@เรื่องของ “ปากท้อง” กับเรื่องของ “กฎหมาย” ที่สุดท้าย “กฎหมาย” ก็ทำอะไรไม่ได้กับ การที่ ประชาชนจำนวนมาก ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ยึดอาชีพ “ขายน้ำมันเถื่อน” ซึ่ง “ลักลอบ” นำเข้ามาจากประเทศมาเลเซีย แบบ “ตัวเล็ก” ก็ ขายแบบ “เล็กๆ” คือ บรรจุขวดขาย ในตลาด ริมถนน มี “ลูกค้า” เป็น ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ เป็น “ขาประจำ”….ส่วน “ตัวใหญ่” ก็ บรรจุ “แกลลอน” ขนาด 5 ลิตร 10 ลิตร ขายให้กับ “รถเก๋ง” และรถ “กระบะ” ส่วนที่ใหญ่กว่านั้น ก็เปิด “คอก” ขายให้กับ “รถบรรทุก” นี่คือ สถานการณ์ “การค้า” น้ำมันเถื่อนระดับ “ประถม” ในพื้นที่ จ.สงขลา, นราธิวาส, ยะลา, ปัตตานี และ สตูล…ส่วนระดับ “มัธยม” คือ ขบวนการ “รถหัวลาก” ที่วิ่งระหว่างประเทศ ที่ “ลักลอบ” นำน้ำมันเถื่อน เข้ามา “ส่งขาย” ให้กับ “พ่อค้าคนกลาง” และ โรงงาน “อุตสาหกรรม” และถ้าเป็น ระดับ “มหาวิทยาลัย” คือ “เรือประมงดัดแปลง” ที่ขนน้ำมันเถื่อนทางทะเล มาขายให้กับ “ผู้ค้าน้ำมันเถื่อนบนบก” โดยมีการ “ขนถ่าย” ด้วยรถบรรทุกน้ำมัน 10 ล้อ และ 6 ล้อ รวมทั้ง “หัวลาก” ในหลายจังหวัดของ “อ่าวไทย” ตั้งแต่ จ.นราธิวาส, สงขลา, นครศรีธรรมราช และ สุราษฎร์ธานี และยิ่ง “น้ำมัน” ในประเทศไทย แพงมากเท่าไหร่ น้ำมันเถื่อนจากประเทศ มาเลเซีย, สิงคโปร์ ก็จะ “ทะลัก” เข้ามามากขึ้น เพราะ ประชาชน และ ผู้ประกอบการ ต้องการใช้ “น้ำมันราคาถูก” นั่นคือ “น้ำมันเถื่อน” ซึ่งคงต้องถามตั้งแต่ อธิบดีกรมศุลกากร, อธิบดีกรมสรรสามิต และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. (สส.2) ผู้รับผิดชอบการ “ปราบปรามน้ำมันเถื่อน” (หน.ศ ตร.ปนม.) ว่าจะดำเนินการอย่างไร กับสถานการณ์ การค้าน้ำมันเถื่อนที่เกิดขึ้น ผู้ใช้น้ำมันได้ประโยชน์ “แค่กระจุก” แต่ประเทศชาติเสียหายเท่าไหร่….

