ประเทศไทยติดอันดับ 1 ของการเป็นจุดหมายปลายทางเทศกาลตรุษจีนโลก ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยจะเริ่มเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม 2566 เป็นต้นไป “เทศกาลตรุษจีน” เป็นห้วงเวลาสำคัญของชาวจีน ที่ถือเป็นประเพณีปฏิบัติมาต่อเนื่องอย่างยาวนาน ในการเดินทางกลับไปเยี่ยมถิ่นฐานภูมิลำเนาของแต่ละครอบครัว นอกจากนี้ในปัจจุบัน ยังมีการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศมากขึ้นเป็นลำดับ ซึ่งเป็นไปตามสภาพการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ

ปี 2566 นี้ หลังจากรัฐบาลจีนยกเลิกมาตรการควบคุมโควิดเป็นศูนย์ (Zero-COVID ) ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 เป็นต้นมา ตัวเลขการเดินทางท่องเที่ยวของชาวจีนมีเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ คาดว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในจีนและการเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศจะเติบโตขึ้น ในขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวชาวจีน จะเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศมากขึ้นเช่นเดียวกัน ส่งผลให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวในแต่ละประเทศมีมูลค่าสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก จะฟื้นตัวได้รวดเร็วมากกว่าภูมิภาคอื่น มีรายงานว่า ตรุษจีนปีนี้นักท่องเที่ยวจากประเทศจีนและประเทศอื่นๆ ทั่วโลก จะเดินทางไปท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เป็นหลัก

ข้อมูลจาก Sojern ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านโซลูชันการตลาดดิจิทัลสำหรับการท่องเที่ยว ระบุว่า ยอดค้นหาเที่ยวบินในการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก พบว่าเทศกาลตรุษจีน ปี 2566 “ประเทศไทย” ติดอันดับ 1 ของจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกให้ความสนใจจะเดินทางมาเยือนมากที่สุดร้อยละ 27 ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (เลื่อนจากอันดับ 2 ในปี 2565 มาเป็นอันดับ 1 ในปีนี้) ญี่ปุ่น ร้อยละ 19 สิงคโปร์ ร้อยละ 18 ฟิลิปปินส์ ร้อยละ 10 และมาเลเซีย ร้อยละ 8

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยในห้วงเวลาเทศกาลตรุษจีน ดีเกินคาด ดังจะเห็นได้จากการจองเที่ยวบินระหว่างวันที่ 1-7 กุมภาพันธ์ 2566 ที่สนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิ จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 ซึ่งปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยงชาวจีนสนใจเดินทางเข้าสู่ประเทศไทย​มากขึ้น เป็นเพราะได้รับอิทธิพลจากภาพยนตร์เรื่อง Detective Chinatown ที่ถ่ายทำในประเทศไทย

นางศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์ รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ กล่าวว่า ช่วงตรุษจีน ด่านเชียงของ จังหวัดเชียงราย เป็นด่านที่มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางผ่านมาทางรถยนต์มากที่สุด คาดว่า ปีนี้จะเดินทางมาถึง 4,000 คัน นักท่องเที่ยว 16,000 คน ททท. กังวลในด้านความความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยรถยนต์ เพราะไม่ได้ทำการประกันภัยด้านการท่องเที่ยว อีกทั้งไม่รู้กฎจราจรที่แตกต่างกัน จึงได้ประชาสัมพันธ์ให้ชาวจีนเดินทางท่องเที่ยวทางรถยนต์ โดยมีบริษัททัวร์ให้การดูแลทั้งต้นทางและปลายทาง

น.ส.วรรณสิริ โมรากุล รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า นักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาไทยผ่านด่านเชียงของในปีนี้ มีโอกาสเติบโตกว่าปี 2565 มากกว่า 1 เท่าตัว

นางมนฤดี เกตุพันธุ์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวว่า วันที่ 25 มกราคม-26 กุมภาพันธ์ 2566 จะมีเที่ยวบินที่เข้ามาใช้บริการสนามบินภูเก็ตเพิ่มขึ้นอีก 29 เที่ยวบิน ซึ่งมาจากจีน อาทิ สายการบินไชน่า เซาท์เทิร์น จำนวน 18 เที่ยวบิน ผู้โดยสาร 4,286 คน

นายกฤติยา ก้อนทอง รองผู้อำนวยการ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวว่า เทศกาลตรุษจีนปีนี้ คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นเป็น 30,000 คนต่อวัน และวันที่ 1-20 กุมภาพันธ์ 2566 จะมีเที่ยวบินจากจีนเพิ่มขึ้นอีก 116 เที่ยวบิน คาดว่าจะมีผู้โดยสาร 20,000 คน

จากกระแสความสนใจของประชาชนในแต่ละประเทศ ที่ให้ความสนใจเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศ แสดงให้เห็นถึงโอกาสอันดีที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยจะได้รับประโยชน์ทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ฉะนั้นการบริการให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมีความประทับใจและการดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว จะเป็นปัจจัยสำคัญในการนำไปสู่ความเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยอย่างมั่นคงและยั่งยืน

…………………………
คอลัมน์ : ว่ายทวนน้ำ
โดย “ทวีศักดิ์ อุ่นจิตติกุล”
แฟนเพจ : สาระจากพระธรรม