หากพูดถึงเกิร์ลกรุ๊ปมากความสามารถที่มี และมีไลน์การเต้นที่สวยคมโดดเด่น หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ “EVERGLOW” ติดอยู่อันดับต้น ๆ แน่นอน ซึ่งล่าสุดสาว ๆ ได้มีโอกาสบินตรงมาแสดงบนเวทีคอนเสิร์ตที่เมืองไทย ให้เหล่า “FOREVER” (ชื่อแฟนคลับ) ชาวไทยได้หายคิดถึง รวมทั้ง “Do Concert” ยังใจดีชวน “ฮาอึน” ไปพูดคุยกับทั้ง 6 สมาชิก นำโดย ซีฮยอน ลีดเดอร์ , อียู  , มีอา , อนดา , อาช่า และ อี้เหริน ทั้งความรู้สึกที่ได้กลับมาเยี่ยมแฟน ๆ ชาวไทยในรอบหลายปี รวมทั้งเปิดมิตรภาพ มุมมองด้านดนตรี และตัวตนของสาว ๆ ที่จะให้ทุกคนได้รู้จักพวกเธอมากขึ้น ที่สำคัญไม่พลาดพูดคุยถึงความประทับใจกับการเดินทางมาเมืองไทยครั้งนี้ และเผยความรู้สึกซึ้ง ๆ ถึง “FOREVER ชาวไทย” อีกด้วย

Q : พูดถึงการร่วมเทศกาลดนตรีที่เมืองไทยหน่อย รู้สึกยังไงบ้างที่ได้มาแสดงคอนเสิร์ตแบบต่อหน้าแฟน ๆ  (Off Line) ในเมืองไทยครั้งนี้?

อียู : อย่างแรกเลยพวกเรามีความสุขมาก ๆ ค่ะ และตอนที่อยู่เวที แฟน ๆ เชียร์และให้เสียงตอบรับที่ร้อนแรงมาก เสียงดังมากจริง ๆ ตอนแรกเราขึ้นไปบนเวทีด้วยความกังวลมาก แต่พอขึ้นไปปุ๊บ แฟน ๆ กรี๊ดต้อนรับดังมาก ๆ ดังนั้นแม้ว่าท่าเต้นต่าง ๆ จะยากมาก แต่ด้วยเสียงตอบรับที่ดีจากแฟน ๆ แบบนี้ เลยทำให้พวกเรามีพลังและมีความสุขมาก ๆ ค่ะ

Q : นอกจากเสียงต้อนรับที่มีพลังจากแฟน ๆ บนเวทีมีอะไรประทับใจเล่าให้ฟังอีกบ้าง?

มีอา : ตอนที่อยู่หน้าเวที เห็นมีแฟนคลับเต้นตาม ซึ่งจริง ๆ ท่าเต้นของพวกเราก็ยากมาก ๆ เลย แต่แฟนคลับก็ยังเต้นตามได้ และมีอินเนอร์ทางสีหน้า ทั้งที่ยากมากแต่แฟน ๆ ก็ยังทำเต็มที่มาก ๆ ก็รู้สึกว่าน่ารักมาก เป็นโมเมนต์ที่จำได้แม่น เพราะแฟนคลับน่ารักมากค่ะ

Q : อยากให้แฟนชาวไทยจดจำการแสดงของพวกคุณครั้งนี้ยังไง?

ซีฮยอน : อยากให้แฟน ๆ จดจำพวกเราว่าเป็นวง ‘EVERGLOW’ ที่มีเพอร์ฟอร์แมนซ์ที่แข็งแรงมาก ๆ และมีท่าเต้นที่เท่มาก รวมทั้งอยากให้แฟนคลับ ทั้ง ‘FOREVER’ และแฟน ๆ ที่เพิ่งเจอเราครั้งแรกบนเวทีคอนเสิร์ตที่ผ่านมา จดจำว่าเราเป็นวงที่มีภาพลักษณ์การเพอร์ฟอร์แมนซ์ที่แข็งแกร่ง และครั้งหน้ามีโอกาสได้มาเมืองไทยอีก ก็อยากแสดงเพอร์ฟอร์แมนซ์ที่ดี ๆ และแข็งแรงแบบนี้ ให้แฟน ๆ ได้ดูกันอีกค่ะ (ยิ้ม)

Q : เตรียมตัวมาเมืองไทยครั้งนี้ยังไงบ้าง มีฝึกภาษาไทยคำไหนเป็นพิเศษมั้ย?