@ยกระดับความเป็น “สากล” ขึ้นเรื่อยๆ คือ ขบวนการ “พูดคุยสันติสุข” ระหว่าง พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ หัวหน้าคณะ “พูดคุยสันติสุข” ฝ่ายไทย กับ นายหิพนี มะเระ หัวหน้าคณะ “เจรจาสันติภาพ” ที่เป็น “ตัวแทน” ของ ขบวนการ “บีอาร์เอ็น” ซึ่งล่าสุด พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ จะนำ “พล.ต.อ.โมฮัมมัด นูร์” อดีต ผบช.ตำรวจสันติบาล มาเลเซีย ซึ่งทำหน้าที่ “ผู้อำนวยความสะดวก” ในการ “พูดคุย” เพื่อเข้าพบกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และคณะ เพื่อการ “หารือ” ถึงความ “คืบหน้า” ของโต๊ะ “พูดคุยสันติสุข” ซึ่งข่าวว่า “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี “ไม่ปลื้ม” กับปรากฏการณ์ของ “เยาวชนปาตานี” จำนวน “เรือนหมื่น” ที่ชุมนุมกันหลังวัน “อิดิ้ลฟิตรี” ในฟื้นที่ “หาดวาสุกรี” อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เพื่อประกาศ “วันเยาวชนปาตานี” เพราะ “รายงาน” จาก “กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าไม่เคลียร์” ซึ่งก็ต้องติดตามต่อไปว่า หลังการ “พบกัน” ระหว่าง “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” กับ “พล.ต.อ.โมฮัมมัด นูร์” จะมีอะไรที่เป็น “พิเศษ”….แต่ที่คนไทยควรรู้คือ วันนี้ตัวแทนของ “รัฐบาล” ได้ไป “ลงนาม” ในข้อตกลงที่เป็น “เงื่อนไข” ที่ “บีอาร์เอ็น” เป็นผู้กำหนด นั่นคือ ในการ “เจรจา” ของ 2 ฝ่าย จะต้องมีตัวแทนจาก “องค์กรสันติภาพ” ของ “ชาติตะวันตก” ร่วมเป็น “สักขีพยาน” ซึ่งผิดไปจาก “วัตถุประสงค์” เดิมๆ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เคยสั่งการกับ “คณะพูดคุย” ห้าม “ลงนาม” ในข้อ “ตกลง” ที่เป็นการ “ยกระดับ” จากการ “พูดคุยสันติสุข” ไปสู่การ “เจรจาสันติภาพ” แต่หลังจากที่มีการ “ลงนาม” ตาม “เงื่อนไข” ของ “บีอาร์เอ็น” วันนี้ “การพูดคุย” ไม่ใช่การ “พูดคุยสันติสุข” แต่เป็นการ “เจรจาสันติภาพ” ตามหลัก “สากล” ที่ “สอดคล้อง” กับ “เงื่อนไข” ของ “สหประชาชาติ” หรือ “UN” เรียบร้อยโรงเรียนฝรั่ง ไปแล้ว ดังนั้นไม่ต้องบอกก็รู้ว่า การ “เจรจา” ต่อไปนี้ ใครเป็น “เบี้ยล่าง” และใครที่เป็น “เบี้ยบน” นั่นเป็น “ประเด็น” ของ “โต๊ะเจรจา” ที่มี “มาเลเซีย” เป็นผู้อำนวยความสะดวก ก็ให้ติดตามกันให้ดี เพราะ “หมิ่นเหม่” กับการ “เสียรู้ฝรั่ง” และ “บีอาร์เอ็น” ยิ่งนัก…

@และการ “ขับเคลื่อน” ภายในพื้นที่ 3 จังหวัด 4 อำเภอของ จ.สงขลา เพื่อแก้ปัญหา “ความไม่สงบ” ก็กำลังจะถูก “ฝรั่งครอบงำ” โดยเข้ามาเป็นผู้กำหนด “เกม” ในการ “ขับเคลื่อน” โดย “องค์กรกาชาดระหว่างประเทศ” หรือ “ICRC” ที่มีกำหนดการ นำ “นายพล” และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ “สมช.” เดินทางไป “ศึกษาดูงาน” เกี่ยวกับการ “เจรจาสันติภาพ” ณ เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่เป็นที่ตั้ง หรือ “สำนักงานใหญ่” ของ “องค์กรกาชาดระหว่างประเทศ” โดย “ICRC” จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด เกมนี้จึงเป็นการเดิน “เข้าทาง” ของ “ต่างชาติ” ที่เข้ามาเพื่อ “แทรกแซง” การดับ “ไฟใต้” ของหน่วยงานความมั่นคง ทำไมการดับ “ไฟใต้” จึงต้องให้ “ฝรั่งต่างชาติ” เป็นผู้ออกแบบ 18 ปี ที่ผ่านมา หน่วยงานความมั่นคงของไทย ยังไม่ “ตกผลึก” กับปัญหา “ไฟใต้” หรืออย่างไร และทำไมไม่ไปย้อนกลับไปดู “ประวัติศาสตร์” ว่า ทุกประเทศที่มีขบวนการแบ่งแยกดินแดน และให้ “องค์กรจากชาติตะวันตก” เข้ามา “จัดการ” จุดจบคือการ “เสียดินแดน” เช่น “ติมอร์เลสเต” และ “อาร์เจะ” ของ อินโดนีเซีย และที่ยัง “วุ่นวาย” อยู่อย่าง “มินดาเนา” ประเทศฟิลิปปินส์ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. และ พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ต้องมีการ “ทบทวน” นโยบายของการเดิน “ตามก้นฝั่งชาติตะวันตก” ในการดับ “ไฟใต้” ของประเทศ ….

