“บุพเพสันนิวาส (2561)” ถือเป็นละครไทยที่ดังที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการละครโทรทัศน์ประเทศไทย สามารถครองเรตติ้งยาวนานแบบข้ามเดือนข้ามปี ได้รับความนิยมชมจากแฟนละครทุกเพศทุกวัย สถานที่ท่องเที่ยวเกี่ยวข้องกับเรื่องราวในละคร ต่างเต็มไปด้วยผู้คนพากันไปท่องเที่ยวถ่ายรูปชนิดมืดฟ้ามัวดิน รวมไปถึงปรากฏการณ์ “ออเจ้า” ที่เหล่าหนุ่ม-สาว ต่างนิยมแต่งกายชุดไทย ไปยังสถานที่ต่าง ๆ ความปังของละครยังไม่จบแค่นี้ เมื่อผู้จัดพร้อมจะเดินหน้าถ่ายทำ “บุพเพสันนิวาส 2” ทำเอาเหล่าคอหนังต่างลุ้นว่าจะได้ชมกันเมื่อไหร่ จนกระทั่ง บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จับมือกับ GDH ประกาศฉาย “บุพเพสันนิวาส 2” ในวันที่ 28 ก.ค.65 นี้ สร้างความดีใจให้แก่แฟนคลับเป็นอย่างยิ่ง

เรื่องย่อ บุพเพสันนิวาส 2

“เมธัส” (รับบทโดย ไอซ์-พาริส อินทรโกมาลย์สุต) หนุ่มลูกครึ่งสุดหล่อ จู่ ๆ เขาก็ย้อนอดีตมายังสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ด้วยปืนโบราณ จนมาเจอเข้ากับ “ภพ” (โป๊ป) และ “เกสร” (เบลล่า) รวมทั้งบุคคลในประวัติศาสตร์อีกหลายท่าน “เมธัส” ได้ขอให้ทั้งสองช่วยหาหนทางให้เขากลับไปยังโลกในอนาคต (2564) แต่ระหว่างนั้น พวกเขาได้ไปเจอกับ สมุดบันทึกของ “คุณหญิงการะเกด” ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวหน้าประวัติศาสตร์เอาไว้มากมาย โดยหนึ่งในนั้น มีเรื่องราวการซื้อขายเรือกลไฟที่กำลังมีเงื่อนงำบางอย่างซ่อนอยู่ และอาจไม่เป็นไปตามหน้าประวัติศาสตร์ ทั้งสามจึงต้องร่วมมือกันทำภารกิจบางอย่าง เพื่อให้ประวัติศาสตร์คงเรื่องราวไว้เช่นเดิม


จุดแข็ง “บุพเพสันนิวาส 2”

อย่างที่เกริ่นไว้แต่แรกแล้วว่า เรื่องนี้เป็น หนังรัก (โรแมนติก+ย้อนยุค+คอมเมดี้) ซึ่งได้ผู้กำกับมากฝีมืออย่าง “ปิ๊ง-อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม” เจ้าของผลงาน แฟนฉัน รถไฟฟ้า..มาหานะเธอ น้ำตากามเทพ มารับหน้าที่กุมบังเหียน สร้างจักรวาลหนังบุพเพขึ้นมาอีกแขนงหนึ่ง ลักษณะโครงเรื่องยังคงเส้นคงวากับคอนเซปต์เดิม คือ ต้องย้อนเวลาไปหาประวัติศาสตร์ โชว์ความโรแมนติกจากบทบาทคู่พระ-นาง มีบทคอมเมดี้น่ารัก ๆ สร้างสีสัน โปรดักชั่นสถานที่ค่อนข้างน้อย แต่ยังมีภาพความละเอียด คมลึก สอดรับกับดนตรีมีความคลาสสิก บิวต์อารมณ์คล้าย ๆ ละครโทรทัศน์ มีคอสตูมชุดไทยสวย ๆ งานดีเพียบ การปูเรื่องช่วงองค์แรก ค่อนข้างเนือยและอธิบายความเกี่ยวข้องของตัวละครหลัก อาจต้องใช้ตั้งสมาธิดู แต่อย่าเพิ่งไปคาดหวังอะไรมาก โดยเฉพาะแฟนละครที่ยังติดภาพของ “พี่หมื่นเดช” และ “แม่การะเกด” อยู่ แต่พอเข้าสู่องค์ที่ 2-3 จะเห็นตัวตนของ “ภพ” และ “เกสร” ชัดขึ้น เนื้อเรื่องเริ่มเข้มข้นขึ้น ดำเนินเรื่องไวขึ้น

ฉากโดดเด่นคงต้องยกให้เป็นช่วง ภพ คลั่งรักไล่จีบ เกสร เอาใจ “แฟนเซอร์วิส” กลุ่มแฟนคลับหิ้วหมอนไปจิกได้เลย รับประกันฟินแน่นอน แต่ในส่วนของความฮา การส่งมุก-ตบมุกกันโบ๊ะบ๊ะ ระดับความขำยังทำได้แค่ 6/10 สำหรับนักแสดงสมทบตัวละครในประวัติศาสตร์ที่สำคัญอย่าง “สุนทรภู่” (รับบทโดย นิมิตร ลักษมีพงศ์) และ “หลวงพ่อ ปาลเลอกัวซ์” (รับบทโดย โจนาธาน แซมซัน) บทไม่เยอะ แต่ยังขโมยซีนได้แน่นอน “พี่ปี่” (รับบทโดย ปวีณ์นุช แพ่งนคร) บ่าวสาวใช้ ขาดไม่ได้เลย ถ้าไม่มีนี่หนักเลย ไม่มีคนตบมุกให้นางเอก สรุป หนังทำออกมาได้กลมกล่อม ไม่มากไปน้อยไป พอดูได้หายคิดถึง ช่วงท้ายมี End Credit เชื่อมไปยังจักรวาลบุพเพอื่น.

ปาลเลอกัวซ์" พระอาจารย์ของ "เจ้าฟ้ามงกุฎ" ผู้กระชับความสัมพันธ์สยาม-ตะวันตก

จุดอ่อน “บุพเพสันนิวาส 2”

ความเป็นหนังรักโรแมนติก อาจขัดใจแฟนละคร เพราะช่วงกลางเรื่องและท้ายเรื่อง ดูจะไม่ค่อยใส่รายละเอียดมากนัก เกิดความไม่สมเหตุสมผลในบางจุด รวมทั้งความคาใจในบทบาทของ “ขุนยุทธมาตย์” ชายผู้สวมหน้ากาก ที่ยังคงเป็นปริศนาว่าเขาคือใครกันแน่ อีกทั้งยังมีฉากโชว์สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ รวมทั้งอาหารไทยน่ารับประทาน แบบละครภาคแรก ก็ดูจะน้อยลงแบบน่าใจหาย

5/5 สำหรับหนังรักโรแรมติก ที่ทำออกมาเอาใจแฟน ๆ ที่รัก คู่พระนาง โป๊ป-เบลล่า โดยเฉพาะ แม้จะมีความขาด ๆ เกิน ๆ ไป

คอลัมน์ : ดูหนังกับหมี
โดย : แพนด้าอ้วน

ขอบคุณข้อมูล ภาพ จากเว็บไซต์ Youtube และ GDH