อนดา : สำหรับการมาคอนเสิร์ตที่เมืองไทยครั้งมันจะมีเวที ที่เป็นสเตจเป็นแคทวอร์ค ยื่นออกไป ดังนั้นพวกเราเลยได้เปลี่ยนท่าเต้น เพื่อทำให้เราสามารถเข้าไปพูดคุยกับแฟน ๆ ได้มากขึ้น ก็รู้สึกว่าเราใส่ใจกับเรื่องนี้เป็นพิเศษค่ะ

Q : Happy 4th anniversary เห็นเพิ่งฉลองครบรอบ 4 ปีการเดบิวท์ รู้สึกยังไงกันบ้างที่ได้เดินทางด้วยกันมาถึง 4 ปีแล้ว?

อาช่า : อย่างแรกที่ฉันอยากบอกเลยก็คือขอบคุณ FOREVER ที่ติดตามกันมาตลอดเลย สำหรับ 4 ปีที่ผ่านมา ไม่เปลี่ยนแปลงไปเลยค่ะ และฉันก็คิดว่าช่วงนี้เป็นช่วงเริ่มต้นที่จะทำให้ทุกคนได้เห็นภาพลักษณ์ใหม่ ๆ ของ ‘EVERGLOW’ ด้วยค่ะ (ยิ้ม)

Q : ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ประทับใจอะไรกันมากที่สุด?

ซีฮยอน : อย่างแรกเลยก็น่าจะเป็นเรื่องของการอยู่ในหอพัก เพราะอยู่ด้วยกันมา 4 ปีเลย ก็เห็นกันมาตลอด

อาช่า : จริง ๆ พวกเราอยู่ด้วยกันเยอะกว่าที่อยู่กับครอบครัวอีกค่ะ เลยรู้สึกผูกพันกัน ได้เห็นกันบ่อย ๆ ก็คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องที่เรารู้สึกประทับใจซึ่งกันและกันมากที่สุดในตอนนี้ค่ะ

อี้เหริน : ส่วนตัวฉันคิดว่าการที่ได้อยู่กับเมมเบอร์ ก็ทำให้พวกเรารู้สึกเข้มแข็งมากขึ้น เพราะอย่างตอนที่เราต้องมาอยู่ในหอด้วยกัน ก็จะไม่ได้เจอกับทางครอบครัว แต่ว่าเราก็มีสมาชิกที่อยู่ด้วย ทำให้เรามีความเข้มแข็งและสามารถสู้กับสิ่งต่าง ๆ ได้มากขึ้นด้วยเมื่อเราได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ค่ะ

Q : เวลาความเห็นไม่ตรงกันหรือไม่เข้าใจกัน หาทางออกยังไง?

อียู : อย่างแรกเลยเราจะคุยกัน สื่อสารกันว่ามันมีเรื่องอะไร หรือเหตุการณ์ไหนที่ทำให้ฝ่ายใดฝ่านนึงรู้สึกไม่ดี เพื่อลดปัญหาและเหตุการณ์เหล่านั้นให้ได้มากที่สุดค่ะ ดังนั้นก็จะเป็นการคุยกันเป็นหลัก และหากมีเรื่องอะไรก็ตามที่ต้องยกมืออกเสียงส่วนใหญ่ หรือเป็นการตัดสินใจเรื่องอะไรสักอย่าง พวกเราก็จะใช้หลักประชาธิปไตย เสียงข้างมากว่ายังไง ก็ตามความคิดเห็นเหล่านั้นค่ะ

Q : อยากได้เสน่ห์หรือความสามารถพิเศษของสมาชิกในวง อยากอะไรจากใคร?