@เห็นด้วยนะกับการที่ พล.ท.ธิรา แดหวา แม่ทัพน้อยที่ 4 และ ผอ.ศูนย์สันติวิธี กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เรียกกลุ่มก้อนของ “ภาคประชาสังคม” ที่เป็นผู้ “จัดงานวันเยาวชนปัตตานี” มา “พูดคุย” ทำความเข้าใจในการ “กิจกรรม” ที่มีหลายอย่าง “หมิ่นเหม่” กับเรื่องการการทำผิด “กฎหมาย” ที่อาจจะเข้าข่ายของการเป็น “อั้งยี่ ซ่องโจร” รวมทั้งการที่ปล่อยให้ “แนวร่วมบีอาร์เอ็น” เข้ามา “แทรกแซง” โดยอาศัยการชุมนุมของคนหมู่มาก ซึ่งเมื่อได้ทำความเข้าใจกันแล้ว ถ้าภายภาคหน้ายังมี “กิจกรรม” ที่เข้าข่ายเป็น “ภัยความมั่นคง” จะได้ไม่มีการ “กล่าวหา” ว่า หน่วยงานความมั่นคง ใช้กฎหมายโดยไม่ชอบ เป็นการ “ละเมิด สิทธิเสรีภาพ” ของประชาชน ส่วนเมื่อมีการ “พูดคุยทำคความเข้าใจ” และจะ “ป้องปราม” ได้แค่ไหน หรือ “ฟัง” แต่ “ไม่เชื่อ” เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์….

@ยิ่งจับยิ่งเยอะ คือแรงงานชาว “เมียนมา” ที่หลบหนีเข้าเมืองจาก “ภาคเหนือ” และ “ภาคใต้ตอนบน” รวมทั้งพื้นที่ภาคอีสาน ที่อยู่ติดชายแดนเพื่อนบ้าน โดย “ปลายทาง” อยู่ที่ประเทศ “มาเลเซีย” การแก้ปัญหาเรื่องนี้มี 2 แนวทาง แนวทางที่ 1 หน่วยงานความมั่นคง และกระทรวงการต่างประเทศ คุยโดยตรงกับ รัฐบาล มาเลเซีย ในการร่วมมือกัน “จับกุม” ผู้ลับลอบหนีเข้าเมือง แนวทางที่ 2 อนุญาตให้เข้าประเทศอย่างถูกต้อง จ่ายค่าธรรมเนียมถูกกฎหมาย โดยไม่ต้องจ่ายค่า “นายหน้า” ให้ขบวนการค้าแรงงานเถื่อน หัวละ 20,000-30,000 บาท ให้พาหลบหนีเข้าประเทศ เมื่อเข้ามาแล้ว ใครจะเดินทางไปทำงานใน มาเลเซีย ก็ดำเนินการตามกฎหมายแรงงาน หรือจะ “หลบหนี” เข้าเมือง ก็เป็นเรื่องของ “มาเลเซีย” เพราะวิธีการ “เล่นซ่อนหา” หรือ “ตำรวจจับขโมย” อย่างที่เป็นอยู่ทุกวัน ไม่สามารถแก้ปัญหาได้แน่นอน ยิ่งจับมาก “รัฐบาล” ยิ่งเปลืองงบประมาณ ในการ “เลี้ยงดู” ก่อนที่จะ “ส่งกลับ” ประเทศ หรือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เห็นเรื่องนี้เป็นเรื่อง “จิ๊บจ๊อย” เป็นเพียงปัญหาประจำถิ่น หรืออยากจะให้เกิด “ค่ายกักกัน” อย่างที่เคยเกิดขึ้นกับ “โรฮีนจา” ที่ อ.สะเดา จ.สงขลา อีกครั้ง หรือรอให้ “ต่างชาติ” กลับมา ขึ้น “บัญชีดำ” เรื่อง “ค้ามนุษย์” อีกครั้ง จึงจะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้….

@หลังการ “คลี่คลาย” ของ “โควิด-19” สิ่งสำคัญคือการที่ทุกฝ่ายต้องเร่ง “ฟื้นฟู” เศรษฐกิจของประเทศให้กลับมา “เดินได้” อีกครั้ง “รัฐบาล” สั่งการให้ “ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้” (ศอ.บต.) ประชุม พบปะ พูดคุย กับ “ผู้นำ” ทุกภาคส่วนของ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อรับฟังสถานการณ์ การค้า, การลงทุน, การท่องเที่ยว, เกษตร, ประมง และอื่นๆ พร้อมทั้งข้อเสนอแนะในการ “ฟื้นฟู” เศรษฐกิจ, การท่องเที่ยว ทั้งในระยะสั้น และระยะยาว เพื่อนำเสนอ ประเด็นของ “ปัญหา” และ “ทางออก” จากปัญหา โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายคงวามมั่นคง และประธานยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ซึ่งจะเดินทางมารับฟังความเห็น และพบปะ ผู้นำ องค์กรต่างๆ ด้วยตนเอง ในวันที่ 8 มิถุนายน ศกนี้ ณ ห้องประชุมโรงแรมบุรีศรีภูฯ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา…. ส่วนจะมีเรื่องของ “การเมือง” และการ “เลือกตั้ง” ครั้งหน้า “แอบแฝง” อยู่หรือไม่ อย่าไปสนใจ ให้มากความ ถ้าเสนอความเห็น ความต้องการแล้ว รัฐบาล “ฟังหูซ้าย ทะลุหูขวา” ก็ค่อยว่ากันอีกที  การเลือกตั้งอยู่ไม่ไกล “พรรคการเมือง” ที่ “หัวหน้าพรรค” ที่ทำตัวเป็น “ลิงหลอกเจ้า” ครั้งหน้า ก็ลงโทษอย่าให้มี “ส.ส.” ในพื้นที่….

