หลังจากพรรคฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลจำนวน 6 คน หนึ่งในนั้นคือ  “สุชาติ ชมกลิ่น” รมว.แรงงาน พร้อมข้อกล่าวหาปล่อยปละละเลยให้แรงงานต่างด้าวทะลักเข้ามาทำงานในประเทศไทย  นำมาสู่การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และเป็นเหตุให้แรงงานตกงานจำนวนมาก “ทีมการเมืองเดลินิวส์” ได้พูดคุยกับนายสุชาติ เพื่อให้คลายข้อสงสัยดังกล่าว

โดยนายสุชาติ ระบุว่า ภารกิจของกระทรวงแรงงาน คือการตรวจสอบโรงงานว่ามีการจ้างแรงงานผิดกฎหมายหรือไม่ หากมีก็แจ้งเจ้าหน้าตำรวจดำเนินคดี ซึ่งที่ผ่านมามีการตรวจหาเชื้อหาเชื้อโควิดให้กับแรงงานต่างด้าวเป็นล้านๆคนไปแล้ว ส่วนกรณีเกิดการระบาดระลอกสองที่จ.สมุทรสาคร ที่มีแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้ามา ซึ่งตามแนวชายแดนมีเจ้าหน้าที่ทหาร ฝ่ายปกครอง ดูแลอยู่จำนวนมาก แต่ระยะทางที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านก็ยาวนับพันกิโลเมตร ประกอบในช่วงนั้นมีการสู้รบที่เมียนมาด้วยจึงมีการทะลักเข้ามา

แต่ในแง่ของการป้องกันตั้งแต่ปี 2563 ที่มีการระบาดของโรค กระทรวงแรงงานก็ไม่อนุญาตให้มีการนำเข้าแรงงาน MOU แล้ว สิ่งที่ดำเนินการคือนำแรงงานต่างด้าวที่อยู่ในประเทศไทยแบบผิดกฎหมายให้ขึ้นมาอยู่ในระบบเพื่อให้รู้ตัวตนไม่ให้หลบหนี มีการลงทะเบียน 6 แสนคน แต่ซ้ำซ้อน 1 แสนคน เหลือประมาณ 5 แสนคน ก็ให้ถ่ายไบโอแมทริกซ์ ของ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อให้มีหลักฐานยืนยันตัวตน และให้จ่ายค่าประกันสุขภาพเวลาเจ็บป่วยโควิด-19 จะได้มีระบบการรักษา โดยไม่ต้องใช้ภาษีของประเทศไทย

“เพราะฉะนั้นที่ฝ่ายค้านพูดมาก็เป็นแค่ข้อกล่าวหา ก็ต้องถามกลับไปฝ่ายค้านด้วยว่า ในปี 2554-2556 ที่ฝ่ายค้านเป็นรัฐบาล มีการขึ้นทะเบียนเป็นล้านคน ส่วนสมัยรัฐบาล คสช.ถึงปัจจุบัน 7 ปี มี 5 แสนคน ถามว่าใครหนักกว่ากัน ข้อกล่าวหาพูดได้เพราะไม่รู้ความจริง แต่ส่วนตัวก็สามารถตอบได้ การหักล้างเป็นสีสันของระบบประชาธิปไตย ความสวยงามของระบบรัฐสภา”

@ มีข้อสังเกตว่าเป็นเกมการเมืองในพรรคพลังประชารัฐที่ยืมมือฝ่ายค้านยื่นญัตติเช่นนี้

ก็มีคนคิดแบบนั้นได้ แต่ผมไม่ได้สนใจว่าจะเป็นเกมตามที่เขาลือกันหรือจะเป็นตามความต้องการของฝ่ายค้าน แต่ผมพร้อมจะอยู่ในนั้นอยู่แล้ว เพราะเป็นรัฐมนตรีโดยการแต่งตั้งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็อยากจะออกรบเคียงคู่นายกฯ  ท่านเป็นคนให้โอกาสผม เป็นรมว.แรงงานเข้ามาทำเรื่องพวกนี้ ก็แบ่งเบาภาระท่านในการตอบเรื่องพวกนี้ไปเลย ส่วนเสียงลือเสียงเล่าอ้างผมไม่อยากไปค้นหาว่าเรื่องจริงหรือไม่จริง แต่ความภูมิใจที่เป็นรัฐมนตรีโดนอภิปรายทุกครั้งก็มีความสุขและยังได้ชี้แจงผลงานที่ทำมาด้วย

@ กังวลว่าคะแนนโหวตจะติดลำดับบ๊วยอีกหรือไม่

การโหวตเป็นเอกสิทธิของส.ส. ไม่สามารถสั่งได้ แต่ให้เป็นไปในแนวทางเดียวกันได้ โดยมารยาททางการเมืองเชื่อว่าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ที่มีหัวหน้าพรรคชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่พี่น้องสมาชิกพรรคทุกคนให้ความรักเคารพ เป็นศูนย์กลางจิตใจของทุกคน ยิ่งวันนี้มีเลขาธิการพรรคคนใหม่ ชื่อร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นคนมีคอนเน็คชั่นทั้งในพรรค และพรรคร่วมรัฐบาล เชื่อว่าคงไม่ปล่อยให้คะแนนในพรรคตกหล่นไปไหน เพราะนี่เป็นตัววัดศักยภาพของแม่บ้านพรรคที่ต้องควบคุมสมาชิกในพรรคด้วย เชื่อว่าร.อ.ธรรมนัส มีความสามารถในการที่จะควบคุมดูแลแบ่งเบาภาระปัญหาให้กับหัวหน้าพรรคได้