อาช่า : ฉันอยากได้ความตัวยืดหยุ่นของคุณอี้เหรินค่ะ เพราะฉีกขาก็ได้ ตัวยืดหยุ่นดีมาก ๆ จุดนี้ก็รู้สึกอิจฉามากเลยค่ะ (ยิ้ม)

อียู : ฉันอยากได้ความแขนยาว ขายาว ความตัวยาวของคุณอาช่าค่ะ เพราะว่าฉันเป็นคนที่ตัวเล็กที่สุดในวง ดังนั้นตอนที่เต้น ก็อยากลองแขนขายาวดูบ้าง มันก็น่าจะสบายดีนะคะ (ยิ้ม) ขยับตัวได้สบายดี เลยอยากได้จุดนี้ค่ะ

จากวันแรกที่ได้เจอกัน จนถึงวันนี้ มีสมาชิกคนไหนบ้างมั้ยที่มีมุมที่เราไม่เคยรู้มาก่อน หรือเปลี่ยนไปจากวันแรกที่เดบิวท์มากที่สุด

มีอา : ส่วนฉันอยากได้เสียงของคุณซีฮยอนค่ะ (ยิ้ม) เพราะพี่เขาเสียงเพราะมาก เวลาที่ฉันร้องเพลงก็อยากได้เสียงแบบนี้ออกมาค่ะ

ซีฮยอน : ส่วนฉันอยากได้การเต้นที่แข็งแกร่งแบบคุณมีอาค่ะ เพราะว่าไม่ว่าจะเป็นแนวไหน ก็เต้นได้เท่และแข็งแรงหมดเลย ดังนั้นฉันเลยอยากได้ทักษะการเต้นของคุณมีอาค่ะ (ยิ้ม

อนดา : ส่วนตัวฉันอยากได้ความรวดเร็วของคุณอียูค่ะ อย่างตอนที่เราแสดงเพอร์ฟอร์แมนซ์ ฉันจะมีความกังวลว่ารองเท้าจะหลุดบ้าง ทำอะไรไม่ทันบ้าง หรือรีแอคชั่นต่าง ๆ ไม่ทัน แต่คุณอียูจะไม่มีอะไรแบบนั้นเลย พี่เขามีความคล่องแคล่วว่องไว และเป็นคนที่รับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ เหล่านั้นได้ดีมาก ๆ ค่ะ (ยิ้ม)

อี้เหริน : ฉันอยากได้ความมุ่งมั่นตั้งใจ อยากได้แพสชั่นของคุณอนดาค่ะ (ยิ้ม) เพราะไม่ว่าจะทำอะไรเขาจะตั้งใจทำและเต็มที่กับทุกอย่างเลยค่ะ ก็อยากได้สิ่งนี้ค่ะ

Q : จากวันแรกที่ได้เจอกัน จนถึงวันนี้ มีสมาชิกคนไหนบ้างมั้ย ที่มีมุมที่เราไม่เคยรู้มาก่อน หรือเปลี่ยนไปจากวันแรกที่เดบิวท์มากที่สุด?

อียู : คือพวกเราอยู่ด้วยกันมานานมาก ๆ แล้ว ประมาณ 8-9 ปี แล้ว เพราะฉะนั้นก็จะไม่มีจุดไหนที่รู้สึกว่า โอ๊ะ! เป็นคนแบบนี้ เพราะว่าเราอยู่ด้วยกันมานานมาก ๆ จนกลายเป็นอารมณ์แบบ อ๋อ! เป็นคนแบบนี้นี่เอง ซึ่งเรารับกันได้หมดแล้วซะมากกว่า(ยิ้ม)

อี้เหริน : แต่สำหรับฉันมีค่ะ คือตอนแรกคุณมีอาช่วงที่ยังเป็นเด็กฝึก ก็ไม่คิดว่าจะเป็นคนที่รับฟังฉันเยอะขนาดนี้ แต่พอโตขึ้นและน่าจะเป็นเพราะสนิทกันด้วย เลยรู้สึกว่าเรารับฟังกันมากขึ้น เล่นด้วยกันเยอะมากขึ้น เรื่องนี้ก็แอบเหนือความคาดหมายนิดนึงค่ะ

Q : ในวงใครเป็นคนที่คอยดูแล สมาชิกคนอื่น ๆ ได้ดีที่สุด?

ซีฮยอน : ฉันคิดว่าน่าจะเป็นพี่ใหญ่ของเรา คือพี่อียูค่ะ เพราะด้วยความที่เป็นพี่ใหญ่ด้วย และเหมือนพี่เขาเป็นผู้ใหญ่ที่สุด เวลาที่พวกเราคิดอะไรไม่ออก หรือมีบางจุดที่เรานึกไม่ได้ พี่อียูก็จะเป็นคนช่วยคิดให้เราตลอด เป็นคนที่คอยดูแลพวกเราอยู่เสมอเลยค่ะ

Q : ในยามเหนื่อยหรือท้อ อะไรคือกำลังใจสำคัญของพวกคุณ?