@ส่วนที่ จ.สงขลา ศอ.บต. เสนอแผนในการ “ฟื้นฟู” จังหวัดด้วยการเปิด “สถานบันเทิง 24 ชั่วโมง” และ เร่ง “สร้างความเชื่อมั่น” ในการให้นักท่องเที่ยว กลับมาเหมือนเดิม ส่วนในระยะยาวคือการให้ จ.สงขลา เป็น “เมืองปลอดภาษี” หรือ “ดิวตี้ฟรีโซน” ซึ่ง ปรากฏว่า คนสงขลา ให้การ “ตอบรับ” แต่ รัฐบาล จะทำได้หรือเปล่ายังไม่รู้ เพราะระบบ “ราชการไทย” อืดอาด อุ้ยอ้าย ยิ่งกว่า “เรือเกลือ” องค์กรเอกชนเขาไม่มั่นใจกับระบบ “ราชการ” นี่แหละ…เรื่อง เปิดสถานบันเทิง 24 ชั่วโมง หรือปิดตอนตี 4 ก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะทุกวันนี้ ในเมือง “ท่องเที่ยว” อย่าง “หาดใหญ่” ไม่มีสถานบันเทิงที่ไหน ปิดตามที่ “กฎหมาย” กำหนด โดยการ “จ่ายส่วย” ให้กับ “โรงพัก” และ “ฝ่ายปกครอง” ในเวลาที่เปิดเกิน ถ้า “กฎหมาย” ให้เปิดถึงตี 4 “ส่วยสาอากร” ที่เป็น “ภาษีเถื่อน” ก็จะหายไปด้วย….และ “ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา” ดร.ธนวัฒน์ พูลศิลป์ เห็นด้วยกับเกิดขึ้นของ “นิคมอุตสาหกรรม” หรือ “เมืองต้นแบบที่ 4” ที่ อ.จะนะ จ.สงขลา ที่ “เอ็นจีโอ” ยังรวมตัวกัน “คัดค้าน” โดยหอการค้าและเครือข่าย 19 องค์กร พร้อม “ขับเคลื่อน” ให้เกิด “นิคมอุตสาหกรรม” แห่งนี้ เพราะเห็นว่าเป็น “หนทาง” ในการ “ฟื้นฟู” เศรษฐกิจให้เติบโตได้ทั้ง 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้  แต่.. มี “ข้อแม้” คือ “หอการค้า” จะช่วย “รัฐบาล” ก็ต่อเมื่อ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องดำเนินการในเรื่อง “กฎหมายสิ่งแวดล้อม” ให้แล้วเสร็จ และถูกต้องตามกฎหมายก่อน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหน เพราะหน่วยงาน “ราชการ” ทุกหน่วย ถ้าไม่เป็น “เรือเกลือ” ก็เป็นเรือ “เอี่ยมจุ้น” เพราะการทำงานของ “ข้าราชการ” จะช้า หรือเร็ว ไม่มีผลกระทบกับ “รายได้” ผิดกับ นักลงทุน นักธุรกิจ ที่ ช้า 1 วัน หมายถึง เสียหาย 1 วัน ส่วนผู้ “รับกรรม” คือประชาชน ที่ไม่สามารถ “ลืมตาอ้าปาก” กับความ “ล่าช้า” ในการ พัฒนาประเทศ….

