นับถึงวันที่ทุกท่านได้อ่านบทความชิ้นนี้ เหลือเวลาแค่ 1 เดือนนิด ๆ ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ จะเปิดฉากขึ้นแล้ว…

อย่างที่หลายท่านคงทราบว่า ฟุตบอลโลกครั้งนี้ เป็นฟุตบอลโลกที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นที่ถกเถียงมากที่สุด พูดง่าย ๆ ว่ามีข้อกังขามาตั้งแต่การประกาศว่า กาตาร์ ได้เป็นเข้าภาพเมื่อเดือนธันวาคม 2010 หรืแ 12 ปีก่อนแล้ว จนมาถึงเวลานี้ อีกแค่เดือนเดียวทัวร์นาเมนต์จะเปิดฉาก ก็ยังคงมีข้อกังขาในอีกหลาย ๆ เรื่องไม่หยุดไม่หย่อน

เรื่องหลัก ๆ ที่พูดถึงกันเยอะ คือเรื่องของข้อจำกัดในการดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องด้วย กาตาร์ เป็นประเทศมุสลิมที่เคร่งครัด การดื่มแอลกอฮอล์อย่างเปิดเผยย่อมเป็นเรื่องต้องห้าม

แต่กับบรรยากาศของทัวร์นาเมนต์แบบนี้ มันคือบรรยากาศของการเฉลิมฉลองโดยมีแฟนบอลจากทั่วโลกหลั่งใหลมาไม่ต่ำกว่าล้านคน การดื่มแอลกอฮอล์ คือเรื่องที่ขาดไม่ได้

ซึ่งถึงตรงนี้ เจ้าภาพยืนยันแนวทางปฏิบัติ คือจะมีการจัดโซนนิงให้แฟนบอลขี้เมาดื่มเป็นที่เป็นทาง และมีการจำกัดเวลา อีกทั้งจะเป็นการจำกัดพื้นที่เพื่อไม่ให้ผู้ที่กระแสเลือดอุดมไปด้วยแอลกอฮอล์ทั้งหลายออกไปก่อปัญหาที่อื่น

แม้จะมีข้อจำกัดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ก็ถือว่ายังดีกว่าไม่มีแอลกอฮอล์ให้ดื่มฉลองเลย…

อีกเรื่องที่เป็นข้อถกเถียงคือเรื่องของกลุ่ม LGBTQ+ ซึ่งตามกฏหมายของกาตาร์ ถือเป็นเรื่องผิดกฏหมาย

จริง ๆ แล้ว ตอนที่ประกาศว่า กาตาร์ ได้เป็นเจ้าภาพเมื่อ 12 ปีก่อน เชื่อว่าทั้ง ฟีฟ่า และทีมบิดของกาตาร์ คงไม่คิดว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นปัญหาด้วยซ้ำ แต่โลกหมุนผ่านไป 12 ปี เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นสำคัญของสังคมทั่วโลก

ทำให้ล่าสุด กาตาร์ ต้องยอมผ่อนปรน โดยมีการยืนยันแล้วว่าคู่รักร่วมเพศสามารถแสดงออกถึงความรักในที่สาธารณะ อาทิการเดินจับมือกันได้ ตราบใดที่ไม่ประเจิดประเจ้อจนเกินไป

จะว่าไปแล้ว เรื่องเหล่านี้ถือว่ามุมใครมุมมัน เหมือนเราไปบ้านใครก็ควรต้องเกรงใจและทำตามกฏและมารยาทของบ้านนั้น ขณะเดียวกัน เจ้าบ้านก็ย่อมไม่ควรเอากฏของบ้านตัวเองบีบบังคับแขกผู้มาเยือนจนเกิดความอึดอัด

ถ้าพบกันครึ่งทางได้ ก็เชื่อว่าทุกอย่างก็น่าจะแฮปปี้…

ผยองเดช