ซีฮยอน : กำลังใจที่สำคัญก็คือของกินค่ะ! (หัวเราะ) เช่น ข้าว เป็นอะไรที่เรียกพลังให้พวกเราได้

มีอา : วิธีการที่จะทำให้พวกเรามีความสุขได้เร็วขึ้นมากที่สุดก็คือ กิน! เช่น เนื้อ (หัวเราะ) เติมพลังได้อย่างรวดเร็วเลยค่ะ

Q : เมื่อพูดถึง “EVERGLOW” อยากให้คนคิดถึงอะไรมากที่สุด?

ซีฮยอน  : อยากให้คิดว่าเป็นทีมที่มีเพลงดีมากค่ะ อย่างในเพลย์ลิสต์ส่วนตัวของฉัน หากเอาเพลงไหนใส่ลงไปในเพลย์ลิสต์ ฉันก็จะไม่ได้ดูหรอกว่าหน้าตาของศิลปินเป็นยังไง แต่เป็นเพราะเพลงดี ฉันเลยนำไปใส่ในเพลย์ลิสต์ ซึ่งฉันก็อยากให้ ‘EVERGLOW’  เป็นแบบนั้นค่ะ

Q : เป้าหมายที่พวกคุณอยากทำให้สำเร็จต่อจากนี้ คืออะไร?

ซีฮยอน : เมื่อก่อนวงเราก็ฟังเพลงของรุ่นพี่ ‘BTS’ เยอะกันอยู่แล้วนะคะ แต่พอตอนนี้ได้มาลองฟังเพลงของ  ‘BTS’ อีกครั้ง และลองอ่าน ลองทำความเข้าใจเนื้อเพลงที่รุ่นพี่ทำ คือจะไม่ได้เป็นการเขียนเนื้อเพลงที่แสดงถึงความเป็นวง หรือสีสันของวงเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นการพูดถึงวิถีชีวิตของผู้คนทั่วทั้งโลก เหมือนทำให้คนเข้าถึงเพลงนั้นได้ เพราะฉะนั้นเลยทำให้ฉันรู้สึกว่านี่แหละ! เป็นศิลปินจริง ๆ ดังนั้นถ้าในอนาคตมีเพลงใหม่ ๆ เราก็อยากเขียนเนื้อเพลงที่เข้าถึงผู้คน ทำให้คนทั่วทั้งโลกได้ฟังแล้วรู้สึกว่านี่คือเพลงจริง ๆ สิ่งนี้ ก็คือเป้าหมายของพวกเราค่ะ

Q : มีศิลปินคนไหนที่ “EVERGLOW” อยากร่วมงานด้วยที่สุดบ้าง?

อี้เหริน : ฉันอยากร่วมงานกับคุณ  ‘เทย์เลอร์ สวิฟต์’ ค่ะ เพราะเป็นศิลปินที่ฉันชอบมาตั้งแต่สมัยที่เรียนมัธยมต้นเลย

มีอา : ฉันอยากร่วมงานกับคุณ  ‘เลดี้ กาก้า’ ค่ะ เพราะอยากเต้นบนเวทีด้วยกันสักครั้งนึง (หัวเราะ)

อียู : ฉันอยากร่วมงานกับคุณ  ‘ดัว ลิปา’ ค่ะ เพราะคุณดัว ลิป เป็นคนที่มีเสียงโลว์โทน เลยคิดว่าถ้านำมารวมเข้ากับเพลงและเมโลดี้ของ  ‘EVERGLOW’  ก็น่าจะออกมาเท่มาก ๆ เลย ดังนั้นจึงอยากลองร่วมงานกันดูสักครั้งค่ะ (ยิ้ม)

ซีฮยอน : ฉันอยากลองร่วมงานกับคุณ ‘ชอว์น เมนเดส’ ค่ะ เพราะก่อนนี้เพื่อน ๆ เลือกศิลปินผู้หญิงหมดเลย ฉันเลยอยากลองดูเอ็ทกับทางศิลปินผู้ชายดู ก็คิดว่าเพลงน่าจะออกมาดูเท่มาก ๆ เลยค่ะ

อาช่า : ฉันอยากลองร้องเพลงกับคุณ ‘คามิล่า กาเบโญ่’ ค่ะ

อนดา : ฉันอยากร่วมงานกับคุณ ‘อารีอานา กรานเด’ ค่ะ เพราะ ชอบเพลงของเธอมาก ๆ เลย หากในอนาคตได้ร่วมงานกันสักครั้งนึง ก็คงจะดีมาก ๆ เลยค่ะ

Q : คิดว่าดนตรีสามารถทำลายกำแพง หรือเชื่อมโลกใบนี้ยังไง?