@การ “ฟื้นฟู” เมือง “หาดใหญ่” และเมือง “สงขลา” ยังมองเห็น “ช่องทาง” แต่การ “ฟื้นฟู” เมือง “ด่านนอก” เทศบาลตำบล “สำนักขาม” อ.สะเดา จ.สงขลา ที่เป็น “เมืองชายแดน” ไทย-มาเลเซีย ยังเป็น “โจทย์” ใหญ่ของ ศอ.บต.และของผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เพราะ “ด่านนอก” ในอดีตก่อนที่จะมี “โควิด-19” ง่อนแง่น เต็มที เพราะ “จุดขาย” ของ “ด่านนอก” เป็น “ธุรกิจ” ที่ถ้าไม่ “ดำ” ก็เป็น “เทา” คือสถานบันเทิงที่มีเรื่อง “ค้ามนุษย์” กับเป็นเป็นแหล่งรวมของ “ยาเสพติด” และ “บ่อนการพนัน” ถ้า ปราศจาก 3 อย่างที่เขียนมา ชาวมาเลเซียก็จะไม่เข้ามาท่องเที่ยว และผลกระทบจาก “โควิด-19” ที่ทำให้ “เศรษฐกิจ” ของคน “มาเลเซียตกต่ำ” และผู้คน “ยากจน” ลง เหมือนกับทุกประเทศ ทำให้ “นักท่องเที่ยว” เข้ามาน้อยมาก …ที่ “ชี้ชัด” คือ หลังจากที่มีการ “เปิดพรมแดน” ของทั้ง 2 ประเทศ จำนวนชาวมาเลเซีย ที่เข้ามา “ท่องเที่ยว” ที่ “ด่านนอก” ยัง “นับหัว” ได้ในแต่ละวัน ที่สำคัญ “เจ้าภาพ” ที่จะเข้ามา “แก้ไข” ไม่รู้ว่าจะเป็น องค์กรไหน ถ้าจะหวังพึ่งจังหวัดก็ยากกว่า “เข็นครกขึ้นภูเขา” เพราะ เจษฎา จิตรัตน์ “พ่อเมือง” สงขลา ไม่ “หือไม่อือ” กับเรื่องการ “ฟื้นฟู” เมืองแต่อย่างใด และที่สำคัญ เมือง “ด่านนอก” โตได้ อยู่ได้ด้วยธุรกิจ “ผิดกฎหมาย” ผู้รักษา “กฎหมาย” ทุกหน่วยงาน จึง “มะรุมมะตุ้ม” ในการแสวงหาผลประโยชน์ เคยมีการเข้า “จับกุม” ร้าน “คาราโอเกะ” ยึดได้ “สมุดส่งส่วย” พบว่ามี หน่วยงานของรัฐ “รับส่วย” 19 หน่วยงาน แม้แต่ “ตำรวจน้ำ” ซึ่งไม่มี “หน้าที่” ยังมีรายชื่อในการ “รับส่วย”….

@และ ผบช.ตม.ทราบหรือไม่ว่า “ตู้ตรวจคนเข้าเมือง” ยังมีการ “ประมูล” กันวันละ 3,500 บาท เพื่อการแสวงหาผลประโยชน์จาก “คนมาเลเซีย” ที่ต้องการ “เข้าเมือง” โดย “ผิดกฎหมาย” ไม่ต้องใช้ “หนังสือเดินทาง” โดยมีกลุ่ม “นายหน้า” เป็นผู้ดำเนินการเพื่อแบ่งผลประโยชน์ร่วมกัน ดังนั้นถ้าจะ “ฟื้นฟู” เมืองชายแดนอย่าง “ด่านนอก” ให้กลับมา “เกิดใหม่” ทางเดียวที่ทำได้คือ ให้ “ด่านนอก” เป็นเมือง “ปลอดกฎหมาย” โดยให้ ธุรกิจการ “ค้ามนุษย์” และ “ยาเสพติด” กลับมา “เบ่งบาน” อีกครั้ง ก็ต้องถาม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา มท.1 และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ว่าจะ ยอมมั้ย และคุ้มมั้ย ….ขนาด ธุรกิจ “สีดำ” และ “สีเทา” ยังฟื้นไม่เต็มที่ ยังมี “นักบิน” จาก “ส่วนกลาง” ที่อ้างว่ามาจาก “ตม.สวนพูล” ชื่อ พ.ต.อ. “ช.” มี “หัวเบี้ย” ชื่อ “จ่าหมึก” และ “จ่าสอน” เดินสายเก็บ “ส่วย” จากร้านค้า ที่ขาย “บุหรี่นอก” ใน จ.สงขลา ที่มีกันทุกอำเภอ รวมทั้ง “บ่อนพนันออนไลน์” และ “โต๊ะพนันฟุตบอล” บางราย “หัวดื้อ” ถูกอุ้มไปรีดใน “เซฟเฮาส์” เอ้า ผบก.ตม.6 ที่รับผิดชอบพื้นที่ภาคใต้จะ “จัดการ” กับ “นักบิน” กลุ่มนี้อย่างไร ก็อย่าช้า มัน “เสื่อมเสีย” ถึงเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ เขาด้วย….

