอยู่รอบข้างได้รู้ว่าเขาอยู่ตรงไหนและกำลังจะไปทางไหน

ฝั่งคนข้ามถนนเอง เมื่อตัดสินใจจะข้ามถนนแล้ว นอกจากจะต้องดูรถอย่างระวังแล้ว ก็ให้คุณเดินข้ามไปเลย เพราะคนขับที่มีเซนต์การขับระดับมหาเทพ จะรู้เองว่าพวกเขาต้องหลบหลีกหรืออ้อมตัวเราไปเอง

สิ่งที่อย่าหาทำช่วงข้ามถนนคือเมื่อข้ามไปแล้ว อย่าคิดจะถอยหลังหรืออย่ายึกยักเป็นอันขาด ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะจนโดนรถชนได้รับบาดเจ็บได้ง่ายๆ

ยังมีวิถีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวเวียดนามอีกมากมาย ที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน เอาไว้คราวหน้าจะมาเล่าให้ฟังอีกครับ

## อาร์ชาวอน ##