มีอา : ฉันคิดว่าด้วยความที่เวลาเราฟังเพลง ก็จะฟังในเรื่องของเมโลดี้มากกว่าที่จะโฟกัสไปที่เนื้อร้องของเพลง ดังนั้นเมโลดี้นั้นเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนเข้าถึงได้ เลยคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องของกำแพงทางภาษา เราน่าจะเชื่อมต่อกันได้ โดยที่ฟังแค่เมโลดี้ก็ทำให้คนประทับใจได้แล้วเหมือนกันค่ะ

Q : หากคุณมีพี่ชายหรือน้องชาย อยากได้แนะนำสมาชิกคนไหนให้พวกเขารู้จัก?

อียู : ยากจัง (ยิ้ม) …ฉันอยากแนะนำคุณมีอาค่ะ เพราะว่าคุณมีอาเป็นคนที่งานอดิเรกที่ทำอยู่ที่บ้านเยอะ เช่น อ่านหนังสือ ดังนั้นถ้าเกิดมีพี่ชายหรือน้องชาย ก็อยากให้ทำงานอดิเรกกันที่บ้านอย่างปลอดภัย อยู่ด้วยกันที่บ้านค่ะ (หัวเราะ)

อนดา : ถ้ามีพี่ชายหรือน้องชาย ฉันก็อยากแนะนำอี้เหรินให้รู้จักค่ะ เพราะว่ามองแล้วก็น่ารัก เห็นแล้วก็แฮปปี้ ถ้าคนในครอบครัวได้สัมผัสอะไรแบบนี้ ก็น่ารักดีเหมือนกันนะคะ (ยิ้ม)

Q : ในวันนี้ที่ทั่วโลกหลายๆ  ที่ก็ไม่ได้สบายใจนัก หากมีแฟนคลับของคุณกำลังเหนื่อย ท้อ ต้องการกำลังใจ อยากบอกอะไรกับพวกเขาที่สุด?

ซีฮยอน  : ฉันคิดว่าดนตรีเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนกลายเป็นหนึ่งเดียวกันได้ แม้ว่าจะอยู่ต่างกันไปทั่วโลก ดังนั้นเราจะเป็น ‘EVERGLOW’ ที่ทำเพลงที่ดีและเป็นเพลงที่ให้กำลังใจทุกคนได้ค่ะ และอยากให้ทุกคนเข้มแข็งและมีความสุขไปด้วยกันค่ะ

Q : พูดถึงแฟนคลับหน่อย มา ณ วันนี้ “FOREVER” มีความหมายกับพวกคุณยังไง?

อาช่า : สำหรับพวกเราก็เป็นแค่คนธรรมดาคนนึง ดังนั้นก็จะมีช่วงที่เหนื่อยล้ามาก แต่ทุกครั้งก็จะได้กำลังใจจาก ‘FOREVER’ แต่ละคนส่งกำลังใจมา มันก็รวมกันเป็นพลังใจใหญ่ ๆ ให้พวกเรา ให้เรามีแรงขับเคลื่อนในการทำงานต่อไปค่ะ

Q : พูดถึงการเดินทางมาเจอแฟนชาวไทยครั้งนี้หน่อย เป็นยังไงบ้าง มีอะไรประทับใจเล่าให้ฟังมั้ย?

อี้เหริน : ฉันไม่ได้มาเมืองไทยนานมาก และแฟน ๆ ก็รอเยอะกว่าที่คิดมากเลย และเพราะว่ามีกำลังใจจากแฟน ๆ ที่มาเยอะกว่าที่คิดแบบนี้ เลยทำให้ฉันทำโชว์บนเวทีได้อย่างเต็มที่ สนุกเต็มที่มาก ๆ เลยค่ะ

Q : ได้ลองทานอาหารไทยหรือยัง มีอาหารไทยจานโปรดบ้างมั้ย?