@เพราะความมักง่าย และไม่ “รอบคอบ” เจ้าหน้าที่สรรพสามิต จ.นครศรีธรรมราช ที่นำโดย เพิ่มพล อรุณพันธุ์ นักวิชาการสรรพสามิตปฏิบัติการ และ สุรินทร์ แก้วซัง สรรพสามิตพื้นที่สาขาทุ่งสง พ.ต.ท.เหมจักร บุนนาค รอง ผกก.สส.ศปทส. ที่เข้าตรวจยึดรถบรรทุกน้ำมันของปั๊มแห่งหนึ่งใน อ.จุฬาภรณ์ ในข้อหาค้า “น้ำมันเถื่อน” จึงถูกแจ้งความกลับจาก “นายทุน” ว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เข้าตรวจค้นโดยไม่มีหมายค้น และจับกุมพร้อมให้จ่ายค่าปรับ “สามแสนกว่าบาท” โดยที่ไม่ได้นำน้ำมันไป “ตรวจสอบ” ว่าเป็น “ของเถื่อน” หรือของ “ถูกต้อง” มีเพียงคำให้การของ “พนักงานขับรถน้ำมัน” ว่าเป็น “น้ำมันเถื่อน” เพราะเคยตัวกับการจับกุมผู้ค้า “น้ำมันเถื่อนแบบง่ายๆ” และเพราะใช้วิธีการให้ “จ่ายค่าปรับ” อย่างรวดเร็ว โดยหลังจ่าย “ค่าปรับ” มีการ “คืนรถและน้ำมัน” ให้เจ้าของปั๊มนำไป “จำหน่าย” เมื่อถูกฟ้อง จึงไม่มี “หลักฐาน” ที่เป็น “ของกลาง” เพื่อแสดง งานนี้ข่าวว่ามีการ “วิ่งเคลียร์” ที่ต้อง “จ่ายคืน” เป็น 3 เท่าของเงิน “ค่าปรับ”….

@คดีรถ “จักรยานยนต์” ที่ถูก “โจรกรรม” ในพื้นที่ปัตตานี, ยะลา และนราธิวาส มีตัวเลขที่สูงขั้นแบบ “มีนัย” ว่า เป็นการ “โจรกรรม” ไปขายต่อ หรือเป็นการ “ชำแหละ” เพื่อขาย “อะไหล่” หรือเป็นการนำไปเพื่อทำเป็น “จยย.บอมบ์” เรื่องนี้ฝากให้ พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9. ติดตามความผิดปกตินี้ด้วย…..ส่วนอีกเรื่อง อาวุธสงคราม 20 กระบอก ของ กองร้อย อส. อ.เมือง จ.นราธิวาส ที่ถูก “โจรกรรม” ไป ผ่านไปแล้ว 2 ปี คดียังไม่คืบหน้า จับได้ผู้ต้องหาที่เป็น “อส. เพียง 1 คน” วันนี้อาวุธปืนตกอยู่ใน “มือใคร” ไม่มีคำตอบ คดีนี้มี “เงื่อนงำ” เพราะทุกฝ่าย ทั้ง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า, ตำรวจ และโดยเฉพาะฝ่าย “ปกครอง” ที่เป็น “ผู้เสียหาย” เงียบฉี่ เหมือน “ไม่อะไรในกอไผ่” เรื่องนี้ต้องรบกวน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้ “ลงแส้” เพื่อหาข้อเท็จจริงให้ได้…..เช่นเดียวกับเรื่องที่ “ฝ่ายปกครอง” อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ออกใบอนุญาตในการ “ซื้อปืน” ให้กับพ่อค้ายาเสพติด “รายใหญ่” ระดับชาติจำนวน 35 กระบอก วันนี้ ประชาชน สอบถามมาว่า เรื่องนี้มีการ “สืบสวนสอบสวน” ข้อเท็จจริงไปถึงไหนแล้ว มีคน “ทำผิด” หรือไม่ หรือทุกเรื่องใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่มีอะไร “ในกอไผ่” จริงๆ โดยเฉพาะ ผู้ที่เป็นผู้ให้ “อนุญาต” วันนี้ได้เลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง เพราะเป็น “มวยสร้าง” ของ “ผู้ใหญ่” ใน “กรมการปกครอง” จริงหรือไม่….