@ ท่ามกลางการถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ก็มีผู้ใช้แรงงานจำนวนหนึ่งออกมา SAVE รมว.แรงงาน

ต้องขอบคุณ ผู้นำแรงงานต่างๆ พี่ออกมาโพสต์ save ผม ถือเป็นกำลังใจมาก และเป็นสิ่งที่ทำให้ฝ่ายค้านรู้ว่านี่คือการทำลายมวลชนเอง  เพราะแรงงานหลายสิบล้านคน เขารู้สึกว่า 1.ถ้าไม่มีผม ไม่มีรัฐบาล ไม่มีนายกฯ ที่ชื่อพล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีรองนายกฯ ที่ชื่อพล.อ.ประวิตร ที่ดูแลกระทรวงแรงงาน ไม่มีหรอกที่กระทรวงแรงงานจะมีบทบาทขนาดนี้  ทุกรัฐบาลที่ผ่านมาเคยเห็นกระทรวงแรงงานยุคใดบ้างที่แรงงานมามอบดอกไม้ ติดแฮชแท็ก save มีแต่ลงถนนประท้วง

@ การแพร่ระบาดของโรคโควิด คาดการณ์ว่าจะมีคนว่างงานกันมาก

ก่อนหน้านี้ผมทำโครงการมหกรรมจ๊อบเอกซ์โป ตั้ง เป้าหมายคนไทยมีงานทำ 1 ล้านคน  ล่าสุดบรรจุทำงานไป 1.3 ล้านคน แต่ต่อมาก็มีนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามมาพูดว่าคนตกงานจำนวนเท่านั้นเท่านี้ พล.อ. ประวิตร จึงให้ผมเตรียมหางานรองรับเพิ่ม โดยเฉพาะแรงงานทักษะฝีมือเงินเดือนสูงมี 3 แสนกว่าอัตราที่จะรองรับ  รวมถึงงานที่แรงงานต่างด้าวทำที่คนทำไทยสามารถทำได้กว่า 420,000 อัตรา รายได้มากกว่าค่าแรงขั้นต่ำแน่นอน เช่น อาหารแช่แข็ง ทำแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ทุกคนชอบคิดว่าคนตกงานเยอะในช่วงโควิด แต่ฐานข้อมูลในระบบประกันสังคม ม.ค.-ธ.ค. 63 มีคนออกจากงาน  1,061,000 คน แต่เกือบ 4 แสนคนไปอยู่สถานประกอบการใหม่

ส่วนโตวิดระลอกใหม่ที่ได้รับผลกระทบคือกลุ่มร้านอาหาร ภัตตาคาร หาบเร่ แผงลอย เพราะการล็อคดาวน์ แต่ที่น่าแปลกคือคนออกจากงานประมาณ 4 แสนนิดๆ แต่ก็ไปทำงานที่สถานประกอบการใหม่ 2 แสนกว่าคน คนเข้าใหม่อีก 2 แสนกว่าคน กลายเป็น 5 แสนคนเข้าระบบการจ้างงาน กลับกลายเป็นบวกบางกิจการ เช่นยานยนต์มีออเดอร์เข้าทำโอทีไม่หยุด มีการจ่ายโบนัส 7 เดือน เพราะแหล่งผลิตประเทศอื่นปิด เขาขอบคุณรัฐบาลเพราะสามารถพยุงให้เขาอยู่รอดได้ด้วยการทำแฟคทอรี่ แซนบ็อกซ์ คัดกรอง 100% และวัคซีนใส่เข้าไป กลุ่มนี้รับสมัครพนักงานเพิ่มตลอดเพราะ Order ล้น วันนี้ ธุรกิจยานยนต์ ธุรกิจส่งออกอาหารแช่แข็ง ธุรกิจเครื่องมือแพทย์  ธุรกิจแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ อัตราการจ้างงานเกือบปี 10% ของตลาดการจ้างงานหรือประมาณ 4 ล้านคน 

“โรคติดต่อเป็นโรคอุบัติใหม่ ผมเอานวัตกรรมสาธารณสุข เดินคู่กับระบบเศรษฐศาสตร์เป็นนิยามใหม่ของประเทศไทย ที่ได้มาจากประสบการณ์ชีวิตทั้งหมด ที่เคยเป็นกรรมกรไปจนถึง CEO บริษัทมหาชน จึงรู้ตั้งแต่รากจนถึงยอดต้นไม้ แล้วผมจะตอบคำถามสังคมไม่ได้หรือว่าจะแก้อย่างไรในเรื่องแรงงาน เพราะผมเห็นมาหมดแล้ว”.