อียู : ฉันชอบกินผัดไทยมาก ๆ ตั้งแต่ตอนที่อยู่ที่เกาหลีแล้วค่ะ (ยิ้ม) ถึงกับหาร้านอร่อย ๆ และไปทานที่ร้านเองเลย พอมาถึงเมืองไทย ทุกคนบอกว่าถ้ามาเมืองไทย ก็ต้องลองกินผัดไทยด้วย เลยรู้สึกคาดหวังมากว่าต้องมากินผัดไทยที่เมืองไทยให้ได้ และพอได้กินก็รู้สึกว่า โอ้โห! อร่อยจริง กุ้งตัวใหญ่มาก เต็มจานมาก ต่างจากที่เกาหลีเลย อร่อยมาก ๆ ค่ะ

อนดา : จริง ๆ ฉันชอบกินอะไรก็ตามที่มีมะพร้าวค่ะ ที่เกาหลีมันน้อยมาก แต่มาเมืองไทย ก็มีของกินที่ผสมมะพร้าวหลายอย่างมาก เช่น ไอศกรีม หรือขนมหวานที่มะพร้าวอยู่ในนั้น อร่อยมาก ๆ อยากกินตลอดเลยค่ะ (ยิ้ม)

Q : มีแพลนไปเที่ยวไหนในเมืองไทยเป็นพิเศษบ้างมั้ย?

อี้เหริน : มาไทยครั้งนี้ไม่มีเวลาเลยค่ะ ต้องกลับแล้ว แต่หลังสัมภาษณ์เสร็จถ้าพอมีเวลา ก็อยากไปว่ายน้ำสักนิดก็ยังดี (ยิ้ม)

Q : ถ้าให้เลือกเพลงของคุณสักเพลงนึง มอบให้แฟนชาวไทย คิดว่าเพลงไหนเหมาะกับแฟนชาวไทยที่สุด?

อียู : เพลง ‘Nighty Night’ เป็นเพลงที่อยู่ในอัลบั้ม ‘Return of the Girl’ ซึ่งคิดว่าน่าจะเหมาะกับเมืองไทยตอนกลางคืน แต่ด้วยความที่เนื้อเพลงเป็นเพลงภาษาเกาหลี ดังนั้นไม่ต้องตั้งใจฟังเนื้อเพลงก็ได้ค่ะ แต่อยากให้ฟังที่เมโลดี้ เพราะมันเหมาะมากกับประเทศไทย  ด้วยอากาศและอะไรหลาย ๆ อย่างค่ะ

Q : หากให้คิดแฮชแทคในการเดินทางมาเมืองไทยครั้งนี้ อยากใช้คำว่าอะไร?

อียู : น่าจะเป็น #ประเทศไทย #แสงแดด #มีความสุข #ร้อนแรง (หัวเราะ) น่าจะเป็นคำศัพท์พวกนี้ค่ะ คำที่พูดมาจะเป็นอะไรที่เกี่ยวกับแสงแดด และความร้อนแรง  เนื่องจากฤดูกาลในเมืองไทย  คือฤดูกาลในไทยและเกาหลีค่อนข้างกันนิดนึง พอมาถึงเมืองไทยปุ๊บ คำเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่พวกเรารู้สึกถึงในเมืองไทยเลยค่ะ  และมีอีกคำ อย่าง #ที่ประเทศไทยดีมากเลยอยากมาอีกรอบ ด้วยค่ะ

Q : ฝากผลงานและฝากถึงแฟน ๆ?

อนดา : ก่อนอื่นขอขอบคุณแฟน ๆ ทุกคนมากเลยนะคะ ที่ยังต้อนรับพวกเราอย่างดีเสมอ แม้ว่าไม่ได้เมืองไทยนานแล้ว และต่อไปเราจะเป็น ‘EVERGLOW’ ที่ทำเพลงดี ๆ มีเพอร์ฟอร์แมนซ์ดี ๆ ออกมาให้ทุกคนด้วย ได้โปรดให้ความรักกับพวกเราเยอะ ๆ ด้วย ขอบคุณมากนะคะ

เชื่อว่าบทสัมภาษณ์นี้จะให้แฟน ๆ ได้รู้จัก “EVERGLOW” เพิ่มขึ้น รวมทั้งยิ่งหลงเสน่ห์ทั้ง 6 สาวมากขึ้นเช่นกัน

ฮาอึน