@กฎหมายใหม่ของ ป.ป.ช. ที่หลังจาก “ชี้มูล” ว่า “นักการเมืองทุจริต” ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องมีคำสั่งให้ผู้ถูกชี้มูลพ้นจาก “ตำแหน่ง” ทันที โดยไม่ต้องรอคำ “พิพากษา” ให้ถึงที่สุด กำลังเป็น “ปัญหา” ที่ติดตามมา เพราะถ้าคำพิพากษาถึงที่สุด “นักการเมือง” ที่ถูก “ชี้มูล” ไม่ผิด จะ “เยียวยา” อย่างไร ในเมื่อ ตำแหน่งของเขา มีการเลือกตั้ง “คนอื่น” ที่ได้รับการ “เลือกตั้ง” ตาม “กฎหมาย” จากการเลือกตั้งใหม่ของ กกต.ไปแล้ว…เช่น กรณีของ เกชา เบญจคาร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ที่ยื่นคำฟ้องต่อ “ศาลปกครอง” ให้ “เพิกถอน” คำสั่งให้พ้นจาก “ตำแหน่ง” ของ นายเจษฎา จิตรัตน์ ผวจ.สงขลา ที่สั่งให้พ้นจาก “ตำแหน่ง” ซึ่งคดีนี้จะเป็น “คดีตัวอย่าง” ที่นักการเมืองรอว่า “ศาลปกครอง” จะ “พิพากษา” อย่างไร….  

@ข่าวเศร้า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว “พิบูลย์ธรรมศักดิ์” ที่ต้องสูญเสีย “โกกิ้ม พิบูลย์ธรรมศักดิ์” อดีตประธานชมรมสื่อมวลชนจังหวัดตรัง เจ้าภาพตั้งศพบำเพ็ญกุศล ณ สมาคมฮกเกี้ยน ศาลา 1 อ.เมือง จ.ตรัง พี่น้อง ผองเพื่อน “สื่อมวลชน” ไปร่วมแสดงความอาลัยถ้วนหน้า…. แล้วพบกันใหม่วันศุกร์หน้าครับ

———————————————————— 

ไชยยงค์ มณีพิลึก 

พลิกชีวิตเด็กพิเศษ…    พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) มอบอุปกรณ์ช่วยชีวิตเด็กพิเศษ จำนวน 30 ครอบครัว ณ ศูนย์เขตการศึกษา 3 ต.บุดี อ.เมืองยะลา พร้อมพูดคุยกับเด็กๆและผู้ปกครองที่แสดงความดีใจกับการได้รับอุปกรณ์เพื่อพลิกชีวิตใหม่ 

กีฬาเป็นยาวิเศษ…   นิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย และคณะ ร่วมชมการฝึกซ้อมกีฬาฟุตบอลและชนิดกีฬาอื่นๆ ของนักกีฬา รร.อบจ.สงขลาพิทยานุสรณ์ ณ สนามกีฬา รร.เกาะตัวพิทยาสรรค์ ต.เกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขลา โดยมี นางสาวมัสกะห์ เจะแม็ง ผู้อำนวยการสถานศึกษา และผู้ฝึกสอนให้การต้อนรับ พร้อมให้โอวาทและจะสนับสนุนกีฬาฟุตบอลสู่การแข่งขันในระดับที่สูงขึ้น 

รับฟังความคิดเห็น…   ไพเจน มากสุวรรณ์ นายก อบจ.สงขลา เชิดเกียรติ เมธีลักษณ์ ที่ปรึกษา นายก อบจ.และคณะ รับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาสังคม ในการทำแผนแม่บทส่งเสริมการท่องเที่ยว 1 อำเภอ 1 สถานที่ท่องเที่ยว ณ ห้องประชุมโรงแรมบุรีศรีภูฯ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 

จับไม่หมด…   พ.ต.อ.พงษ์ปณต ชูแก้ว ผกก.กก.6 บก.ป. นำกำลังจับกุม ขบวนการค้ามนุษย์ ขณะเตรียมลักลอบข้ามพรมแดนไปยังประเทศมาเลเซีย บริเวณบ้านตันหยงมะลิ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ได้ผู้ต้องหาชาวเมียนมา 75 คน รถยนต์ 3 คัน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป 

รางวัลผู้ชนะ…    พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นประธานในกิจกรรมมหัศจรรย์สื่อสร้างสรรค์ พร้อมมอบรางวัลชนะการแข่งขันการประกวดร้องเพลงชาติไทย ณ ห้องประชุมชั้น 2 ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) 

จักรยานสานฝัน…    พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 มอบจักรยานตามโครงการสานฝัน ปันสุข และ ถุงยังชีพเพื่อการศึกษา ให้กับน้องๆ โรงเรียนราชพัฒนา อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส 

ปลุกสำนึก…   พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผบก.ภ.จว.ยะลา จัดกิจกรรม วันต้นไม้ประจำปีของชาติ พ.ศ.2565 เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก มีข้าราชการตำรวจ 200 นาย ปลูกต้นไม้ 200 ต้น รอบกองบังคับการ ฉก.911 ต.ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา 

ความสำเร็จ…    พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. พล.ต.ต.ปราโมทย์  พรหมอินทร์ รอง ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ตัวแทนแม่ทัพภาคที่ 4 ร่วมแถลงถึงความสำเร็จ ของการจัดงานวิ่ง Trail ระดับโลก ที่ อ.เบตง จ.ยะลา และเตรียมจัดงานสนามที่ 2 วิ่งข้ามพรมแดนไทย-มาเลเซีย ในเดือน ก.พ.66 ณ ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล 

สัมมนาสู่ชัยชนะ…    นิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย เป็นประธานเปิดสัมมนา ผู้สมัคร ส.ส.และกรรมการสาขาพรรค เขต 3 สงขลา และแกนนำระดับตำบล หมู่บ้าน เพื่อเตรียมพร้อมการเลือกตั้ง ณ โรงแรมต้นอ้อย อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 

แม่บ้านทหารบก…   คุณสมฤดี ขำเขียว ประธานแม่บ้านทหารบก สาขากองพลทหารบกที่ 15 เยี่ยมชมกิจกรรมของแม่บ้านหน่วยขึ้นตรง ตามนโยบาย “เราคือครอบครัวเดียวกัน” ณ สมาคมแม่บ้านสาขากองพันที่ 3กรมทหารราบ 151 อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส 

จับมือพัฒนา…   สุชาติ พรมสวัสดิ์ นายก อบต.ทำนบ ได้ร่วมประชุมวางแผนการก่อสร้างสะพานห้วยแง่ง หมู่ 1 บ้านหนองโด ต.รำแดง ที่ชำรุดพร้อมด้วย สมมาตร  แก้วมณี นายก อบต.รำแดง ร่วมประชุมกันที่ห้องประชุม อบต.รำแดง อ.สิงหนคร จ.สงขลา โดยมีท้องถิ่นอำเภอเป็นประธาน 

วันเกษตร…   สายัณห์ สวัสดิ์ยานนท์ นายก อบต.แดนสงวน อ.ระโนด จ.สงขลา และผู้บริหารท้องถิ่น ร่วมกันจัดงานวันเกษตรกรเพื่อส่งเสริมอาชีพให้กับเกษตรเพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น 

ติดตามเรื่อง…   มนต์ชัย หนูสาย นายอำเภอหาดสำราญ จ.ตรัง ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีชาวบ้านตะเสะ ร้องเรียนจังหวัดว่า มีเจ้าหน้าที่บุกรุกทำลายทรัพยสิน ข้อหาบุกรุกป่าชายเลน โดยรับปากว่าจะให้ความเป็นธรรมกับประชาชนผู้ร้องเรียน 

สภากาแฟ…    พงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร สมาชิกสภา ลงพื้นที่บริเวณใต้อาคารศรีนิบงศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา เขตเทศบาลนครยะลา อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา ร่วมพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการพัฒนาบ้านเมืองในยุคปัจจุบัน เพื่อให้มีความเจริญก้าวหน้าทางด้านเศรษฐกิจ-สังคม-การศึกษา เทียบเท่าเมืองใหญ่ และรับประทานอาหารเช้า เครื่องดื่มชา-กาแฟ และตรวจสุขภาพอีกด้วย 

แบ่งปันสุข…  โอฬาร บิลสัน นายอำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี และทีมงาน ได้ลงพื้นที่ฐานปฏิบัติการ ชุดคุ้มครองตำบลบางปู อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่โครงการฯและสมาชิก อส.ชค. ต.บางปู ในการนี้ ได้กำชับการปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในการปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุขและได้มอบของบริโภคให้แก่กำลังพล เพื่อเป็นขวัญกำลังใจต่อไป 

พัฒนาศักยภาพ…    ศรัทธา คชพลายุกต์ รองเลขาธิการ ศอ.บต.เป็นประธานเปิดกิจกรรม พัฒนาศักยภาพบัณฑิตอาสาเพื่อพัฒนามาตุภูมิ ณ โรงแรมบีพีแกรนด์ทาวเวอร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 

มหกรรมคุณภาพ…  เอกณัฏฐ์ สังขพันธ์ นายอำเภอรามัน จังหวัดยะลา พร้อมทีมงาน ไปที่ห้องประชุมโรงพยาบาลรามัน อำเภอรามัน จังหวัดยะลา ให้เกียรติร่วมงานมหกรรมคุณภาพโรงพยาบาลรามัน เพื่อให้บุคลากรมีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับกิจกรรมพัฒนาคุณภาพ และเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภายในองค์กร รวบรวมผลงานในรอบปีที่ผ่านมาอีกด้วย